โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ผู้เลี้ยงนกกรงหัวจุกชัยนาท วอนปลดล็อกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองเพื่อให้เป็นสัตว์เศรษฐกิจ

77kaoded

เผยแพร่ 21 ส.ค. 2567 เวลา 07.04 น. • 77 ข่าวเด็ด

1 ส.ค.67 ที่ JM Farm ฟาร์มนกกรงหัวจุกแฟนซี ต.โพงาม อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท มีการเพาะพันธุ์นกกรงหัวจุกแฟนซี เข้าปีที่ 12 จากจุดเริ่มต้น 2 คู่ ปัจจุบันมีกรงผสม 350 กรงผสม ติดกล้องวงจรปิดทุกกรง มีนกในฟาร์มกว่า 2,000 ตัว ถือเป็นแหล่งเรียนรู้และขยายพันธุ์นกกรงหัวจุกขนาดใหญ่ลำดับต้นๆของประเทศ ได้แบ่งปันสายพันธุ์นกกรงหัวจุกแฟนซีไปเพาะพันธุ์สร้างอาชีพให้ผู้สนใจทั่วประเทศ วอนรัฐบาลพิจารณาปลดล็อกนกกรงหัวจุกออกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง เพื่อให้เป็นสัตว์เศรษฐกิจสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับประชาชน

นายกิตติเดช แสงเจริญ เจ้าของฟาร์มนกกรงหัวจุก JM Farm จังหวัดชัยนาท กล่าวว่า สาเหตุที่กลุ่มผู้เพาะพันธุ์นกกรงหัวจุก อยากให้รัฐบาลถอด หรือปลดล็อก นกกรงหัวจุกออกจากสัตว์ป่าคุ้มครอง เพราะพวกเรามีขั้นตอนในการขออนุญาต ไม่ว่าจะเป็นการเพาะพันธุ์ ครอบครอง และ การค้า มันค่อนข้างยุ่งยากด้วยข้อกฎหมายมีบีบบังคับหลายอย่าง ทำให้กลุ่มผู้เลี้ยงไม่สามารถไปต่อได้ อย่างเช่น มีชาวต่างชาติต้องการจะซื้อนกของเรา ก็ไม่สามารถส่งได้ ด้วยข้อกฎหมายเราไม่สามารถส่งออกต่างประเทศได้ อีกอย่างมีคนจะเข้ามาซื้อนกกรงหัวจุก พอรู้ว่าเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองไม่กล้าซื้อเลย เพราะกลัวเรื่องกฎหมาย กลัวต้องไปขอครอบครอง ขอค้า กลัวเลี้ยงแล้วโดยจับ นี่คือความยากลำบากของพวกเรา ถ้าปลดล็อกเมื่อไร มีการเลี้ยงแบบเสรีเมื่อไร จะทำให้มีคนมาเลี้ยงนกกันเยอะ เราก็สามารถส่งนกขายต่างประเทศได้อย่างสะดวก จึงอยากวอนให้รัฐบาลปลดล็อกและส่งเสริมให้นกกรงหัวจุกเป็นสัตว์เศรษฐกิจ ชาวบ้านจะได้เลี้ยงและเพาะพันธุ์ขายนกกรงหัวจุกให้เป็นอาชีพหลักให้กับครอบครัว

ด้าน นายพุฒิธร วรรณกิจ นายกสมาคมอนุรักษ์เพาะพันธุ์นกกรงหัวจุกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้นกกรงหัวจุกกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง สมาคมฯมีภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ ผ่านชมรม 3 ชมรม หลักๆคือ นกกรงหัวจุกนับดอกแห่งประเทศไทย นกกรงหัวจุกเสียงทองแห่งประเทศไทย และนกกรงหัวจุกแฟนซีแห่งประเทศไทย รวมทั้งเครือข่ายชมรมที่ขึ้นตรงกับสมาคมในทุกจังหวัด ขณะนี้กำลังเดินหน้าต่อสู้ขอให้ถอดหรือปลดล็อกนกปรอดหัวโขน หรือนกกรงหัวจุกออกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองประเภทนกลำดับที่ 580 เพราะเล็งเห็นว่านกกรงหัวจุกสามารถเป็นสัตว์เศรษฐกิจของประเทศได้ ทั้งเรื่องของการท่องเที่ยว จากการซื้อขายตัวนก ปัจจุบันกฎหมายรุนแรงซึ่งมีมาหลายสิบปีแล้ว สร้างความความเกลียดชัง กฎหมายนี้ถือว่าผู้ครอบครองนกเป็นผู้ล่า อีกทั้งก่อให้เกิดการคอรัปชั่นทุกขั้นตอน จากข้อมูลมีการเลี้ยงนกมาเกือบ 200 ปี ปัจจุบันแทบไม่มีที่จะนำนกจากป่าหรือธรรมชาติมาเลี้ยง เรามีการเพาะพันธุ์แล้วนำไปแข่งขันนำเงินตราเข้าประเทศ ตอนนี้เราซื้อขายกันแบบใต้ดินจากต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย เวียดนาม อย่างเวียดนามเขาไม่ผิดกฎหมาย ถ้าเรายังช้าอยู่จะโดนเวียดนามแซง ปัจจุบันเวียดนามซื้อนกของเราไปต่อยอดเพราะบ้านเขาถูกกฎหมาย และจะทำให้ต่างประเทศบินไปเวียดนามไม่บินมาไทยเรา หวังว่าในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้จะมีความชัดเจน

ขอวอนให้คณะกรรมการสัตว์ป่า สัตว์สงวนแห่งชาติ เล็งเห็นถึงความต้องการ ความเดือดร้อนของชาวบ้าน เราต่อสู้มากว่า 30 ปี ปีนี้มีผู้หลักผู้ใหญ่อยากให้คณะกรรมการฯ ที่จะพิจารณาขั้นตอนที่สำคัญที่สุด เล็งเห็นว่าชาวบ้านเดือดร้อนจริงๆ โดยเฉพาะกฎหมายที่เป็นบทลงโทษ หรือการส่งเสริมการเพาะพันธุ์ลำบากไปหมด อยากให้เล็งเห็นปากท้องของชาวบ้าน วิถีชีวิต อัตลักษณ์ของชุมชน เราอยากให้นกกรงหัวจุกเป็นนกคู่บ้าน คู่เมือง เราอยากให้นกกรงหัวจุกเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทย ให้คนทั่วโลกได้รู้จักประเทศไทยด้วยนกกรงหัวจุกด้วยครับ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...