เคาะไป คุยไป : เคาะ WHA
#ทันหุ้น – WHA รายงานผลประกอบการ 3Q/25 มีกำไรสุทธิที่ 634.3 ล้านบาท +38.1%YoY จากการไม่มีค่าใช้จ่ายภาษีอากรที่เกิดจากการปรับโครงสร้างการถือหุ้นภายในกลุ่ม และไม่มีผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนในไตรมาสนี้ ขณะที่รายได้รวมชะลอตัว 15.8%YoY ตามจำนวนยอดโอนที่ดินที่ลดลงจาก 370 ไร่ในปีก่อน เหลือเพียง 220 ไร่ในงวดนี้ ขณะที่ GPM ลดลงมาเหลือ 44.9% จากปีก่อนที่ 51.1% เนื่องจากต้นทุนที่ดินที่สูงขึ้นในบางแปลง ด้านยอดขายที่ดิน 9M/25 รวมอยู่ที่ 1,258 ไร่ ลดลงจากปีก่อนที่ 1,363 ไร่ เนื่องจากลูกค้าชะลอการโอนเพื่อรออัตราภาษีจากสหรัฐ ขณะที่ Backlog สิ้นไตรมาสเท่ากับ 1,400 ไร่ มูลค่า 7.45 พันล้านบาท ด้านธุรกิจขายน้ำเติบโตทั้งรายได้และ GPM จากการรับรู้รายได้ค่าธรรมเนียมจากการขอใช้น้ำเกินกว่าที่จัดสรร (One-Time Charge) และการปรับขึ้นอัตราค่าบริการน้ำ ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้าดีขึ้นตามส่วนแบ่งกำไรฯใน IPP และการฟื้นตัวของ Margin ช่วยชดเชยโครงการ Solar ที่ลดลงจากอัตราค่า Ft ลดลง ทั้งนี้กำลังการผลิตรวม ณ สิ้นไตรมาสตามสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ 998 MW ด้านธุรกิจให้เช่าคลังสินค้ายังเติบโต ตามความต้องการในระดับสูง สะท้อนผ่านโครงการ WHA Mega Logistics Center บางนา-ตราด กม. 23 (ขาเข้า) และ WHA Mega Logistics Center เทพารักษ์ กม. 21 ที่มีผู้เช่าลงนามในสัญญาเช่าพื้นที่เกือบเต็มทั้งโครงการ ส่วนธุรกิจ Mobility ลดลงเนื่องจากการลดลงของการให้เช่ารถยนต์ไฟฟ้า
ผู้บริหารยังคงตั้งเป้าหมายธุรกิจปีนี้ รายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรจะแตะระดับ 2 หมื่นล้านบาท +35%YoY (9M/25 = 1.2 หมื่นล้านบาท) พร้อมรักษาระดับ EBITDA Margin ให้สูงกว่า 45% (9M/25 = 53%) ด้านยอดขายที่ดิน 2,350 ไร่ (9M/25 = 1,258 ไร่) ส่วนการขายทรัพย์สินเข้า WHART ราว 7 หมื่นตร.ม. (9M/25 = 3.25 หมื่นตร.ม.) ด้านกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วน 1,185 MW (9M/25 = 998 MW)
แนวโน้ม 4Q/25F คาดว่าจะโดดเด่นที่สุดของปี ขยายตัว QoQ จาก 1. ยอดโอนที่ดินที่เร่งตัวโดยเบื้องต้นคาดว่าจะมียอดโอนที่ดินไม่ต่ำกว่า 900 ไร่ จากประมาณการยอดขายทั้งปีที่ 2,200 ไร่ ตามกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตเช่น Data Center และ Food for the Future โดย BOI รายงานการลงทุนรวมในภาคดิจิทัลที่ยื่นขอส่งเสริมในช่วง 9M/25 อยู่ที่ 6.1 แสนล้านบาท ซึ่งช่วยหนุนให้ธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงานหมุนเวียนเติบโตตาม 2. การขายสินทรัพย์เข้ากอง WHART อีกราว 3.1-3.2 หมื่นตร.ม. มูลค่ารวม 800 ล้านบาท 3. ต้นทุนทางการเงินชะลอตัวลงจากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง และคาดว่า กนง. จะลดดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. สู่ระดับ 1.25% ส่วนภาพ YoY ชะลอตัวลงจากการรับรู้การขายสินทรัพย์เข้ากองที่ลดลง
แนะนำ “เคาะ” ครับ ทางด้านปัจจัยเทคนิค ปรับตัวสร้างฐานแนวรับ 3.12-3.10 ยืนเหนือมั่นคง แนวโน้มจบรูปแบบขาลง ระยะสั้นกลับตัวขึ้นรูปแบบ Double Bottom ผ่านยืน SMA 5 วันที่ตัด 13 วันขึ้นมาได้มั่นคง แนวโน้มแกว่งตัวขึ้น แนวต้านจุดทดสอบจุดสูงก่อนหน้า 3.32 ผ่านยืนเป็นสัญญาณซื้อรูปแบบแอ่งกระทะขนาดใหญ่
คำแนะนำ ASL
กรณี “มีหุ้น” ถือหรือซื้อเพิ่ม มีโอกาสทดสอบแนวต้าน 3.32/3.44
กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 3.20/3.12-3.10 ไม่ควรต่ำกว่า