จิ้งจอกสาว วางเงิน 2 แสนประกันตัว แต่ถูกตำรวจนำหมายจับคดีฉ้อโกงซ้ำ รับผิดยอมเคลียร์ให้ โต้ไม่ได้หลอกแต่งงาน
จิ้งจอกสาว วางเงิน 2 แสนประกันตัว แต่ถูกตำรวจนำหมายจับคดีฉ้อโกงซ้ำ รับผิดยอมเคลียร์ให้ โต้ไม่ได้หลอกแต่งงาน
จากกรณี น.ส.สุนิสา ถิ่นถาน อายุ 30 ปี ชาวเมืองเลย โดนตำรวจอุดรธานี จับข้อหายักยอก หลังก่อเหตุหลอกญาติผู้ต้องขังว่าเป็นญาติกับ ผบ.เรือนจำกลางอุดรธานี สามารถช่วยอยู่ในคุกแบบสบาย และให้พ้นโทษได้เร็วขึ้น ทำให้ญาติหลงเชื่อเสียเงินในการดำเนินการช่วยญาติในเรือนจำ และยังได้ยืมรถยนต์ นาฬิกา และของแบรนด์เนมไปใช้และไม่ส่งคืน เสียหายกว่า 5 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้หลอกนายโอ อายุ 21 ปี ชาวกรุงเทพฯ เจ้าบ่าวให้จัดงานแต่งงานแก้กรรม โดยเบี้ยวเงินค่าชุดเจ้าสาว ค่าจัดงาน และโต๊ะจีน ซึ่งตำรวจฝากชาวบ้านที่โดน น.ส.สุนิสา ต้มตุ๋มหลอกลวงให้มาแจ้งความดำเนินคดีได้ที่ท้องที่เกิดเหตุ เพราะคาดว่าจะมีเจ้าทุกข์มากกว่านี้
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 11 สิงหาคม พ.ต.ท.อรรคพล วงษ์ฤทธิ์วัลย์ รอง ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี สั่งการให้ ร.ต.ท.สุรินทร์ ปรีเรือง ด.ต.รัฐพล เชื้อหอม จสต.ณัฐพล แสงนอก ส.ต.อ.มารวย คูณล้าน และ ส.ต.ท.ยศกร โอฐสัตย์ ตำรวจกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดอุดรธานี จับกุมตัว น.ส.สุนิสา ถิ่นถาน อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเลย ที่ จ 16/2567 ลงวันที่ 20 มกราคม 2566 โดยกล่าวหา “ฉ้อโกง โดยทุจริต หรือโดยการหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน” โดยจับกุมได้ที่ศาลแขวงอุดรธานี ควบคุมตัวไปสอบสวน
โดย น.ส.สุนิสา รับสารภาพว่า เมื่อปี พ.ศ. 2565 ตนได้ไปเปิดร้านขายยำชื่อทูเก็ตเตอร์ ที่บ้านติ้ว ต.บ้านติ้ว อ.เมือง จ.เลย ต่อมาเดือนสิงหาคม ตนได้เลิกกิจการจะกลับไปอยู่บ้าน จึงได้ประกาศขายแอร์ 2 เครื่องๆละ 6,000 บาท ต่อมา น.ส. เกวริน (แดนอินทร์ ) อายุ 49 ปี ได้มาขอซื้อ 2 เครื่อง และจ่ายเงินมัดจำ 2,500 บาท แต่เนื่องจากฝนตกหนักน้ำท่วม ทำให้แอร์พังเสียหาย ตนจึงไม่ได้ถอดแอร์ไปส่งผู้ซื้อ ซึ่งตนเคยขอชดใช้เงินมัดจำคืน แต่ น.ส.เกวริน ได้ต่อรองขอเงินค่าเสียเวลาด้วย ตนไม่ได้คืนเงินและไม่ทราบว่าผู้เสียหายไปแจ้งตำรวจดำเนินคดีกับตน เมื่อไปถึงโรงพักเมืองเลย ตนจะขอเจราจาชดใช้ค่าเสียหาย
