โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

“ชาวเล” อยู่ตรงไหนของแผ่นดินไทย สำรวจชีวิตและวัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อยริมน่านน้ำเค็ม

นิตยสารคิด

อัพเดต 02 ส.ค. 2566 เวลา 22.43 น. • เผยแพร่ 02 ส.ค. 2566 เวลา 22.43 น.
le-cover

เวลาพูดถึง “ภาคใต้” คุณนึกถึงอะไร

“ทะเล” น่าจะเป็นคำตอบลำดับแรก ๆ ของใครหลายคน เมื่อพูดถึงภูมิภาคที่โดดเด่นเรื่องผืนน้ำที่สวยงาม ชายหาดขาวสะอาด วิวทิวทัศน์ทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทยที่ดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติให้ต้องแวะเวียนมาพักผ่อนอย่างไม่ขาดสาย

ในความสวยงามของคลื่นน้ำและสายทะเล ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่มีความเชื่อมโยงกับทะเล โดยเฉพาะทะเลภาคใต้ของไทยอย่างแยกกันไม่ออก พวกเขาได้ชื่อว่าเป็น “ชาวเล” ที่ไม่ได้มีความหมายแค่กลุ่มคนที่อาศัยอยู่ใกล้ชิดกับทะเล แต่พวกเขาคือกลุ่มชาติพันธุ์ที่อยู่ในประเทศไทยมายาวนานกว่า 300 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของตัวตน ชีวิต และวัฒนธรรมที่ยังรอการถูกค้นพบในฐานะประชากร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความหลากหลายบนแผ่นดินไทย

3 เผ่าย่อย 46 ชุมชน 14,000 คน คือตัวเลขล่าสุดที่ปรากฏเพื่อบอกสถานะของชาวเลที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ซึ่งแม้จะมีหลักฐานว่ามีชาวเลใช้ชีวิตในไทยมานานนับร้อยปี แต่ชาวเลกลับเพิ่งได้เป็นที่รู้จักในสายตาคนไทยในช่วงหลังเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2547 หรือประมาณ 20 ปีก่อนนี่เอง โดยปัจจุบันชาวเลอาศัยอยู่บริเวณทะเลทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทย โดยเฉพาะในจังหวัดพังงา ภูเก็ต ระนอง กระบี่ และสตูล มีเผ่าย่อย ๆ ได้แก่ ชาวมอแกน ชาวมอแกลน และชาวอูรักลาโว้ย และเป็นเจ้าของอัตลักษณ์ทางวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่มีทั้งความเหมือนและแตกต่างที่น่าสนใจมากมาย

เป็นชาวเล ต้องมี “ประเพณีลอยเรือ”
เนื่องจากอาชีพดั้งเดิมของชาวเลคือการทำประมงพื้นบ้าน ทำให้ชาวเลในหลายพื้นที่มีวัฒนธรรมร่วมกันคือ “ประเพณีลอยเรือ” โดยเป็นพิธีที่จัดขึ้นเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ของชาวเล จุดเด่นของพิธีนี้คือการนำไม้มาต่อเป็นเรือเล็ก ๆ ตัดผม ตัดเล็บ ทำตุ๊กตาไม้ใส่ลงไปแทนคน แล้วนำไปลอยทะเล เปรียบกับการลอยความทุกข์โศกในชีวิตให้พ้นออกไป นอกจากนี้ในประเพณีลอยเรือจะมีพิธีร่ายรำรอบเรือประกอบดนตรีของผู้หญิง ซึ่งเรียกว่า “รำรองเง็ง” และหลังจากจบพิธีแล้ว ผู้ชายจะออกไปหาไม้ที่ติดใบกะพ้อมาทำไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อกันว่าจะช่วยปัดรังควานสิ่งไม่ดีให้ออกไป เพื่อนำไปปักเรียงบริเวณจากบกไปสู่ที่วางเรือพิธี และถอนออกไปปักบริเวณรอบหมู่บ้านหลังจากเสร็จสิ้นพิธีแล้ว จนกระทั่งพิธีลอยเรือในครั้งถัดไปวนมาอีกครั้ง ไม้เหล่านี้จึงจะถูกถอนออกแล้วทำไม้ใหม่มาปักแทน

ในแต่ละพื้นที่อาจมีช่วงเวลาในการจัดประเพณีลอยเรือที่ต่างกันออกไป เช่น ที่ชุมชนหาดราไวย์และบ้านสะป๋าในภูเก็ต พิธีนี้จะจัดขึ้นในวันขึ้น 13 ค่ำเดือน 6 ที่ชุมชนเกาะสิเหร่จะจัดขึ้นในวันขึ้น 14 ค่ำเดือน 6 ส่วนที่ชุมชนแหลมหลาทางตอนเหนือของภูเก็ตและเกาะลันตา จะจัดขึ้นในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 และ 11 และในบางพื้นที่ก็อาจมีรายละเอียดในพิธีที่ต่างกันออกไปด้วย

