โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อาชญากรรม

อายัดทันควัน! แก๊งหุ้นทิพย์หลอกเทรด คืนเหยื่อ 2 ล้านก่อนหายวับ

เดลินิวส์

อัพเดต 19 มิ.ย. เวลา 19.15 น. • เผยแพร่ 19 มิ.ย. เวลา 13.05 น. • เดลินิวส์
ตำรวจไซเบอร์ อายัดเงินขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเทรดหุ้นทิพย์ คืนผู้เสียหาย 2 ล้านบาท

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 19 มิ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณวัตต์ ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.ขจร อบทอง รอง ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.ชัยรัตน์ วรุณโณ รอง ผบก.สอท.2 พ.ต.อ.สุวัฒชัย ศรีทองสุข รอง ผบก.ตอท. ร่วมกันแถลงปฏิบัติการ “Money Cash Back“ รวบขบวนการหลอกลงทุนเทรดหุ้นทิพย์ อายัดเงินคืนผู้เสียหาย 2 ล้านบาท

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์ุเพ็ชร์ ผบ.ตร. ให้บช.สอท. ปราบปรามปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนและดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับการอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยเน้นมาตรการเชิงรุกในการติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่มีความเกี่ยวข้องในลักษณะของการเปิดบัญชีม้าให้กับกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อใช้ในการก่อเหตุหลอกลวงประชาชน

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเป็นหญิง วัย 61 ปี อดีตพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง พบโพสต์โฆษณาในเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการลงทุนเทรดหุ้น ผู้เสียหายจึงเกิดความสนใจเนื่องจากตัวผู้เสียหายเคยเทรดหุ้นอยู่แล้ว ต่อมา ผู้เสียหายจึงกดเข้าดู จากนั้นหน้าจอก็ปรากฏปุ่มให้เลือกเข้าร่วมกลุ่ม ผู้เสียหายจึงกดเข้าร่วมกลุ่มแล้วโดนเพิ่มเพื่อนในไลน์อัตโนมัติ

จากนั้นได้มีคนร้ายแจ้งว่าจะช่วยทำหน้าที่เป็นเลขาของผู้เสียหาย เพื่อคอยดูแล และเชิญเข้ากลุ่มเพื่อแบ่งปันแนวทางการลงทุน และเรียนรู้เทคนิคการวิเคราะห์หุ้น โดยอีกฝ่ายแนะนำว่าเป็นที่ปรึกษาที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต.และเชิญให้เข้าร่วมกลุ่มไลน์ OpenChat ซึ่งในกลุ่มมีสมาชิกประมาณ 85-87 คน และมักพูดคุยเรื่องหุ้นกัน

โดยคนร้ายได้พูดคุยกับผู้เสียหายและแนะนำให้เปิดบัญชี จากนั้นระบบก็ขึ้นหน้าต่างแพลตฟอร์ม AIRA สำหรับเทรดหุ้น เมื่อผู้เสียหายเริ่มลงทุน แพลตฟอร์มดังกล่าวก็จะโชว์ตัวเลขแสดงผลกำไร ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าได้กำไรจริง จึงโอนเงินลงทุนเพิ่ม ตัวเลขผลกำไรในแพลตฟอร์มก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งโดยคนร้ายพูดหว่านล้อมไม่ให้ผู้เสียหายถอนเงินออก โดยอ้างว่าส่งผลกระทบต่อการลงทุน ผู้เสียหายจึงค่อยทยอยนำเงินเก็บของตนเองมาลงทุนเพิ่มอีกจำนวนหลายครั้ง ปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ผู้เสียหายรู้ตัวว่าถูกหลอก โดยโอนเงินไปยังบัญชีคนร้าย จำนวน 10 บัญชี ทั้งหมดจำนวน 16 ครั้ง รวมเป็นเงิน 14,392,290.38 บาท

ต่อมา พ.ต.อ.สุวัฒชัย ศรีทองสุข รอง ผบก.ตอท. ได้ทำการสืบสวนกรณีจนทราบว่านายเพือย โสเพียร อายุ 51 ปี ชาวบุรีรัมย์ กับพวกเป็นกลุ่มขบวนการแก๊งหลอกลวงทำหน้าที่เปิดบัญชีม้ารองรับการโอนเงินจากเหยื่อที่หลงเชื่อ จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับและทำการอายัดเงินได้ทันจำนวน 2 ล้านบาท ซึ่งเป็นยอดเงินที่ยังค้างในบัญชีธนาคารของนายเพือย โดยเงินที่อายัดได้นั้นทางตำรวจไซเบอร์ได้ดำเนินการนำมอบคืนเป็นเช็คเงินสดจำนวน 2 ล้านบาท ให้กับผู้เสียหาย

ในส่วนกรณีการส่งตัวคนไทยกลับจากกัมพูชาเพื่อมาดำเนินคดีในประไทย ทางพล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 ระบุว่า ในส่วนการดำเนินคดีคนไทยที่ถูกส่งกลับมาจากประเทศกัมพูชากลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ที่ผ่านมาได้มีการดำเนินคดีไปแล้วกว่า 200 คน ซึ่งแบ่งเป็น 4 คดี คดีแรกเป็นการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ในการเป็นอั้งยี่ซ่องโจรร่วมกันหลอกลวงประชาชน ในส่วนนี้ ได้มีการส่งสำนวนให้พนักงานอัยการยื่นฟ้องต่อศาลเรียบร้อยแล้ว บางส่วนที่เป็นเรื่องของอั้งยี่ซ่องโจร องค์กรที่เกี่ยวกับพนันออนไลน์ ในส่วนนี้จำนวน 15 คนดำเนินการส่งพนักงานอัยการ เรียบร้อย ส่วนที่ 3 เป็นเรื่องของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ผู้ที่เป็นบัญชีม้า เกี่ยวข้องดูแลเส้นทางการเงินของบัญชีม้าที่นำมาหลอกคนไทยด้วยกัน จำนวน 56 คน ได้ดำเนินการส่งพนักงานอัยการเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สำหรับในคดีที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทางพนักงานสอบสวนได้ประสานงานกับสำนักงานอัยการสูงสุดเข้ามาร่วมทำการสอบสวนโดยล่าสุดมีการผลักดันคนไทยกลับมาจำนวน 43 คนเกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์ซึ่งมีการดำเนินคดีเป็นพนันออนไลน์ 28 คนซึ่งออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อย อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศกัมพูชาหรือไม่อย่างไร

โดยขณะนี้มีการผลักดันคนไทยกลับมาดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง ทั้งทางช่องทางธรรมชาติ และช่องทางปกติทางด่าน ตม. ซึ่งหลังจากที่เข้ามาได้ก็จะมีการตรวจสอบถึงบัญชีม้า ความเกี่ยวข้องกับอั้งยี่ซ่องโจร รวมถึงการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งนี้ทางตำรวจไซเบอร์มีข้อมูลของผู้เสียหาย และกลุ่มบัญชีม้าที่จะต้องถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ในส่วนนี้มีการประสานงานกับตม. อยู่ตลอดเวลาเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดกลับมาดำเนินคดี ยืนยันว่าสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไม่ได้เป็นอุปสรรคในการรับตัวแต่คงต้องดูตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...