ส่วนคดีที่ตนโดนจับก่อนหน้านี้ ที่ตนไปหลอกลวงแต่งงานแก้กรรมและเบี้ยวค่าจัดงาน ชุดแต่งงาน และโต๊ะจีนตามที่เป็นข่าวนั้น ตนให้นายประกันยื่นประกันเป็นเงินสด 2 แสนบาท เรื่องนี้มีแต่คนด่าว่าเจ้าสาวไม่ดี ให้ความสงสารเจ้าบ่าว ตนขอโอกาสพูดในวันนี้ว่า ตนยอมรับว่าเคยมีสามีเป็นจีนเทา แต่เลิกกันไปแล้ว ส่วนนายโอ เจ้าบ่าวนั้นรู้จักกันทางเฟซบุ๊ก มาอยู่ด้วยกัน 5 เดือน ได้จัดงานแต่งงาน ไม่ได้จัดงานแต่งแก้เคล็ดแก้กรรม ไม่มีเรื่องนี้ ยอมรับว่าตนเปย์ผู้ชาย ตนอาจจะหลอกคนอื่นมาเปย์ผู้ชายคนนี้ แต่สุดท้ายพอตนโดนจับเรื่องเบี้ยวเงินจัดงานแต่ง เจ้าบ่าวกลับมาเป็นพยานให้ผู้เสียหาย
“ยอมรับว่ากู้เงินมาแต่งงาน จะมาเป็นพยานอะไรได้ อยู่กับตนแค่ 5 เดือน เลี้ยงดูให้เงินใช้ เสื้อผ้าตัวละ 4-5 พัน ทองคำ 3-4 บาท ซื้อของแบรนด์เนมให้ ซื้อรถให้ขับ หมดเงินไปเป็นล้าน เปิดร้านเหล้าให้ 4 แสน งานแต่งงานเป็นเรื่องของคน 2 คน พอประสบปัญหาตัวเองก็กลายเป็นคนเลว ส่วนเจ้าของโต๊ะจีนและร้านพรีเวดดิ้ง รับปากว่าหลังประกันตัวออกไปแล้ว จะมาชดใช้ให้หมดทุกคน และหมายจับนี้เป็นหมายสุดท้าย ไม่มีหมายจับอีกแล้ว”
น.ส.สุนิสา ยกมือขึ้นประนมพร้อมกล่าวว่า ตนโดนประณามมาตั้งแต่แรกว่าคนมีคดีต้องเป็นคนผิดเสมอในโลกโซเชียล ในสังคมมักตัดสินคนแบบนี้ ตนไม่เสียใจแต่ยอมรับผลกรรมสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งที่ตนทำ แต่ว่าในบางคดี หรือบางเรื่องที่เกิดอยู่ตอนนี้ตนก็จะสู้ เพราะว่ามันอาจจะไม่เป็นตามเขากล่าวหาตน ส่วนที่เป็นของตนก็จะสู้ ส่วนที่เป็นของเขาตนก็จะรับชดใช้ไป ไม่ว่าจะเป็นเงินที่กู้ยืมมา ที่เอามาทำงานแต่ง แม้แต่เจ้าบ่าวไม่รับ ตนก็จะรับเอา ที่ผ่านมาตนก็เลี้ยงเขามาแล้ว หลังเสร็จสิ้นทุกคดีแล้ว ตนจะกลับไปบ้านขอเวลาอยู่กับลูก เพราะไม่อยากให้ลูกมีปมด้อย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : จิ้งจอกสาว วางเงิน 2 แสนประกันตัว แต่ถูกตำรวจนำหมายจับคดีฉ้อโกงซ้ำ รับผิดยอมเคลียร์ให้ โต้ไม่ได้หลอกแต่งงาน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th