อบจ.กระบี่

“ดำไซ” ภูมิปัญญาการดำดิ่งเพื่อเลี้ยงชีพ
ภายหลังการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวของชาวเลในการประกอบอาชีพให้อยู่ใต้กฎกติกา การ “ดำไซ” หนึ่งในภูมิปัญญาพื้นบ้านของชาวเลเผ่าอูรักลาโว้ยที่ใช้หาปลาในทะเลน้ำลึกก็กลายเป็นหนึ่งในไม่กี่วิธีหาเลี้ยงชีพในแบบพื้นบ้านของชาวเลที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบัน โดยชาวเลจะใช้ “ไซ” หรือเครื่องมือหาปลาที่ประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนของไม้เสม็ดที่ถูกเหลาและตอกเข้ากับตาข่ายที่ทำจากอะลูมิเนียม

เมื่อไซถูกประกอบขึ้นเป็นรูปเป็นร่างแล้ว จะถูกนำไปวางบนพื้นทรายราบกลางทะเลแล้วยึดเข้ากับแท่นเหล็กใต้ทะเล เมื่อครบ 15 วัน พวกเขาจะออกทะเลอีกครั้งเพื่อดำน้ำลงไปหาไซตรงตำแหน่งที่วางไว้และนำขึ้นมาพร้อมกับปลาที่จับได้ ซึ่งหากในวันที่โชคและฟ้าฝนเป็นใจ ก็มีโอกาสที่จะได้ปลาเต็มไซกลับบ้าน แต่หากโชคไม่เข้าข้าง ในไซก็อาจไม่มีปลาให้ชาวเลได้หิ้วกลับบ้านเลยสักตัว

“เหน่เอนหล่อโบง” ปาร์ตี้ประจำปีของชาวมอแกน
“หล่อโบง” เป็นคำที่ชาวเลเผ่ามอแกนใช้เรียกเสาที่มีวิญญาณของบรรพบุรุษ ทุก ๆ ปี ชาวมอแกนจะจัดพิธี “เหน่เอนหล่อโบง” เพื่อเฉลิมฉลองให้กับบรรพบุรุษที่ล่วงลับไป พิธีนี้จัดขึ้นในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 กำหนดเวลา 3 วัน 3 คืนที่ชาวมอแกนจะหยุดออกเรือไปหาของทะเล ล่าสัตว์ หรือหยุดทำมาหากิน และจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลองสังสรรค์ในชุมชนของตัวเอง โดยมีชาวมอแกนจากชุมชนอื่นๆ มาร่วมฉลองด้วยอย่างคึกคัก และในบางพิธีจะจัดลอยเรือคล้ายกับชาวเลในชุมชนอื่น ๆ

ประเพณีหน่อเอนหล่อโบง สะท้อนถึงความเชื่อเรื่องการบูชาบรรพบุรุษของคนมอแกน และในขณะเดียวกันก็สะท้อนวิถีชีวิตของคนมอแกนในอดีต ที่เมื่อถึงช่วงเปลี่ยนผ่านของฤดูกาลที่ทำให้ต้องพักการเร่ร่อนทางเรือเพื่อหาปลา มาเป็นการจอดเรือและตั้งที่พักริมชายฝั่งทะเล และพาให้คนมอแกนที่อยู่ในต่างพื้นที่ได้มาอยู่รวมกัน การจัดพิธีนี้ขึ้นทุกปีจึงเปรียบเสมือนเป็นงานรวมญาติที่ชาวมอแกนจะได้กลับมาอยู่ในบ้านหลังเดียวกันอีกครั้ง

“ประเพณีนอนหาด” ผืนทรายที่สะท้อนจิตวิญญาณคนมอแกลน
ในช่วงวันขึ้น 13-15 ค่ำเดือน 3 ของทุกปี ชาวเลเผ่ามอแกลนจะจัด “ประเพณีนอนหาด” หรือที่เรียกกันในภาษามอแกลนว่า “อีดูนเอาดะ” จัดขึ้นบริเวณหาดไม้ขาว ภูเก็ต ซึ่งมีศาลของ “โต๊ะหินลูกเดียว” สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเลมอแกลนเชื่อว่าเป็นหนึ่งในบรรพบุรุษ ซึ่งเคยมีตำนานเล่าขานว่าในอดีตเคยมีชาวมอแกลนเดินทางมาหาแร่ดีบุกที่ชายหาด แล้วบังเอิญทำให้โต๊ะหินลูกเดียวไม่พอใจ จึงเกิดอาการเจ็บป่วยจนต้องแก้บนด้วยการนอนที่ริมชายหาด 3 วัน 3 คืน กว่าจะหายเป็นปกติ และเพื่อรักษาอาการเจ็บไข้รวมไปถึงบูชาบรรพบุรุษที่คอยคุ้มครองรักษาชีวิต ชาวมอแกลนจึงยึดถือประเพณีนอนหาดเรื่อยมา

