สธ. พร้อมหนุน WHO ด้านสาธารณสุขระหว่างปท. 1 ล้านเหรียญสหรัฐ/ปี
1 กรกฎาคม 2568 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หารือกับ นางสาวไซมา วาเซด (Miss Saima Wazed) ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (WHO SEARO) ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมวิชาการสุขภาพจิตนานาชาติ ครั้งที่ 24 ประจำปี 2568
กระทรวงสาธารณสุข ได้ขอบคุณองค์การอนามัยโลกที่ตระหนักถึงความสำคัญในการร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาสาธารณสุขในพื้นที่ชายแดนไทย - เมียนมาโดยกระทรวงได้วางแนวทางการดำเนินงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขในพื้นที่ชายแดนเพื่อดูแลสุขภาพทั้งประชากรไทยและประชากรต่างด้าวในพื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมา และในพื้นที่ 10 จังหวัดชายแดนไทย-เมียนมา
ทั้งนี้ นางสาวไซมา ได้ชื่นชมการดำเนินงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขในพื้นที่ชายแดนของประเทศไทยที่เข้มแข็ง และพร้อมที่จะสนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงสาธารณสุขไทย
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ยังได้แสดงเจตนารมณ์ที่จะสนับสนุนการระดมทุนสำหรับแผนการดำเนินงานขององค์การอนามัยโลก จำนวน 1 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี รวมถึงการสนับสนุนบุคลากรไทยไปปฏิบัติงานที่องค์การอนามัยโลกปีละ 4 คน ซึ่งอยู่ระหว่างการเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ การสนับสนุนเงินดังกล่าวเป็น Investment Round ที่องค์การอนามัยโลกระดมทุนสนับสนุนงบประมาณพื้นฐานของแผนงานทั่วไประยะ 4 ปี เพื่อให้มีเงินทุนที่มั่นคง ยืดหยุ่น และคาดการณ์ได้ ซึ่งจะช่วยต่อยอดการทำงานด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ สามารถรับมือกับความท้าทายด้านสุขภาพระดับโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ สู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป
นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงแนวทางการจัดตั้งศูนย์สุขภาพจิตและสุขภาวะนานาชาติ (International Mental Health and Wellbeing Hub) เป็นศูนย์กลางในการเสริมสร้างศักยภาพและภาวะผู้นำ การพัฒนานวัตกรรมและการวิจัย การจัดการองค์ความรู้ ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือในระดับโลก เพื่อยกระดับระบบสุขภาพจิตและคุณภาพชีวิตประชากรในระยะยาว
อีกทั้ง WHO SEARO ได้เชิญประเทศไทยเป็นเจ้าภาพร่วมกับภูฏานและอินเดีย ในการจัดกิจกรรมคู่ขนานในที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (United Nations General Assembly 2025) ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-24 กันยายน 2568 ที่ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก ห้วงสัปดาห์ของการประชุมระดับสูงของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA HLM) เพื่อเป็นแรงกระตุ้นที่สำคัญแก่ประเทศสมาชิกในภูมิภาคให้ตระหนักถึงการจัดการกับปัญหาสุขภาพจิตของวัยรุ่นอย่างครอบคลุม รวมถึงการมีวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีควบคู่ไปกับการส่งเสริมสุขภาพจิตของประเทศอีกด้วย