โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

แค่เก่งภาษาอาจไม่พอ เช็ก 3 สกิล “พลเมืองโลก” ที่องค์กรชั้นนำต้องการตัวมากที่สุด

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

อัพเดต 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ภาพไฮไลต์

เคยสงสัยไหม ทำไมบางคนจบเมืองนอก สำเนียงเป๊ะปัง แต่กลับ "ไปไม่สุด" ในโลกการทำงานจริง ในขณะที่โลกยุคใหม่เชื่อมต่อกันแค่ปลายนิ้ว การรู้ภาษาอังกฤษถือเป็นเรื่องพื้นฐานไปแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้คุณ "แตกต่าง" และก้าวขึ้นสู่ระดับผู้บริหารหรือผู้นำองค์กรได้ ไม่ใช่แค่คะแนน TOEIC หรือ IELTS แต่คือ "Global Mindset"

ไทยรัฐออนไลน์พาไปเจาะลึกสถิติจากองค์กรระดับโลก ที่จะเปลี่ยนความคิดเรื่องการฝึกภาษาของคุณไปตลอดกาล

ภาษาคือ 'ใบเบิกทาง' แต่ Soft Skills คือ 'ตัวตัดสิน'

ลืมความเชื่อเดิมๆ ที่ว่า "เก่งภาษาแล้วจะสบาย" ไปได้เลย เพราะรายงานจาก LinkedIn Global Talent Trends เผยตัวเลขที่น่าตกใจว่า 92% ของผู้เชี่ยวชาญด้านการสรรหาบุคลากร ระบุชัดเจนว่า ทักษะทางสังคมและอารมณ์ (Soft Skills) มีความสำคัญ "เท่ากับ หรือ มากกว่า" ทักษะทางวิชาชีพ (Hard Skills) เสียอีก

นั่นหมายความว่า ภาษาอังกฤษช่วยให้คุณได้เข้าห้องสัมภาษณ์ แต่ทักษะการสื่อสารและความฉลาดทางอารมณ์ต่างหาก ที่จะทำให้คุณได้งานและเติบโต

แล้วสกิลแบบไหนล่ะที่เรียกว่า "ของจริง" มาดู 3 ทักษะที่ข้อมูลยืนยันแล้วว่าสำคัญที่สุด

1. อ่านคนให้ขาด แม้วัฒนธรรมต่าง (Cross-Cultural)

ข้อเท็จจริง: บริษัทที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรม มีโอกาสทำกำไรสูงกว่าค่าเฉลี่ยถึง 36% (อ้างอิง: McKinsey & Company - Diversity Wins Report)

ข้อมูลเชิงลึก: โลกธุรกิจไม่ได้คุยกันแค่เรื่อง "คำศัพท์" แต่คุยกันด้วย "บริบท" การเป็น Global Citizen คือการเข้าใจว่าในบางวัฒนธรรม "ความเงียบ" แปลว่า "ไม่เห็นด้วย" หรือการสบตาตรงๆ อาจดูคุกคามในบางประเทศ คนที่สามารถ "อ่านใจ" และปรับตัวเข้ากับเพื่อนร่วมงานต่างชาติได้ จึงเป็นทรัพยากรที่สร้างมูลค่ามหาศาลให้บริษัท มากกว่าคนที่แค่แปลเอกสารได้ถูกต้อง

ภาพจาก iStock

ดังนั้นการสื่อสารข้ามวัฒนธรรม ไม่ใช่แค่การแปลภาษาให้ถูก แต่คือการเข้าใจบริบทที่ซ่อนอยู่

  • ความเข้าใจ: รู้ว่าชาติไหนชอบพูดตรงไปตรงมา และชาติไหนที่การ "เงียบ" แปลว่า "ไม่ตกลง"
  • การปรับตัว: การใช้ภาษากาย (Body Language) และโทนเสียงให้เหมาะสมกับคู่สนทนา เพื่อลดความขัดแย้งและสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ
  • Empathy: การเอาใจเขามาใส่ใจเราในระดับสากล ไม่ตัดสินการกระทำของอีกฝ่ายด้วยบรรทัดฐานของบ้านเราเพียงอย่างเดียว

2. ศิลปะการเจรจาที่มากกว่าการต่อรอง (Negotiation & Collaboration)

ข้อเท็จจริง: รู้หรือไม่ว่า 86% ของพนักงานและผู้บริหารระดับสูง ยอมรับว่าสาเหตุหลักที่ทำให้โปรเจกต์ล้มเหลว ไม่ใช่เพราะขาดความรู้ แต่มาจาก "การขาดความร่วมมือ" และ "การสื่อสารที่ไม่มีประสิทธิภาพ" (อ้างอิง: Salesforce)

