โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

เมื่อเด็กเอกจีนได้ทุน HES ไปเรียนภาษาฟรีๆ 6 เดือนที่ 'ไต้หวัน' (จูนสมองกับอักษรจีนตัวเต็ม!)

Dek-D.com

อัพเดต 09 ก.พ. 2565 เวลา 11.36 น. • เผยแพร่ 04 ก.พ. 2565 เวลา 12.03 น. • DEK-D.com
รีวิวจากนักเรียนทุนเรียนภาษาระยะสั้น ‘Huayu Enrichment Scholarship (HES) เรียน 6 เดือนที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติเจิ้งจื้อ (國立政治大學; National Chengchi University, National University of Governance: NCCU)

你好!ถ้าใครอยากไปฝึกภาษาในสังคมของคนที่ใช้ภาษาจีนเป็นหลัก’ไต้หวัน’ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจเหมือนกัน และตอนนี้ทุนเรียนภาษาระยะสั้น ‘Huayu Enrichment Scholarship' (HES)ก็เพิ่งเริ่มเปิดรับสมัครสดๆ ร้อนๆ (หมดเขต 31 มีนาคม 2022) ทั้งเรียนฟรีและมีเงินให้ใช้จ่ายรายเดือนให้ โดยปีนี้มีโควตารวม 132 เดือน โดยกรรมการจะพิจารณาอนุมัติทุนและจัดสรรว่าแต่ละคนจะได้ไปเรียน 3, 6, 9 หรือ 12 เดือน

และวันนี้เราก็มีรีวิวจาก‘แคท’เจ้าของแอคเคานต์ทวิตเตอร์ @mmeiennnเด็กอักษรฯเอกจีน ม.ศิลปากร ที่ได้ทุน HESไปเรียนภาษาจีนระยะสั้นที่‘เจิ้งต้า’ หรือมหาวิทยาลัยแห่งชาติเจิ้งจื้อ (國立政治大學; National Chengchi University, NCCU) บอกเลยว่าตั้งใจเตรียมตัวอย่างดีตั้งแต่ปี 2019 จนได้ยื่นและคว้าทุนในปี 2021 และสมัครด้วยตัวเองโดยไม่ผ่านเอเยนซีใดๆ ใครกำลังเก็บข้อมูลทุนและตัดสินใจว่าจะสมัครเรียนมหาวิทยาลัยไหนดี ตามมาอ่านกันเลยค่ะ~

เล่าเหตุผลที่เด็กเอกจีน

อยากไปเรียนภาษาที่ไต้หวัน

สวัสดีค่ะ~ แคทเรียนจบ ป.ตรี สาขาวิชาภาษาจีน คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้ทุน HESไปเรียนภาษาจีน 6 เดือนที่ NCCU หรือบางคนจะรู้จักกันในชื่อ “เจิ้งต้า” นั่นเองค่ะ

ด้วยความที่เรียนจีนแบบตัวย่อมาตลอด ตอนแรกเลยตั้งใจจะไปเรียนภาษาที่จีนแผ่นดินใหญ่ (ไต้หวันจะใช้อักษรจีนตัวเต็ม) แต่ช่วงโควิดคนไทยจะยังเข้าประเทศจีนไปเรียนภาษาหรือปริญญาไม่ได้ เราเลยมูฟมาไต้หวันแทน นอกจากนี้คือเราเป็นแฟนคลับ ‘มาร์ค ต้วน'(Mark Tuan) เมมเบอร์ GOT7 ซึ่งเป็นคนสัญชาติอเมริกัน-ไต้หวัน ถึงเขาจะพูดภาษาจีนไม่บ่อย แต่เราก็อยากฟังและแปลออกให้ได้ค่ะ ^^

ส่วนตัวรู้จักและหาข้อมูลทุน HESมาตั้งแต่ปี 2019 จนมาเจอกรุ๊ป TSAT : Thai Students Association in Taiwanของกลุ่มนักเรียนไทยในไต้หวัน ทำให้รู้จักเพื่อนคนนึงที่เค้าได้ทุนเมื่อปี 2019 แล้วไปเรียนที่เจิ้งต้า เราลองถามข้อมูลกับเค้าจนสนิทเลย 555 จากประสบการณ์เราเองเจอเจ้าหน้าที่ศูนย์ภาษาใจดีและเอาใจใส่มาก ประทับใจจนตัดสินใจสมัคร NCCU ที่เดียวเลยค่ะ

รีวิวสมัครเรียน NCCU & สมัครทุน

**ต้องบอกก่อนว่าแต่ละมหาวิทยาลัยและในแต่ละปี อาจจะมีกระบวนการสมัครต่างกันค่ะอันนี้จะแชร์ประสบการณ์ส่วนตัว เราสมัครกับมหาวิทยาลัย NCCU โดยตรง ไม่ผ่านเอเยนซี และยื่นช่วงเรียนปี 4 เทอมสุดท้าย

