รัฐสภาผ่าน ม.256/3 เห็นชอบคุณสมบัติ "กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ" แม้ “วิทยา” ท้วงเงื่อนไขวัยวุฒิ เว้นวรรคการเมือง 5 ปี พร้อมขู่ยื่นศาลตีความ

">

รัฐสภาฉลุย ม.256/3 เคาะคุณสมบัติ 'กมธ.ยกร่าง รธน.' 'วิทยา' ท้วงปมวัยวุฒิ-เว้นวรรคการเมือง 5 ปี ขู่ยื่นศาลตีความ

วันที่ 10 ธ.ค.68 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้เข้าสู่วาระการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พ.ศ…. วาระสอง ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาเสร็จแล้ว โดยเข้าสู่การพิจารณามาตรา 256/3 ว่าด้วยเรื่องคุณสมบัติของคณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ

บรรยากาศการอภิปรายเป็นไปอย่างกว้างขวาง โดย น.ส.รัชนีกร ทองทิพย์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ได้ลุกขึ้นอภิปรายตั้งข้อสังเกตถึงคุณสมบัติที่กรรมาธิการเสียงข้างมากกำหนดไว้ ซึ่งระบุให้ผู้มีสัญชาติไทยโดยกำเนิด อายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี และจบการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า สามารถเป็น กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญได้ โดยตั้งคำถามถึงความเหมาะสมด้านวัยวุฒิและประสบการณ์ว่า ผู้ที่มีอายุ 25 ปี หากนับจากปี 2568 ย่อมเกิดในปี 2543 ซึ่งจะทันเห็นรัฐธรรมนูญเพียงฉบับปี 2549, 2550, 2557 และ 2560 เท่านั้น จึงน่าสงสัยว่าบุคคลดังกล่าวจะมีความเข้าใจลึกซึ้งเพียงพอที่จะมาแก้ไขกฎหมายสูงสุดของประเทศหรือไม่ เพราะการร่างรัฐธรรมนูญต้องอาศัยทั้งคุณวุฒิและวัยวุฒิควบคู่กัน

ทางด้าน นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้อภิปรายท้วงติงในประเด็นการจำกัดสิทธิ์นักการเมือง โดยตั้งคำถามว่าเหตุใดจึงต้องห้ามผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เช่น อดีตรัฐมนตรี อดีตประธานสภาฯ หรือผู้บริหารท้องถิ่นที่พ้นจากตำแหน่ง ลาออกแล้วมาสมัครเป็น กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญทันทีไม่ได้ แต่กลับต้องเว้นวรรครอถึง 5 ปี นายวิทยายกตัวอย่างตนเองซึ่งมีประสบการณ์เป็นทนายความมากว่า 45 ปี และเป็นกรรมการสิทธิและเสรีภาพมา 7 ปี ถือว่ามีคุณสมบัติครบถ้วน แต่กลับติดเงื่อนไขดังกล่าว พร้อมระบุว่าหากไม่มีความชัดเจน ตนจะยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่าเป็นการเขียนกฎหมายที่ขัดแย้งกันเองหรือไม่

นายวิทยายังตั้งคำถามว่า จะกีดกันนักการเมืองไปเพื่ออะไร ในเมื่อสุดท้ายผู้ที่จะมาเลือก กมธ. ก็คือรัฐสภาที่กำเนิดมาจากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน หากเกรงว่านักการเมืองจะเข้าไปร่างกฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์ตนเอง ก็ไม่ควรแก้ไขรัฐธรรมนูญเลยจะดีกว่า

ขณะที่ นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ ได้ชี้แจงว่า ตนไม่อาจก้าวล่วงอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ แต่ยืนยันเจตนารมณ์ของมาตรา 256/3 ว่าเป็นเสมือนประตูบานแรกในการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้น คือต้องมีสัญชาติไทย อายุ 25 ปีขึ้นไป และจบปริญญาตรี หากเข้าข่ายลักษณะต้องห้ามตามเงื่อนไขอื่น ๆ ก็จะต้องไปพิจารณาในมาตราถัดไป

ภายหลังเสร็จสิ้นการอภิปราย ที่ประชุมได้ลงมติในมาตรา 256/3 โดยเห็นชอบตามที่กรรมาธิการเสียงข้างมากเสนอ ด้วยคะแนนเสียง 530 เสียง ไม่เห็นด้วย 30 เสียง งดออกเสียง 11 เสียง และไม่ลงคะแนน 5 เสียง