โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

เปิดคำพูด อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ ก่อนลาสิกขา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสกลั้นน้ำตาไม่อยู่

สยามนิวส์

เผยแพร่ 21 ก.ค. เวลา 05.39 น. • สยามนิวส์
เปิดคำพูด อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ ก่อนลาสิกขา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสกลั้นน้ำตาไม่อยู่

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2568 ที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง พระครูสุธีธรรมบัณฑิต ผู้ช่วยเจ้าอาวาส เปิดเผยถึงการเตรียมเอกสารบัญชีรายรับ-รายจ่าย และสมุดบัญชีธนาคารรวมเกือบ 20 บัญชี ตั้งแต่ปี 2564 ถึงปัจจุบัน เพื่อรองรับการเข้าตรวจสอบจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและเจ้าคณะอำเภอ โดยเอกสารส่วนหนึ่งยังอยู่ระหว่างรอผลตรวจสอบจากสำนักงานบัญชีที่อดีตเจ้าอาวาสได้ว่าจ้างไว้

วัดนครสวรรค์มีนโยบายเน้นความโปร่งใสในการบริหารจัดการด้านการเงิน โดยส่งบัญชีตรวจสอบภายนอกอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2554 และกำลังพัฒนาระบบบริหารการเงินแบบดิจิทัล เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลการบริจาคและรายจ่ายของวัดได้ตลอดเวลา ทุกการบริจาคผ่านตู้ในพระอุโบสถจะมี QR Code สำหรับโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารโดยตรง และข้อมูลการบริจาคจะเชื่อมต่อกับกรมสรรพากร เพื่อรองรับการขอใบอนุโมทนาบัตรสำหรับการลดหย่อนภาษี สะท้อนความตั้งใจของวัดในการบริหารทรัพย์อย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้

พระครูสุธีธรรมบัณฑิตกล่าวว่า ตนเพิ่งเข้ามาดูแลบัญชีวัดได้ประมาณ 6–7 เดือน จึงสามารถชี้แจงเฉพาะในช่วงเวลาดังกล่าว ส่วนข้อมูลก่อนหน้านั้นต้องรอเอกสารจากสำนักงานตรวจสอบบัญชี โดยพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

สำหรับกุฏิของอดีตเจ้าอาวาส ขณะนี้ได้ทำการปิดไว้เรียบร้อย ข้าวของส่วนตัวบางส่วนถูกนำออกไปแล้ว โดยพระครูสุธีธรรมบัณฑิตเน้นว่า ต้องแยกแยะระหว่างทรัพย์สินส่วนตัวกับทรัพย์สินของวัด และยืนยันว่าอดีตเจ้าอาวาสยังมีชีวิตอยู่ พร้อมขอให้สังคมให้ความเป็นธรรม

ในช่วงเวลาก่อนลาสิกขา อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณได้กล่าวฝากความรับผิดชอบต่อวัดไว้กับรองเจ้าอาวาส โดยระบุว่า

หลวงพ่อครับ ผมได้พลาดไปแล้ว ขอไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาและธรรมวินัย ขอนิมนต์หลวงพ่อดูแลวัดต่อด้วยนะครับ

คำพูดนั้นสร้างความสะเทือนใจให้กับผู้ที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์ ทำให้รองเจ้าอาวาสที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลกิจของวัดต่อ ถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

พร้อมทั้งกล่าวกับพระครูสุธีธรรมบัณฑิตให้ช่วยสานต่อการดูแลวัดด้วยเช่นกัน คำพูดดังกล่าวถูกเปิดเผยโดยพระครูสุธีธรรมบัณฑิต ซึ่งยืนยันว่าแม้จะมีเหตุการณ์เกิดขึ้น แต่อดีตเจ้าอาวาสยังยึดมั่นในพระธรรมวินัย และแสดงความรับผิดชอบต่อบทบาทของตนก่อนลาสิกขาอย่างชัดเจน

ในส่วนของโครงการก่อสร้างพุทธะอุทยาน ซึ่งดำเนินมากว่า 15 ปี มีเป้าหมายเพื่อเป็นสถานศึกษาสำหรับพระภิกษุและสามเณรระดับปริญญาตรีถึงเอก โดยได้รับบริจาคที่ดินกว่า 300 ไร่ ปัจจุบันยังคงอยู่ระหว่างการก่อสร้างมณฑปเพื่อครอบองค์พระ หลังจากแก้ไขปัญหาการปิดทององค์พระประธานที่ใช้ต้นทุนสูง พระครูสุธีธรรมบัณฑิตหวังว่าสื่อและสังคมจะมองเรื่องราวในหลายมิติ ไม่ใช่เพียงประเด็นด้านลบเท่านั้น

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...