สรุปขั้นตอนคร่าวๆ

  • สมัครเรียนคอร์สภาษาบนเว็บไซต์ ศูนย์ภาษาของมหาวิทยาลัย NCCUซึ่งปกติแล้วจะกำหนดให้มีจำนวนเงินใน Bank Statement ค่อนข้างสูง (US$3500) แต่ถ้าใครขอทุน HES สามารถแนบแบบฟอร์มที่เรากรอกสมัครทุนแทนได้และตอนกรอกฟอร์มจะมีช่องให้ติ๊กว่าเราจะนำไปสมัครทุนด้วย ไม่ใช่นักเรียนที่จะชำระค่าเรียนเอง
  • รอใบตอบรับจากมหาวิทยาลัย แล้วนำใบนี้ไปยื่นสมัครทุน
  • หลังจากเราได้ทุน เราจะได้หลักฐานเป็นใบรับรองทั้งทางอีเมล ให้เรานำไปยื่นกับมหาวิทยาลัยอีกครั้งเพื่อยืนยันว่าเราได้ทุนนี้และจะเข้าเรียนภาษา (ส่วนใบรับรองฉบับจริงจะได้รับตอนไปทำวีซ่าค่ะ)

ไปสอบ TOCFL ครั้งแรกในชีวิต!

ทุนจะกำหนดให้เราส่งคะแนนวัดระดับภาษาตามเกณฑ์ที่กำหนด (ไม่รับคะแนน HSK)

  • ถ้าขอทุนเรียนภาษาระยะเวลา 3-6 เดือน ต้องยื่นคะแนนภาษาจีน TOCFLระดับ A2 (Level 2) ขึ้นไป หรือคะแนนภาษาอังกฤษ TOEIC 550 ขึ้นไป หรือผลสอบอื่นๆ ที่เทียบเท่า
  • ถ้าขอทุนเรียนภาษาระยะเวลา 9-12 เดือน ต้องยื่นคะแนนภาษาจีน TOCFLระดับ B1 (Level 3) ขึ้นไป

TOCFLหรือที่ย่อมากจาก Test of Chinese as a Foreign Language เป็นการทดสอบวัดระดับความรู้ภาษาจีนที่ออกแบบสำหรับชาวต่างชาติที่ไม่ได้ใช้ภาษาจีนเป็นหลัก ส่วนมากผู้สอบมักมีจุดประสงค์เพื่อนำคะแนน TOCFLไปยื่นเรียนต่อหรือทำงานที่ประเทศไต้หวัน

ระดับการทดสอบ ระดับคะแนน CEFR ชั่วโมงเรียน ฐานคำศัพท์

ระดับต้น

(Band A)

Level 1 A1 240 - 480 ชั่วโมง 500 Level 2 A2 480 - 720 ชั่วโมง 1000

ระดับกลาง

(Band B)

Level 3 B1 720 - 960 ชั่วโมง 2500 Level 4 B2 960 - 1920 ชั่วโมง 5000

ระดับสูง

(Band C)

Level 5 C1 1920 - 3840 ชั่วโมง 8000 Level 6 C2 มากกว่า 3840 ชั่วโมง 8000

อ่านต่อ:มารู้จัก “TOCFL” การสอบวัดระดับภาษาจีน เพื่อใช้ในการเรียนต่อไต้หวัน

แล้วเพิ่งเริ่มเรียนภาษาจีนจริงจังตอนเรียนเอกภาษาจีนที่มหาวิทยาลัย มีประสบการณ์สอบวัดระดับ HSK 2, 3, 4 แต่พอจะสมัครทุนนี้ ทำให้เราต้องเจอการสอบ TOCFL ครั้งแรกในชีวิต// จากที่เคยอ่านรีวิวคือยากมาก Band B อาจเทียบเท่ากับ HSK 6 ได้เลย

เราใช้ TOCFL Band B Level 3 ยื่น สมัครสอบไปตั้งแต่เดือนตุลาคม และต้องรอคะแนนจากไต้หวันอีก 1 เดือนกว่าจะถึงไทย แต่สถานการณ์โควิดทำให้ได้ล่าช้ากว่าเดิม สุดท้ายได้รับผลคะแนนช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ผ่านเฉียดฉิวเลยยย (ตอนนั้นกลัวสอบรอบนี้ไม่ผ่าน เลยสมัครเผื่ออีกรอบไปด้วยค่ะ 555)

รีวิวคร่าวๆ คือข้อสอบจะมี 2 ส่วน

(ต้องผ่านทั้งคู่ถึงจะถือว่าผ่านระดับนั้น)

