ดาวโจนส์ปิดลบ 140.59 จุด กดดันหุ้น Boeing-IBM ร่วง, S&P500-แนสแดคบวก จากแรงหนุนหุ้น Tesla
ดาวโจนส์ปิดลบ 140.59 จุด กดดันหุ้น Boeing-IBM ร่วง, S&P500-แนสแดคบวก จากแรงหนุนหุ้น Tesla
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -25 ต.ค. 67 7:48: น.
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดผสมผสานในวันพฤหัสบดี (24 ต.ค.) โดยดาวโจนส์ปิดลดลง 140.59 จุด หลังถูกกดดันจากหุ้น Boeing และหุ้น IBM ที่ร่วงลง ขณะที่ดัชนี S&P500 และดัชนีแนสแดค ปิดแดนบวก หลังได้รับแรงหนุนจากคาดการณ์กำไรของ Tesla และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน ซึ่งช่วยหนุนความเชื่อมั่นของตลาด แม้ว่าผลประกอบการรายไตรมาส 3 ของบริษัทบางแห่งจะลดลงก็ตาม
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดลดลง 140.59 จุด หรือ 0.33% ปิดที่ 42,374.36 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 12.44 จุด หรือ 0.21% ปิดที่ 5,809.86 จุด และดัชนีแนสแดค ปิดเพิ่มขึ้น 138.83 จุด หรือ 0.76% ปิดที่ 18,415.49 จุด
หุ้นของ Tesla ปรับตัวพุ่งสูงขึ้น 21.9% หลังรายงานกำไรในไตรมาส 3 ที่แข็งแกร่ง และสร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุนด้วยการคาดการณ์การเติบโตของยอดขาย 20-30% ในปีหน้า โดยชาร์ลี ริปลีย์ (Charlie Ripley) นักยุทธศาสตร์การลงทุนอาวุโสของ Allianz Investment Management กล่าวว่า ปัจจัยดังกล่าวช่วยให้ดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยของผู้บริโภค ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 3.24%
ดัชนี S&P 500 ปิดแดนบวกเป็นครั้งแรกในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นในตลาดยังคงผันผวนอยู่บ้าง โดยหุ้นส่วนใหญ่ที่คำนวนในดัชนี S&P 500 เคลื่อนไหวในแดนลบ เนื่องมาจากรายงานผลประกอบการของบริษัท และแรงกดดันจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่แม้จะปรับตัวลดลง แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับสูง
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 4.20% หลังก่อนหน้านี้ พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน ที่ระดับ 4.26% โดยบิล นอร์ธีย์ (Bill Northey) ผู้อำนวยการอาวุโสด้านการลงทุนที่ U.S. Bank Wealth Management กล่าวว่า อิทธิพลที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นมากที่สุดในเดือนต.ค. คือการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร จะเห็นได้ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล อายุ 10 ปี ที่เคยอยู่ในระดับต่ำกว่า 4% กลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างที่เราเห็นในตอนนี้
ด้านหุ้น IBM ดิ่งลง 6.17% หลังรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ขณะที่หุ้น Honeywell ร่วงลง 5.10% หลังประมาณการยอดขายประจำปีต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งทั้ง 2 บริษัท เป็นปัจจัยหลักที่ฉุดดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง ขณะที่ดัชนีหุ้นกลุ่มวัสดุ ปิดลดลง 1.42% จากแรงฉุดของหุ้น Newmont
หุ้น Boeing ปิดลดลง 1.18% หลังพนักงานลงคะแนนเสียงไม่รับข้อเสนอสัญญาจ้างงานฉบับใหม่ ซึ่งส่งผลให้การหยุดงานประท้วงดำเนินต่อเนื่อง เป็นระยะเวลานานกว่า 5 สัปดาห์ ขณะที่หุ้น Southwest Airlines ปิดลดลง 5.56% หลังรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 และหลังจากที่บริษัทบรรลุข้อตกลงกับ Elliott Investment Management ซึ่งเป็นนักลงทุนที่เคลื่อนไหวทางการเมือง
ด้านหุ้น UPS ซึ่งเป็นผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุ พุ่งขึ้น 5.28% หลังรายงานว่ากำไรในไตรมาส 3 ปรับตัวเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ข้อมูลที่รวบรวมโดย LSEG ยังระบุว่า บริษัทในดัชนี S&P 500 ที่รายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ไปแล้ว ซึ่งมีจำนวน 159 บริษัท พบว่ามี 78.6% ทำผลงานได้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจเมื่อคืนที่ผ่านมา ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นต้นของสหรัฐฯ จาก S&P Globalเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 54.3 ในเดือนต.ค. จากระดับ 54.0 ในเดือนก.ย. และสูงสุดในรอบ 2 เดือน จากแรงหนุนอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง ขณะที่จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวลดลง ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 19 ต.ค.
ที่มาReuters
รายงาน โดย สิริพงศ์ สิริชุมศรี เรียบเรียง โดย Supak Hopuengju
อีเมล์. supak@efinancethai.com
ดูข่าวต้นฉบับ