โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ไทยคุมเข้ม “เศษกระดาษนำเข้า”ห้ามมีสิ่งปะปนเกิน 2% มาตรฐานยุโรป

SpringNews

อัพเดต 17 พ.ค. เวลา 02.54 น. • เผยแพร่ 17 พ.ค. เวลา 02.44 น.

เพราะ…ปัญหาขยะ และปัญหาสิ่งปะปนของเศษกระดาษที่นำเข้ามาในประเทศ เป็นปัญหาที่น่าเป็นห่วง และต้องเร่งแก้ไขอย่างเร่งด่วน กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) จึงได้ประกาศออกหลักเกณฑ์การพิจารณาระดับสิ่งปะปนของเศษกระดาษที่จะนำเข้ามาในประเทศ เรื่องนี้ถูกเปิดเผยจากนางสาวปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ที่เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์กระดาษที่ผลิตได้ในประเทศจะถูกใช้เพื่อการบริโภคในประเทศและเป็นบรรจุภัณฑ์สินค้าที่ส่งออก ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของภาคอุตสาหกรรมรีไซเคิลกระดาษ

ทั้งนี้เฉพาะกระดาษเยื่อใยยาวที่ทำจากไม้สนต่างประเทศที่ไม่มีในประเทศไทย จึงจำเป็นต้องนำเข้ากระดาษที่ใช้แล้วจากต่างประเทศ หรือ “กระดาษหรือกระดาษแข็งที่นำกลับคืนมาใช้ได้อีก” ตามพิกัดอัตราศุลกากร ประเภท 47.07 แต่ในกรณีที่มีการปนเปื้อนด้วยวัสดุอื่น เช่น พลาสติก ยางไม้ สิ่งทอ แก้ว โลหะ เศษอาหาร เฟอร์นิเจอร์แตกหัก และของชำรุดหรือของทิ้งอื่น ๆ เป็นต้น จะเข้าข่ายเป็นขยะเทศบาล (Municipal Waste) พิกัดอัตราศุลกากร 3825.10.00 ซึ่งเป็นสินค้าที่ต้องห้ามนำเข้าและห้ามนำผ่านราชอาณาจักร ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ ฉบับลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2562 ภายใต้พระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. 2522

นางสาวปรีญาพร กล่าวว่า ปี 2567 คพ. ร่วมกับ กรมศุลกากร และกรมโรงงานอุตสาหกรรม ตรวจพบตู้สินค้าซึ่งสำแดงชนิดสินค้าเป็นกระดาษหรือกระดาษแข็งที่นำกลับคืนมาใช้ได้อีก ตามพิกัดอัตราศุลกากร 47.07 แต่ภายในตู้สินค้ามีวัสดุชนิดอื่นปะปนจำนวนมาก เช่น โฟม เศษพลาสติก เศษผ้า กระป๋องน้ำอัดลม อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ผ้าอ้อม ถุงมือทางการแพทย์ใช้แล้ว เข้าข่ายเป็นขยะเทศบาล ซึ่งเป็นสินค้าที่ต้องห้ามนำเข้าและห้ามนำผ่านราชอาณาจักร

ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการปฏิบัติงานของหน่วยงานกำกับดูแลการนำเข้าเศษกระดาษรวมถึงภาคเอกชนที่นำเข้าสินค้าดังกล่าว คพ. จึงได้แต่งตั้งคณะทำงานกำหนดมาตรการกำกับควบคุมการนำเข้าเศษกระดาษและหลักเกณฑ์การพิจารณาระดับสิ่งปะปนของเศษกระดาษที่จะอนุญาตให้นำเข้า โดยมี คพ. กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมศุลกากร กรมการค้าต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อม ร่วมเป็นคณะทำงาน

โดยล่าสุด คพ. ได้ออกประกาศ“หลักเกณฑ์การพิจารณาระดับสิ่งปะปนของเศษกระดาษที่จะนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2568” มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแนวทางสำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการควบคุมการนำเข้าเศษกระดาษอย่างมีประสิทธิภาพ ป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมการนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

ซึ่งประกาศฉบับนี้อิงจากมาตรฐานของสหภาพยุโรป โดยกำหนดสิ่งต้องห้ามในเศษกระดาษ ได้แก่ สารเคมีอันตรายและวัตถุอันตราย กัมมันตภาพรังสี มูลฝอยติดเชื้อ และขยะพิษจากชุมชน และกำหนดร้อยละของสิ่งปะปนอื่นที่ไม่ใช่กระดาษ เช่น พลาสติก โลหะ แก้ว วัสดุสังเคราะห์ ไม้ ดิน เป็นต้น ต้องไม่มีสิ่งปะปนเกิน 2 %

สำหรับเศษกระดาษที่แยกชนิดมาแล้ว ได้แก่ 47.07.10 (กระดาษคราฟท์หรือกระดาษลูกฟูก) 47.07.20 (กระดาษขาว) 47.07.30 (กระดาษหนังสือพิมพ์) และไม่เกิน 3 % สำหรับเศษกระดาษรวม ตามพิกัดอัตราศุลกากร 47.07.90

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...