โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

เตรียมตัวให้พร้อมก่อน "บริจาคโลหิต" ให้ปลอดภัยทั้งผู้ให้และผู้รับ

PPTV HD 36

อัพเดต 25 ก.ค. เวลา 08.34 น. • เผยแพร่ 25 ก.ค. เวลา 20.00 น.
เหตุขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชาทำให้มีผู้บาดเจ็บ สภากาชาดไทยเร่งรับบริจาคโลหิตช่วยผู้ประสบเหตุ แนะเตรียมตัวให้พร้อมก่อนบริจาค เผยความถี่ที่ควรบริจาคต่อปีให้สุขภาพแข็งแรงทั้งผู้ให้และผู้รับ

ท่ามกลางความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ส่งผลให้จังหวัดตามแนวชายแดนได้รับผลกระทบ มีทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งไทยได้ระดมสรรพกำลังเข้าช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง โดยการการบริจาคโลหิตนับเป็นวิธีเติมคลังเลือด ช่วยรักษาผู้ประสบเหตุทั้งพลเรือนและทหาร สภากาชาดไทย และหลายโรงพยาบาลทั้งในและนอกพื้นที่ได้เร่งระดมขอรับรับบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่อง และแน่นอนว่า ผู้ที่เข้ารับบริจาคต้องพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ

จุดบริจาคโลหิตสำรองคลังเลือด รับมือเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา

เทคนิคเลือกอาหารช่วยบำรุงเลือด ธาตุเหล็กสูง พร้อมบริจาคโลหิต

เตรียมตัวอย่างไร? ก่อนไปบริจาคเลือด

  • ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอในเวลาปกติของตนเอง ในคืนก่อนวันที่จะมาบริจาคโลหิต
  • ควรมีสุขภาพสมบูรณ์ทุกประการ ไม่เป็นไข้หวัด หรืออยู่ระหว่างรับประทานยาแก้อักเสบใดๆ
  • รับประทานอาหารมื้อหลักก่อนมาบริจาคโลหิต หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ อาหารที่ประกอบด้วยกะทิ แกงต่างๆ ของทอด ของหวาน ฯลฯ เนื่องจากจะทำให้สีพลาสมาผิดปกติ เป็นสีขาวขุ่น ไม่สามารถนำไปใช้ได้
  • ดื่มน้ำ 3-4 แก้ว และเครื่องดื่มเหลวเพิ่ม เช่น น้ำผลไม้ นม น้ำหวาน เพื่อเพิ่มปริมาณโลหิตในร่างกาย จะช่วยป้องกันอาการแทรกซ้อน เช่น มึนงง อ่อนเพลีย หรือวิงเวียนศีรษะภายหลังบริจาคโลหิต
  • งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ก่อนมาบริจาคโลหิต 24 ชั่วโมง
  • งดสูบบุหรี่ก่อนและหลังบริจาคโลหิต 1 ชั่วโมง เพื่อให้ปอดฟอกโลหิตได้ดี
  • ควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่แขนเสื้อไม่คับเกินไป สามารถดึงขึ้นเหนือข้อศอกได้อย่างน้อย 3 นิ้ว

ความถี่ในการ บริจาคโลหิต

ผู้บริจาคโลหิตหลายท่านคงทราบว่าโลหิตรวมบริจาคได้ทุก 3 เดือน แต่จะมีการบริจาคอีกประเภทหนึ่งที่เรียกว่าการบริจาคส่วนประกอบโลหิต เช่น

  • บริจาคพลาสมา 14 วัน
  • บริจาคเกล็ดเลือด 1 เดือน
  • บริจาคเม็ดเลือดแดง 4 เดือน

โดยรณรงค์ให้ผู้บริจาคโลหิตมีการบริจาคโลหิตอย่างสม่ำเสมอทุก 3 เดือน หรือปีละ 4 ครั้ง เพิ่มมากขึ้น หรืออย่างน้อยบริจาคโลหิตเพิ่มปีละ 2-3 ครั้ง รวมถึงการเพิ่มจำนวนผู้บริจาคโลหิตรายใหม่ให้มีจำนวนมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการบริจาคโลหิตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

ปัจจุบันโลหิตยังคงเป็นยารักษาโรคที่ยังไม่มีนวัตกรรมใดๆ มาทดแทนได้ จึงจำเป็นต้องมีการรับบริจาคโลหิตจากเพื่อนมนุษย์ เพื่อให้ได้มาซึ่งโลหิตสำหรับใช้ในการช่วยชีวิตผู้ป่วย

  • โลหิตที่ได้รับบริจาค 23 % นำไปใช้รักษากลุ่มผู้ป่วยโรคเลือด เช่น โรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย ฮีโมฟีเลีย เกล็ดเลือดต่ำ เป็นต้น ในรายที่เป็นชนิดรุนแรงต้องได้รับโลหิตในการรักษาเป็นประจำอย่างน้อยเดือนละ 1-2 ยูนิต หากไม่ได้รับโลหิตผู้ป่วยจะมีภาวะซีด อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวัน
  • โลหิตที่ได้รับบริจาค 77 % นำไปใช้รักษาผู้ป่วยที่สูญเสียโลหิตเฉียบพลันจากอุบัติเหตุ การผ่าตัด ตกเลือดหลังคลอดบุตร เลือดออกในทางเดินอาหาร เป็นต้น ต้องมีโลหิตสำรองไว้ระหว่างการผ่าตัด 2-3 ยูนิต ในกรณีที่มีอาการรุนแรง 5-10 ยูนิต ถ้าโลหิตไม่เพียงพอต้องเลื่อนการผ่าตัด อาจเกิดอันตรายแก่ผู้ป่วยถึงชีวิตได้

สามารถบริจาคโลหิตทั่วประเทศ

  • ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ถ.อังรีดูนังต์
  • หน่วยรับบริจาคโลหิตประจำที่ (Fixed Station) 7 แห่ง
  • ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่ง
  • โรงพยาบาลสาขาบริการโลหิตแห่งชาติทั่วประเทศ

ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลกรุงเทพเมืองราช และสภากาชาดไทย Thai Red Cross Society

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...