  • การฟังบทสนทนาจะยาวและเยอะกว่า HSK ที่เคยเจอเยอะมาก แล้วไม่ใช่ว่าจะฟังเสร็จรู้คำตอบเลย แต่ต้องประมวลต่ออีกชั้น
  • การอ่านการอ่านมีให้เลือกคำมาเติมให้ประโยคสมบูรณ์ กับการอ่าน passage ที่ค่อนข้างยาวพอสมควร ต้องคิดวิเคราะห์ก่อนเลือกช้อยส์ตอบ และไม่มีข้อเขียน

เราสามารถเลือกสอบเป็นจีนตัวย่อได้นะคะ แต่บอกเลยว่าพาร์ตฟังแคทผ่านแบบคาบเส้น น่าจะเพราะไม่ชินสำเนียงไต้หวันด้วย แล้วก็พลาดที่ไม่ได้ใส่นาฬิกาไป ทำให้วางแผนเวลายาก (สอบห้องโถงใหญ่ ไม่มีนาฬิกา) จำได้ว่าช่วง 10 นาทีสุดท้ายก่อนหมดเวลาจะมีสั่นกระดิ่ง แคทต้องทิ้งดิ่งพาร์ตการอ่านไป 20 ข้อเลย

ตอนเตรียมตัวแคทก็นั่งฝึกทำข้อสอบ แต่ข้อสอบเป็นแบบจีนตัวเต็ม ทำให้ต้องนั่งเปิดพจนานุกรมเทียบ คิดว่าที่ช่วยให้เราผ่านได้เพราะเพิ่มคลังศัพท์ให้ตัวเองเยอะ และรู้จักไวยากรณ์บางอย่างเพิ่มเติม บวกกับสะสมมาจากการเรียนเอกภาษาจีนมา 4 ปีด้วยค่ะ

Recommendation Letters

ทั้งการสมัครทุนและมหาวิทยาลัย ต้องใช้ Study Plan กับ Recommendation Letter เหมือนกันเราติดต่อให้อาจารย์ 2 คน ช่วยเขียนคนละ 2 ฉบับสำหรับยื่นทุนและมหาวิทยาลัย ฉบับนึงจ่าหน้าซองถึงศูนย์ภาษา NCCU อีกฉบับถึงกรรมการพิจารณาทุน ส่วนเนื้อหาให้อาจารย์พิจารณาว่าจะปรับให้ต่างกันมั้ย

**แนะนำให้ติดต่อไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ นะคะราอยากแชร์ประสบการณ์วุ่นๆ ของเราให้ฟัง 555 ตอนนั้นตั้งใจจะยื่นทุนตั้งแต่กุมภาพันธ์ ก็เลยรีบ walk-in เข้าไปติดต่ออาจารย์ที่ห้องทำงานตั้งแต่ธันวาคมเลยค่ะ แต่ปัญหาคือผ่านไปแค่ 2 สัปดาห์โควิดก็กลับมาระบาด มหาวิทยาลัยเลยปรับมาเป็นเรียนออนไลน์ และต้องมาส่งเอกสารทางไปรษณีย์แทน แถมยังมีเหตุให้ต้องติดต่ออาจารย์คนอื่นเขียนให้แทนด้วย

ยิ่งไปกว่านั้นคือตอนสมัครทุน เราต้องใส่จดหมายแนะนำลงในซอง ปิดผนึก และให้อาจารย์เซ็นบนซองจดหมาย จากนั้นปั๊มตราสาขาที่เรียนทับตรงที่ปิดซองพอดีตอนนั้นอาจารย์ 2 คนอยู่คนละจังหวัด และตราประทับอยู่กับอาจารย์หนึ่งในนั้น ก็เลยต้องรบกวนให้อาจารย์ส่งไปมาหลายรอบ ยุ่งยากพอสมควรเลยค่ะ แต่สุดท้ายก็ผ่านไปด้วยดี TT (ปีที่เราสมัครยังไม่มีให้เซ็นออนไลน์ เลยต้องใช้วิธีเซ็นสดอยู่ค่ะ)

Study Plan

ใน Study Plan เราต้องเขียนเล่าเขียนเหตุผลว่าทำไมถึงสนใจอยากเรียนภาษาจีนที่ไต้หวันอย่างเราเองก็เป็นเด็กสายวิทย์-คณิตที่มีแพสชันกับภาษาจีน เลยตัดสินใจเลือกเรียนเอกภาษาจีนของมหาวิทยาลัย และแม้ว่าจะชินกับจีนตัวย่อมาตลอด แต่เรามองว่าจีนตัวเต็มทั้งยากและน่าสนใจ เลยตั้งเป้าหมายท้าทายตัวเองว่าต้องเรียนได้เหมือนกัน