ข้อมูลเชิงลึก: หลายคนตกม้าตายเพราะอีโก้ คิดว่าภาษาดีแล้วต้องชนะทุกดีเบต แต่ในเวทีโลก "Collaboration is King" ทักษะการเจรจาต่อรอง (Negotiation) ในยุคนี้ ไม่ใช่การฟาดฟันเพื่อเอาชนะ แต่คือการหาจุดลงตัว ภาษาอังกฤษของคุณจึงต้องไม่ได้มีไว้แค่ "พูด" แต่ต้องมีไว้เพื่อ "ฟัง" และ "เชื่อมโยง" ผู้คนเข้าด้วยกัน นั่นคือต้องมีทักษะดังต่อไปนี้ร่วมด้วย

ภาพจาก iStock
  • Active Listening: ฟังให้ได้ยินสิ่งที่เขาไม่ได้พูด
  • Critical Thinking: วิเคราะห์สถานการณ์และเสนอทางเลือกที่ชาญฉลาด แทนที่จะใช้อารมณ์
  • Diplomacy: การใช้คำพูดที่นุ่มนวลแต่หนักแน่น (Firm but Polite) เพื่อรักษาความสัมพันธ์ระยะยาว

3. เล่าเรื่องให้โลกจำ (Storytelling)

ข้อเท็จจริง: ข้อมูลดิบๆ อาจน่าเบื่อ แต่ข้อเท็จจริงที่ถูกร้อยเรียงผ่าน "เรื่องเล่า" (Story) จะทำให้คนจดจำได้มากกว่าเดิมถึง 22 เท่า (อ้างอิง: Jerome Bruner, Cognitive Psychologist Cited by Stanford University)

ข้อมูลเชิงลึก: ในยุคที่ AI หาข้อมูลได้เร็วกว่ามนุษย์ คนที่ทำหน้าที่เป็นแค่ "พจนานุกรมเดินได้" จะถูกลดบทบาทลง แต่คนที่ใช้ภาษาอังกฤษในการ "โน้มน้าวใจ" และ "เล่าเรื่อง" ให้กินใจคนฟังได้ คือผู้ชนะตัวจริง ไม่ว่าจะเป็นการขายงาน การพรีเซนต์โปรเจกต์ หรือการสร้างแบรนด์บุคคล โดยสามารถทำได้ดังนี้

ภาพจาก iStock
  • Data with Soul: การเปลี่ยนข้อมูลตัวเลขที่น่าเบื่อ ให้เป็นเรื่องราวที่มีชีวิตชีวาและเข้าถึงอารมณ์คนฟัง
  • Structure: รู้วิธีลำดับเรื่อง เปิดหัวให้น่าสนใจ ดำเนินเรื่องให้ชวนติดตาม และจบให้ประทับใจ
  • Adaptability: สามารถเล่าเรื่องเดียวกันให้คนต่างวัฒนธรรมเข้าใจและอินไปกับเราได้

3 ขั้นตอนเปลี่ยนเด็กขี้อาย ให้กล้าสื่อสารในเวทีโลก

สำหรับพ่อแม่หรือน้องๆ ที่รู้สึกว่าตัวเองไม่กล้าแสดงออก ลองเริ่มจาก 3 Step ง่ายๆ นี้

Step 1: เปลี่ยน Mindset "ผิด = เรียนรู้"

  • เลิกกลัวแกรมม่าผิด เพราะในโลกความเป็นจริง ชาวต่างชาติเน้นที่สาร มากกว่ารูปประโยค ให้มองว่าทุกความผิดพลาดคือบันไดก้าวสู่ความเก่ง

Step 2: Input หลากหลายวัฒนธรรม

  • อย่าดูแค่หนัง Hollywood ลองดูซีรีส์เกาหลี ญี่ปุ่น หรือสารคดีจากยุโรป เพื่อซึมซับวิธีคิดและจังหวะการพูดที่หลากหลาย (Global Exposure) จะช่วยลดความประหม่าเมื่อเจอคนต่างชาติจริง

Step 3: Output ในพื้นที่ปลอดภัย

  • เริ่มจากคอมเมนต์ในบอร์ดต่างประเทศ เข้า Community เกมออนไลน์ หรือเข้าค่ายอาสาที่มีเพื่อนต่างชาติ การเริ่มต้นในจุดเล็กๆ จะช่วยสะสมความมั่นใจ ก่อนก้าวไปพูดในที่สาธารณะ

การเป็นพลเมืองโลก (Global Citizen) ไม่ใช่เรื่องไกลตัว และไม่ได้วัดกันแค่ใบปริญญาหรือผลสอบภาษาอังกฤษ แต่คือการเปิดใจกว้าง พร้อมเรียนรู้ความแตกต่าง และสื่อสารด้วยความเข้าใจ มาร่วมอัปเกรดทักษะเหล่านี้ เพื่อให้คุณพร้อมคว้าโอกาสใหม่ๆ ในโลกที่ไร้พรมแดนกัน

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : แค่เก่งภาษาอาจไม่พอ เช็ก 3 สกิล “พลเมืองโลก” ที่องค์กรชั้นนำต้องการตัวมากที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...