โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

‘ญี่ปุ่น-จีน-ไทย’ ครองบัลลังก์! จุดหมายนักท่องเที่ยวโลกปี 69

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 10 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

Trip.com Group บริษัทท่องเที่ยวชั้นนำของโลก ได้เปิดเผยการคาดการณ์แนวโน้มการท่องเที่ยวประจำปี 2569 โดยระบุว่าประเทศใน “เอเชีย” โดยเฉพาะญี่ปุ่น จีน และไทย จะยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม ขณะที่กลุ่มนักท่องเที่ยว Gen Z และ Millennials กำลังเข้ามาเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวสำคัญในการกำหนดทิศทางการท่องเที่ยวโลก

‘ญี่ปุ่น-จีน-ไทย’ จุดหมายนักท่องเที่ยวปี 2569

จากข้อมูลการจองปี 2569 ของ Trip.com Group คาดว่า“ญี่ปุ่น” ยังคงเป็นแชมป์ และจะครองอันดับ 1 จุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลกในปี 2569 คาดว่ากท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ ในอาเซียน รวมถึงอินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้และไทยคาดว่าจะหลั่งไหลไปญี่ปุ่นที่มีจุดเด่นในเรื่องของมรดกทางวัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยวที่ทันสมัย และอาหารการกินจนทำให้โตเกียวและโอซาก้ามีสิทธิ์ติดอันดับ 10 เมืองยอดนิยมที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนมากที่สุดในปีหน้า

“จีน” กำลังมาแรงสุด ๆ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจากอาเซียน เช่น ไทย สิงคโปร์ และมาเลเซีย คาดว่าการจองตั๋วเครื่องบินจะเติบโตแบบ "ตัวเลขสามหลัก" ต่อปี โดยเมืองหลักอย่างเซี่ยงไฮ้ กวางโจว และเฉิงตู เป็นที่ต้องการสูง ขณะที่เมืองรอง เช่น ปักกิ่ง และซีอาน ก็เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น

ส่วน “ไทย” ก็ยังติดอันดับประเทศที่ได้รับความสนใจอย่างมากควบคู่ไปกับจีน, สหราชอาณาจักร และเวียดนาม

นอกจากนี้ “ตุรกี” ก็เป็นอีกจุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดใจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวจากเยอรมนีซึ่งคาดว่าจะเลือกตุรกีเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆ ในการเดินทางออกนอกประเทศ

พลังนักท่องเที่ยว Gen Z และ Millennials

กลุ่มมิลเลนเนียลซึ่งมีอายุระหว่าง 29 ถึง 44 ปี คาดว่าจะกลายเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในปี 2569 โดยมีส่วนร่วมเกือบครึ่งหนึ่งของปริมาณการจองทั่วโลก

ตามมาติดด้วยนักท่องเที่ยวกลุ่ม “กลุ่มเจนซี” ที่มีอายุระหว่าง 15 ถึง 28 ปีกำลังเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ที่แสวงหาประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร สะท้อนภาำรูปแบบการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป

'สวนสนุก-ธรรมชาติ' ดึงดูดใจนักท่องเที่ยว

สวนสนุกชื่อดังในเอเชียกลายเป็นสถานที่หลักที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก เช่น เซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์, ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ และยูนิเวอร์แซลสตูดิโอส์เจแปน ยังคงเป็นจุดหมายสำคัญสำหรับครอบครัว

นอกจากนี้ การท่องเที่ยวตามรอยแฟรนไชส์ดัง (Fan-driven Travel) กำลังบูมอย่างมาก เช่น ทัวร์ Harry Potter, คอนเสิร์ต K-Pop ของวง Seventeen, Taemin และการเที่ยวตามรอย Jurassic World ในไทย หรือ Evangelion ในโตเกียวกำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