พิธีนอนหาดจะเกิดขึ้น 3 คืน หรือ 5 คืน แล้วแต่ความเชื่อของชาวเลแต่ละที่ โดยในระหว่างพิธีนอนหาดจะมีการเสี่ยงทำนายอนาคตความเป็นอยู่ของชาวมอแกลน นอกจากนี้ ในพิธีนอนหาดยังเป็นโอกาสที่ดีของชาวมอแกลนที่แยกย้ายกันไปอยู่ในที่ต่าง ๆ ได้กลับมาพบปะเครือญาติและทำกิจกรรมทางความเชื่อร่วมกัน ชายหาดไม้ขาวจึงเป็นพื้นที่สำคัญทางวัฒนธรรมที่ทำให้คนมอแกลนได้เชื่อมความสัมพันธ์และแสดงออกถึงความเชื่อ สะท้อนตัวตนและจิตวิญญาณความเป็นมอแกลนอย่างน้อยปีละ 3 วัน 3 คืน

“รวมญาติชาติพันธุ์” เพื่อสิทธิ์และเสียงของชาวเล
อีกหนึ่งงานที่จัดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาจนอาจเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเพณีของชาวเลในภาคใต้ของไทยก็คืองาน “รวมญาติชาติพันธุ์ชาวเล” ซึ่งเป็นงานที่มีขึ้นเพื่อรวมตัวชาวเลทุกเผ่าในประเทศไทยที่ปัจจุบันมีอยู่กว่า 40 ชุมชน ให้ได้มาร่วมพบปะ ทำความรู้จัก และพูดคุยกันภายใต้หัวข้อวิถีชีวิตของคนชาวเลในหลากหลายมิติ โดยเฉพาะมิติด้านสิทธิมนุษยชน สัญชาติ วัฒนธรรม ที่อยู่อาศัย ที่ดินทำกิน ที่ยังคงเป็นปัญหาต่อการดำเนินชีวิตของชาวเลเรื่อยมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

งานรวมญาติชาติพันธุ์จึงเป็นเสมือนพื้นที่แห่งความหวังที่ทำให้ชาวเลได้มีโอกาสแสดงตัวตนในฐานะประชากรอีกหนึ่งกลุ่มในสังคม บอกเล่าถึงปัญหาในการดำเนินชีวิตต่อภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อมองหาทางออกที่จะช่วยสร้างคุณภาพชีวิตพื้นฐานของชาวเลไปพร้อม ๆ กันกับช่วยรักษาอัตลักษณ์ของชาวเลให้คงอยู่เป็นหนึ่งในความหลากหลายและสวยงามของผืนแผ่นดินไทย

หากใครเคยได้ยินวลี “ปักษ์ใต้บ้านเรา” เมื่อรับรู้เรื่องราวของชาวเลแล้ว คำว่าบ้านคงไม่ใช่แค่เพียงบ้านของคนที่อาศัยอยู่ในตัวเมืองภูเก็ต นครศรีธรรมราช หรือหาดใหญ่ บ้านคงไม่ใช่แค่เพียงพื้นที่ของคนที่เกิดในจังหวัดภาคใต้ได้สัญชาติไทยอย่างถูกต้องตั้งแต่เกิด แต่ “บ้าน” หลังนี้ ควรเป็นบ้านของคนอีกกว่า 14,000 คนในพื้นที่เล็ก ๆ ที่รอการค้นพบ เข้าใจ และถูกนับรวมว่าเป็นผู้ร่วมชายคาบ้านเดียวกันกับเราทุกคน

ที่มา : บทความ “ชาวเลคือใคร?” จาก https://thehumans.sac.or.th
บทความ “ฟังเสียงประเทศไทย : อนาคตชาวเลกับการท่องเที่ยวอันดามัน” จาก https://thecitizen.plus
บทความ “พิธีลอยเรือของชาวเล” จาก www.phuketpao.go.th
บทความ “ประเพณีลอยเรือชาวเล” จาก www.krabipao.go.th
บทความ “Unseen Thailand Fantastic : ‘ไซ’ กับวิถีชีวิตชาวอูรักลาโว้ย” จาก www.thaipbs.or.th
บทความ “‘พิธีหน่อเอ็นหล่อโบง’ : การสืบทอดและดำรงอัตลักษณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์ มอแกน ณ หมู่เกาะสุรินทร์ ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา” โดยนายณัฐพล สุขสำราญ จาก https://km-ir.arts.tu.ac.th
บทความ “ประเพณีนอนหาดชาวเล : ความเชื่อ ชายหาด เเละทางเเพร่ง” จาก https://bit.ly
บทความ “วันรวมญาติชาวเลปีที่ 12 เริ่มพื้นที่นำร่องเขตคุ้มครองวัฒนธรรมชาวเลมอแกลนทับตะวัน” จาก https://thecitizen.plus

เรื่อง : Natjanan K.

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

วิดีโอแนะนำ

ข่าว ไลฟ์สไตล์ อื่น ๆ

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...