รัฐสภาปักธงพื้นที่ต้นแบบ! ผนึกกำลัง "สสส.-สคอ." รณรงค์ "ปีใหม่เดินทางปลอดภัย" ปลุกกระแส "ดื่มไม่ขับ" สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยระดับชาติ
">
"รัฐสภา" ผนึก สสส.ชวนคนไทย “ดื่มไม่ขับ ปีใหม่เดินทางปลอดภัย” ปลุกสังคมตระหนักอุบัติเหตุจาก “เมาแล้วขับ” สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน เป็นภาระให้กับ “คนข้างหลัง” ป้องกันความสูญเสียทางเศรษฐกิจและชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ในช่วงเทศกาล
วันที่ 25 ธันวาคม 2568 ที่รัฐสภา นพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย สมาชิกวุฒิสภา และรองประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา กล่าวสนับสนุนสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดกิจกรรมสื่อสารรณรงค์ “ปีใหม่เดินทางปลอดภัย ดื่มไม่ขับ คนข้างหลังเป็นห่วง” ให้กับบุคลากรรัฐสภา พร้อมระบุว่าในช่วงวันหยุดยาวมักเกิดอุบัติเหตุทางถนนบ่อยครั้ง โดยเฉพาะสาเหตุจากการดื่มสุราแล้วขับรถ ซึ่งมีความเสี่ยงและอันตรายสูงมาก ผลกระทบของการดื่มแล้วขับ ซึ่งการขาดสติจากการดื่มแอลกอฮอล์ทำให้ขับรถเร็วและเสี่ยงต่ออุบัติเหตุเพิ่มขึ้นหลายเท่า ซึ่งหากเกิดเหตุขึ้นมา คนที่เสียใจที่สุดคือคนข้างหลัง ทั้งคนในครอบครัวและคนที่เรารักที่รอคอยการกลับมาของเรา ขอย้ำเตือนว่าหากดื่มแอลกอฮอล์แล้วห้ามขับรถโดยเด็ดขาด ขอทุกคนอย่าประมาท และขอให้ทุกคนขับรถอย่างมีสติเพื่อความปลอดภัยตลอดช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต่อเนื่องปีใหม่
“เนื่องในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2569 ผมขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยดลบันดาลให้ทุกคนมีความสุข มีพลังกาย มีพลังใจ มีสุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัย และขอให้ทุกท่านได้ใช้เวลาที่มีค่ากับครอบครัวอย่างมีความสุขครับ” รองประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภากล่าว
ด้านนายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) กล่าวว่า ผลกระทบจาก “ดื่มแล้วขับ” ไม่ได้กระทบเฉพาะผู้ขับขี่ แต่ยังลุกลามไปถึง “คนข้างหลัง” จำนวนมาก โดยมีผลกระทบเป็น 3 ระยะสำคัญ ทั้งด้านชีวิต ความเป็นอยู่ และเศรษฐกิจครอบครัวอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ 1.ระยะสั้น ครอบครัวอาจต้องเผชิญการสูญเสียหัวหน้าครอบครัว และรายได้หลักของบ้าน โดยเฉพาะกรณีที่ผู้ขับขี่เป็นเสาหลักของครอบครัว ส่งผลให้คนข้างหลัง “ขาดเสาหลัก ขาดผู้นำ และขาดที่พึ่ง” เป็นผลกระทบแบบเฉียบพลันที่เกิดขึ้นทันที 2.ระยะกลาง คือภาระค่าใช้จ่ายที่ตามมา ไม่ว่าจะเป็นค่าซ่อมรถ ค่าชดเชยให้คู่กรณีที่เสียชีวิต รวมถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ซึ่งเป็นภาระที่หนักขึ้นทับซ้อนในช่วงที่ครอบครัวกำลังเปราะบาง และ 3.ระยะสุดท้าย หากคนดื่มแล้วขับเป็นฝ่ายผิด และคู่กรณีเสียชีวิต อาจเกิดการฟ้องร้องเรียกค่าสินไหมชดเชยไปถึงลูกเมีย รวมทั้งหากคนเมาแล้วขับเสียชีวิตก็ส่งภาระให้คนข้างหลังอาจต้องขายทรัพย์สินเพื่อชดเชยให้คู่กรณี บางครอบครัวอาจถึงขั้นล่มสลาย
ทั้งนี้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยคณะผาสุก สำนักรายงานการประชุมและชวเลข ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) ร่วมกันจัดกิจกรรม “ปีใหม่เดินทางปลอดภัย ดื่มไม่ขับ คนข้างหลังเป็นห่วง” โดยเชิญชวน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ข้าราชการ เจ้าหน้าที่รัฐสภา และสื่อมวลชน ร่วมสร้างความตระหนักถึงอันตรายจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับขี่ยานพาหนะ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน นำไปสู่การสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งนี้การจัดกิจกรรมนับเป็นอีกก้าวสำคัญในการผลักดันให้รัฐสภาเป็นพื้นที่ต้นแบบด้านความปลอดภัยทางถนน และร่วมสร้างวัฒนธรรมการเดินทางอย่างปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่
ทั้งนี้ภายในงานมีกิจกรรมให้ความรู้และชุดความรู้เกี่ยวกับการป้องกันและลดอุบัติเหตุจากการดื่มแล้วขับ การกระตุ้นเตือนให้มีสติในการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงการสื่อสารว่าแม้การดื่มเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้ขาดสติและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ นอกจากนี้ สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) ได้จัดกิจกรรมทดสอบสวมแว่นตาจำลองอาการเมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อให้ผู้ร่วมงานได้สัมผัสผลกระทบของการเมาแล้วขับ