รวมทั้งการแสดงสดระดับโลก เช่น ละครเพลง Aladdin, Broadway ในนิวยอร์ก หรือ The Sphere ในลาสเวกัส จะเป็นเทรนด์การเดินทางที่ขับเคลื่อนด้วยความบันเทิง

เทรนด์การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและผจญภัยจะได้รับความสนใจมากขึ้น โดยจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยิมเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คือ มิลฟอร์ดซาวด์และถ้ำหิ่งห้อยในนิวซีแลนด์

ในจีน สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติอย่างภูเขาหินปูน ในอู่หลง คาดว่าจะเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุด หรือสวนสัตว์ซาฟารีชิมหลงในกว่างโจว และภูเขาซิกุนเหนียง ภูเขาบิเผิงโกวและอุทยานแห่งชาติหวงหลงในมณฑลเสฉวนคาดว่าจะดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติได้เช่นกัน

ส่วนฝั่งยุโรป พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ในปารีส มหาวิหารซากราดาฟามิเลียในบาร์เซโลนา และมหาวิหารกรอสส์มุนสเตอร์ในซูริก ยังเป็นจุดหมายปลายทางนักท่องเที่ยวต่างชาติที่แสวงหาประสบการณ์ในการเรียนรู้ปวัฒนธรรม

การเดินทางด้วย ‘รถไฟ-เรือสำราญ’ เป็นที่นิยม

นักท่องเที่ยวเริ่มมองหาวิธีสำรวจโลกที่ผ่อนคลายและได้ชมทิวทัศน์ที่สวยงาม การเดินทางด้วยรถไฟและเรือสำราญจึงได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ คาดการณ์ว่าในปี 2569 รถไฟโรแมนติกอาราชิยามะ ซากาโนะ ในญี่ปุ่นจะดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามได้อย่างมาก ขณะที่เรือสำราญหรูอย่าง Royal Princess Cruise และ Opulence Cruise ก็คาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน

นอกจากนี้ แนวโน้มของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนกำลังเติบโตอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ต้องการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของตนเอง ทำให้ความนิยมในการเช่า รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในประเทศที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เช่น นอร์เวย์ ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น หลังจากการเริ่มใช้ฉลากคาร์บอนในเดือนเม.ย. 2568 ยอดจองรถ EV ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่น ไทย สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย

นักท่องเที่ยวจำนวนมากยังเลือกใช้รถ EV สำหรับการเดินทางแบบขับเองอีกด้วย ในยุโรปและออสเตรเลีย ซึ่งความนิยมที่เพิ่มขึ้นของการใช้รถยนต์ไฟฟ้าถือเป็นก้าวสำคัญสู่การท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและมีความรับผิดชอบมากขึ้น

สรุปการท่องเที่ยวประจำปี 2568

จากข้อมูลของ Trip.com Group ภาพรวมการท่องเที่ยวในปี 2568 ที่กำลังจะสิ้นสุดลง นักเดินทางทั่วโลกมีการเดินทางออกนอกประเทศเฉลี่ย 2.4 เที่ยวบินต่อคน โดยกลุ่มที่เดินทางบ่อยที่สุดคือผู้เดินทางจากอาเซียน เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ซึ่งมีการเดินทางเฉลี่ยตั้งแต่ 3 เที่ยวบินขึ้นไปต่อคน ส่วนนักเดินทางจากสหราชอาณาจักรและเยอรมนีมีระยะเวลาการบินเฉลี่ยที่ยาวนานที่สุด โดยเกิน 5.7 ชั่วโมงต่อเที่ยวบิน

ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าอนาคตของการท่องเที่ยวในปีหน้า จะเป็นไปในทิศทางที่สดใสและผสมผสานระหว่างจุดหมายยอดนิยมดั้งเดิมและจุดหมายใหม่ ๆ ที่กำลังเติบโต โดยนักท่องเที่ยวมีความต้องการประสบการณ์ที่ยั่งยืนมากขึ้น

อ้างอิง travelandtourworld

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...