"ยศชนัน" ปลุกใจเพื่อไทย "ศุภมาส-เอกนัฏ" นำทีม "อภิสิทธิ์" พาไหว้พระแม่ธรณีฯ
ที่พรรคเพื่อไทยตั้งแต่เช้ามีการนัดหมายว่าที่ผู้สมัคร สส. กทม. 33 คน รวมตัวที่พรรคเพื่อไทย สำนักงานใหญ่ ถนนวิภาวดี ตั้งแต่เวลา 05.30 น. โดยมีนายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตนายรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค เป็นคนนำทัพว่าที่ผู้สมัครเดินทางไปยังศูนย์กีฬาเยาวชนกรุงเทพมหานคร ไทยญี่ปุ่น (ดินแดง) ด้วยรถเมล์ไฟฟ้า ที่สกรีนภาพแคนดิเดตนายกฯ และสโลแกนหาเสียงของพรรคเพื่อไทยทั้งคัน
โดยก่อนเดินทางนายยศชนัน กล่าวปลุกใจว่าที่ผู้สมัคร ว่า ขออนุญาตเป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทย เมื่อปี 2540 เรามีวิกฤติใหญ่หลวง ทุกคนวันนี้มายืนตรงนี้ ภายใต้สิ่งที่เราเชื่อมาเสมอว่าการที่เราสามารถมายืนอยู่จนถึงทุกวันนี้เป็นสถาบันทางการเมืองได้เพราะสิ่งที่อยู่ในใจเราพรรคเพื่อไทยหัวใจคือประชาชน
ที่ตนเริ่มแบบนี้ เพราะอยากให้ทุกคนมีความรู้สึกว่าเรามาด้วยกัน ปัญหาของประเทศชาติเป็นปัญหาที่ใหญ่ แน่นอนว่า สิ่งที่ทำให้ประเทศชาติก้าวไปข้างหน้าไม่ได้ คือความไม่สามัคคีกัน สิ่งนี้เราจะทำให้เกิดอีกไม่ได้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า การต่อสู้สามารถต่อสู้ได้แบบใสสะอาด ไม่ได้มีความจำเป็นต้องกดคนอื่นลงเพื่อให้ได้คะแนนเสียง แต่ต้องทำไปข้างหน้าให้ได้
เราใช้คำว่า ยกเครื่องประเทศไทยหลายคนปรามาส พวกเราทำโครงการประชานิยม แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เข้าใจอย่างถูกต้อง สิ่งที่เราทำคือฟังเสียงประชาชนรากหญ้า มีปัญหาเพียงแค่คนเดียว เราต้องช่วย คนที่สามารถทำพื้นที่ได้ คือคนที่เข้าไปถึงประชาชนมากที่สุด
ทั้งนี้มีผู้ใหญ่ของบ้านเมือง หลายคนฝากความหวัง วันนี้ทำไมอยู่ดีๆพวกเราต้องบอกว่าใครจะอยู่ด้วยกัน เทาไม่เทา เราฟังเสียงประชาชนก่อน ถึงเทาอย่างไร ประชาชนก็ไม่เลือก ประชาชนจะเลือกคนที่ทำงานให้กับเขาได้
ไม่ง่ายที่ทุกคนจะมายืนอยู่ที่นี่ ทั้ง 33 คน ผ่านชีวิตมาเยอะ บางคนบอกว่ายังไม่ได้เริ่มเลย ลงพื้นที่จนหน้าดำแล้ว เพราะเขาลงพื้นที่มาก่อน และไม่ใช่แค่ครั้งนี้แต่ทุกคนอยากทำให้ดีที่สุด ประเทศไทยเริ่มจากกรุงเทพฯ ประชากรในกรุงเทพฯมีมากมาย หลายคนอาจมองว่ากรุงเทพฯ คือคนเมือง แต่จริงๆแล้วบริเวณรอบนอกยังมีเกษตรกรอยู่ เพราะฉะนั้นนโยบายของพรรคเพื่อไทยเข้ากับทั่วประเทศได้ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ขณะเดียวกันมองโครงสร้างทั้งระบบ การปรับปรุงอุตสาหกรรม การสร้างโอกาสใหม่ ซึ่งบางคนไม่เข้าใจอยากให้สื่อสารนโยบายตรงนี้ไปให้ถึงประชาชน อีกหนึ่งเดือนหลังจากนี้อาจจะเหนื่อยหน่อยไม่เป็นไร แต่คือวันแห่งความหวังของประชาชน สู้ไม่สู้
จากนั้นนายยศชนัน ได้นำว่าที่ผู้สมัครทั้งหมดพร้อม ขึ้นรถเมล์ไฟฟ้า เดินทางออกจากที่ทำการพรรค ในเวลา 06.20 น. โดยเมื่อถึงศูนย์กีฬาเยาวชนกรุงเทพมหานคร ไทยญี่ปุ่น (ดินแดง) แล้วแกนนำ และว่าที่ผู้สมัคร ลงจากรถ ถ่ายรูปร่วมกัน ก่อนเดินเข้าพื้นที่สมัคร สส.
