ผวาสุดขีด ประกาศขายบ้านหนี ลุงบ้านตรงข้าม คลั่งอาละวาด คนในซอยสุดเอือม
ผวาสุดขีด ประกาศขายบ้านหนี ลุงบ้านตรงข้าม คลั่งอาละวาด คนในซอยสุดเอือม ถือมีดฟันแหลก เคยฟันชาวบ้านบาดเจ็บมาแล้ว หวั่นอันตราย วอนตำรวจจับตัวพ้นซอย
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 18 ก.ย.2566 ร.ต.อ.วรเดช ผงทอง ร้อยเวร สภ.เมืองระยอง รับแจ้งจากนางพิศมัย หรือไหม อายุ 59 ปี ชาวบ้านในซอย 13/5 ถ.บางจาก เขตเทศบาลนครระยอง ว่าถูกลุงวัย 60 ปี ป่วยทางจิต บุกทำลายทรัพย์สินภายในบ้าน
โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพได้ในช่วงกลางคืนวันที่ 13 ก.ย.2566 โดยผู้ก่อเหตุได้ปีนขอบปูนรั้วบ้านแล้วใช้มีดตะขอฟันต้นไม้ กระถางต้นไม้ในบ้านได้รับความเสียหายทั้งหมด และใช้ไม้หน้า 3 ยาวประมาณ 1 เมตร เขวี้ยงหลังคาบ้านถูกบริเวณกันสาดบ้านเป็นรูโหว่ 1 รู
นางพิศมัย เล่าว่า ลุงเพื่อนบ้านรายดังกล่าว มีบ้านอยู่ตรงข้ามกัน โดยก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุได้ใช้เหล็กมาขูดรถยนต์ของตนต่อหน้าต่อตาได้รับความเสียหายรอบคัน ซึ่งตนได้มีการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมีการไกล่เกลี่ยค่าเสียหายกับทางลูกสาว และลูกเขย ซึ่งตนไม่อยากมีเรื่อง อยากอยู่อย่างสงบ จึงยอมความไป
ทั้งที่ผ่านมาก็ถูกคุกคามมาตลอดนานนับปีแล้ว มีทั้งตะโกนด่าทอ และส่งเสียงดังโดยใช้เหล็กเคาะประตูบ้านและรั้วเสียงดังสร้างความรำคาญให้ชาวบ้านทั้งซอย กระทั่งเมื่อคืนวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนสุดจะทนบุกมาช่วงกลางคืนใช้มีดฟันต้นไม้ในบ้านได้รับความเสียหายดังกล่าว กล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้อย่างชัดเจน ขณะเกิดเหตุตนไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้แล้ว ต้องย้ายหนีไปอยู่บ้านญาติ
เนื่องจากเกรงจะไม่ปลอดภัยในชีวิต และถ้าทนอยู่สภาพจิตใจคงจะย่ำแย่ โดยตนเตรียมจะขายบ้านทิ้ง โดยเพื่อนบ้านหลังที่อยู่ติดกันก็ทนพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุไม่ไหว ต้องประกาศขายบ้านทิ้ง จึงอยาก ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำตัวไปรักษาด่วนด้วย เพราะชาวบ้านทั้งซอยกลัวจะไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งนี้ตนแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย และอยากให้ตำรวจช่วยดำเนินการด้วย
นายธนากร เนตรวงค์ อายุ 31 ปี ชาวบ้านอีกราย เปิดเผยว่า ลุงป่วยจิตเคยมีเรื่องกับตนใช้มีดไล่ฟันพวกตน จนต้องแจ้งความญาติต้องมาชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในซอยต้องคอยระวังชีวิตตัวเอง บางวันปล่อยหมาในบ้านที่มีอยู่ 3 ตัว ซึ่งตัวใหญ่มากออกมา ไล่รถชาวบ้าน เด็กๆ ที่ไปโรงเรียนกลัวถูกกัด ต้องเดินผ่านไปทางซอยอื่นแทน ไม่รู้ลุงสติไม่ดีหรือเปล่าอยากให้ลูกหลานพาไปรักษา
นางจันทร์ บุญแสง อายุ 51 ปี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ซอยดังกล่าว บอกว่า ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก เนื่องจากลุงเล่นปล่อยหมาออกจากบ้านตลอดเวลา กลัวลูกหลานจะได้รับอันตรายจากหมากัด เด็กไปโรงเรียนผู้ปกครองต้องมารับถือไม้ไว้ตลอดเวลา และเดินลัดไปซอยอื่นแทน โดยไม่ผ่านซอยดังกล่าว และที่ชาวบ้านได้รับผลกระทบคือลุงใช้สิ่งของเคาะเหล็กรั้ว และประตู บ้านตลอดเวลา นอกจากนี้เวลาลุงได้ยินเสียงรบกวนไม่ได้ก็จะตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายอีกด้วย
ด้าน ร.ต.อ.วรเดช ได้พูดคุยกับลุงคนก่อเหตุทราบชื่อคือ นายจรินทร์ซึ่งลุงไม่สามารถสื่อสารได้พูดจาไม่รู้เรื่อง จึงติดต่อคนคอยดูแลโทรศัพท์ติดต่อไปหาลูกสาวทราบชื่อเล่นคือ น้ำผึ้ง โดยลูกสาวยืนยันว่า พ่อป่วยเป็นโรคสมองตีบ ปัจจุบันอยู่บ้านคนเดียว โดยมีคนดูแล ตนทำงานอยู่กทม. นานๆจะกลับมาดูแล เคยพาตัวไปรักษาทุกที่แล้ว หมดเงินเดือนละนับหมื่นบาทแต่ไม่หาย พูดจาไม่รู้เรื่อง
ช่วงที่ตนอยู่ด้วยก็ไม่ได้ไปก่อเหตุ พอกลับไปทำงานถึงรู้เรื่องไปทำลายข้าวของชาวบ้าน ที่ผ่านมาก็ได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เสียหายที่พ่อไปทำลายข้าวของเขามาโดยตลอด ทุกวันนี้จนปัญญาแล้วไม่รู้จะทำอย่างไร วอนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ช่วยประสานหน่วนงานใดที่จะสามารถนำตัวพ่อไปรักษาได้ ก็ให้ทำเลย ตอนนี้ตนไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ขอให้ทางลูกสาวได้กลับมา เพื่อหาแนวทางนำตัวพ่อไปรักษา ไม่อยากให้ชาวบ้านอยู่อย่างผวาอย่างนี้ หวั่นจะเกิดเหตุเป็นอันตรายต่อชีวิต แต่ลูกสาวปัดความรับผิดชอบ เพราะที่ผ่านมาพยายามทุกอย่างแล้ว แต่พ่อก็ยังเป็นเหมือนเดิม มักจะทำลายบ้านตรงข้ามตลอดไม่ทราบว่าโกธรเรืีองอะไร ต้องการให้ตำรวจช่วยเอาไปรักษา แต่ทางตำรวจพยายามเกลี้ยกล่อม จนบุตรสาวยอม เตรียมกลับมาจากกรุงเทพ เพื่อหาทางออกต่อไป