โดยหลังจบขั้นตอนการสมัคร จับเบอร์เรียบร้อยแล้ว นายยศชนัน จะส่งผู้สมัคร สส.แต่ละเขต นั่งรถแห่กลับไปพื้นที่ตัวเองเพื่อเริ่มการหาเสียงทันที
ส่วนในจังหวัดอื่น พรรคเพื่อไทยได้มอบหมายให้แกนนำพรรค นำทัพว่าที่ผู้สมัครแต่ละจังหวัดไปสมัคร เช่น จังหวัดเชียงใหม่ นำโดย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จังหวัดขอนแก่น นำโดย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จังหวัดนครราชสีมา นำโดย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค จังหวัดนนทบุรี นำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำพรรค จังหวัดสุโขทัย นำโดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคส่วนวันที่ 28 ธ.ค.นี้ พรรคเพื่อไทยจะไปสมัคร สส.บัญชีรายชื่อ พร้อมกัน
“ศุภมาส-เอกนัฏ” นำทีมผู้สมัคร สส.กทม. พรรคภูมิใจไทย
เวลา 06.43 น. พรรคภูมิใจไทย นำโดย น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี และ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ในฐานะแกนนำเลือกตั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พรรคภูมิใจไทย พร้อมผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) กทม. ทั้ง 33 เขต ว่า เราไม่ได้มีแค่ใครคนใดคนหนึ่ง แต่มีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ผู้ช่วยหาเสียงต่างๆ อาทิ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ และมีอีกหลายคนที่มาช่วยรณรงค์หาเสียง ทั้งนี้ อยากให้คนกรุงเทพฯ และคนไทยเห็นว่าคนเหล่านี้ยังเลือกพรรคภูมิใจไทย ขอให้มีความเชื่อมั่นว่าเป็นการการันตีเบื้องต้นแล้วว่าพิสูจน์ความจริงใจ
ทางด้าน นายเอกนัฏ ระบุว่า จุดเด่นครั้งนี้คือการหาเสียงด้วยความจริงใจ มีความตั้งใจเกินร้อย ไม่กี่ครั้งในประวัติศาสตร์ที่พรรคการเมืองประกาศก่อนล่วงหน้าว่าจะตั้งใครเป็นรองนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า “พูดแล้วทำพลัส” ไม่ได้ขายฝัน อีกทั้งนโยบายต่างๆ เราก็บอกหมดว่าจะทำอย่างไร เอาใครมาทำ คิดว่าเที่ยวนี้มาพร้อมความจริงใจมากๆ เราพูดเปิดทุกอย่าง 73 วันทำมาแล้ว และจากนี้ถ้าได้กลับมาจะทำอย่างไร ไม่มีชัดเจนมากกว่านี้อีกแล้ว
ขณะที่ น.ส.ศุภมาส ระบุอีกครั้งว่า การเลือกตั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อนๆ เป็นครั้งแรกที่ประชาชนได้เห็นภาพหลังเลือกตั้ง นโยบายใครก็เขียนได้ พูดได้ แต่ 2 เดือนที่ผ่านมา อาทิ คนละครึ่งพลัส เข้าถึงประชาชนโดยตรง เรื่องชายแดน เราก็ได้คนเก่งอย่าง นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ บริหารจัดการ ซึ่งการต่อสู้ในเวทีโลกเป็นสิ่งสำคัญ คนเชื่อว่าทำได้จริง ไม่ได้พูดอย่างเดียว แต่ทำให้เห็นแล้ว
"อภิสิทธิ์" นำทัพ 33 ขุนพล กทม. ไหว้พระแม่ธรณีฯ
เวลา 06.45 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนาย สกลธี ภัททิยกุล รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลพื้นที่กรุงเทพมหานคร นำ 33 ผู้สมัคร สส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ สักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผม เพื่อความเป็นสิริมงคล ณ ที่ทำการพรรค
จากนั้นเวลา 07.00 น. ออกเดินทางจากพรรคประชาธิปัตย์ไปที่ ไปสมัครที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร ไทย-ญี่ปุ่น
ขณะที่พรรคประชาชน นำโดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค นำทีมผู้สมัครลงสมัครครบ 33 เขต ย้ำพร้อมเป็นทางเลือกให้ประชาชน ชูจุดยืนไม่เอา “การเมืองสีเทา” และย้ำว่าความรับผิดชอบทางการเมืองต้องมากกว่าความรับผิดชอบทางกฎหมาย พร้อมเปิดทางความเป็นไปได้ในการร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ หากมีจุดยืนตรงกันในการแก้ปัญหาประเทศ ปราบทุนเทา และสร้างความเท่าเทียม โดยยืนยันไม่หยิบประเด็นแก้ ม.112 มาใช้หาเสียง
ทางด้านพรรคกล้าธรรม นำโดยนาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาคาทรรพ ส่งผู้สมัครครบ 33 เขต ชูแนวคิด “ทำมากกว่าพูด” เน้นแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง โครงสร้างพื้นฐาน รถติด น้ำท่วม และการสร้างรายได้ให้คนกรุงเทพฯ
ส่วนพรรคไทยก้าวใหม่ นำโดยนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ “ดร.เอ้” นำทีมผู้สมัครลงสมัครพร้อมกองเชียร์คึกคัก ชูนโยบายแก้น้ำท่วมกรุงเทพฯ แบบเบ็ดเสร็จ และแก้ปัญหารถติดด้วยเทคโนโลยีและ AI ย้ำความพร้อมของทีมและความตั้งใจเปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯ อย่างเป็นรูปธรรม