ตอนนั้นแคทเลือกเขียนภาษาจีน และเป็นตัวย่อ (ถามทาง NCCU เค้าบอกว่าเขียนตัวย่อได้) แต่แนะนำว่าสามารถเขียนเป็นตัวย่อแล้วเข้า Google Translate เป็นตัวเต็มได้นะคะ

Interview

หลังจากสมัครทุนแล้วเขาจะไม่ได้ประกาศผู้เข้ารอบผ่านหน้าเว็บ แต่จะอีเมลมาบอกว่าเรามีสิทธิ์สัมภาษณ์มั้ยเราได้สัมภาษณ์ออนไลน์กับเจ้าหน้าที่ 1 คนค่ะ (แต่ไม่ได้สัมภาษณ์กับ NCCU) บรรยากาศคือไม่กดดันเลยยย เค้าใจดี เหมือนชวนคุยมากกว่า

หลังจากเราได้ทุนแล้ว เขาจะส่งหลักฐานเป็นใบรับรองมาให้ทางอีเมล เราก็นำไปส่งให้มหาวิทยาลัยเพื่อยืนยันอีกครั้งว่าเราได้ทุน และจะเรียนกับเขา (ถ้าใครไม่ได้ทุน จริงๆ ก็ควรจะอีเมลไปแจ้งว่าไม่ได้ทุน และตัดสินใจว่าจะไม่เรียน)

. . . . . . .

เริ่มชีวิตที่ไต้หวัน

ด้วยการกักตัว 21 วัน!

ปกติจะรัฐบาลจะมีมาตรการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายช่วงกักตัวค่ะ แต่กรณีมาเรียนภาษาระยะสั้นจะยังขอบัตร ARC (Alien Resident Certificate, 居留證) ไม่ได้ ทำให้ไม่สามารถขอเงินช่วยเหลือส่วนนี้ ตอนนั้นแคทจ่ายไปประมาณ 33,000 TWD กักตัวทั้งหมด 21 วันโชคดีที่มหาวิทยาลัยช่วยทำเรื่องให้เรากักตัวกับรัฐบาลได้ 14 วัน ส่วนอีก 7 วันที่ต้องกักโรงแรมข้างนอก กรณีหลังค่าใช้จ่ายจะสูงกว่า ถ้าเกิดใครต้องกักตัวกับโรงแรมข้างนอกเต็มๆ ก็อาจเจอรวมๆ 40,000-50,000 TWD เลยค่ะ

Note:สำหรับทุน HES อาจจะต้องรอเงินเข้าหน่อย อย่างแคทมาถึงต้องกักตัว 21 วัน เริ่มเรียน 4 ธันวาคม แต่เงินเข้าปลายเดือนธันวาคมเลย ระหว่างนั้นต้องสำรองจ่ายสำหรับใช้ซื้ออาหารและของใช้ (ออกทุกสิ้นเดือน ขึ้นอยู่กับมหาวิทยาลัย)

. . . . . . .

เริ่มเรียนภาษาจีนที่ NCCU

รีวิวให้ฟังแบบจัดเต็ม

รูปแบบการเรียน & การสอบวัดระดับ

เราได้อยู่หอในที่ใกล้ศูนย์ภาษามากกก เดิน 5 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ และด้วยสถานการณ์โควิดก็เลยทำให้ยังไม่กล้าออกไปไหน แต่ก็ยังไม่เจอการเรียนออนไลน์เลยเพราะมาตรการที่ไต้หวันเข้มงวดมาก และเราอยู่ห่างไกลจากจุดที่ระบาดหนัก เพียงแค่ไปถึงแล้วยังต้องกักตัวและได้สอบวัดระดับทางออนไลน์

ข้อสอบวัดระดับจะเป็นแกรมมาร์ง่ายๆ มีหลายรูปแบบผสมกัน ทั้งแต่งประโยค, เลือกคำไปเติมในช่องว่างเพื่อให้ประโยคสมบูรณ์, เขียนจดหมายตามจำนวนตัวอักษรที่กำหนด และจะมีอาจารย์มาคุยกับเราผ่าน Zoom เป็นคำถามทั่วไป เขาแค่ต้องการชวนคุยดูเพื่อประเมินระดับภาษาของเรา

NCCU จะมีแบ่งออกเป็น 12 ระดับ

  • Basic (1-3)
  • Intermediate (1-3) *เราได้มาเริ่มที่ Intermediate 2 ค่ะ
  • High Intermediate (1-3)
  • Advance (1-3)

ระยะเวลาเรียนคือ 1 ระดับ = 1 เทอม = 3 เดือน แปลว่าที่เราได้ทุนเรียนภาษา 6 เดือน ก็จะเรียนได้มากที่สุดถึง 2 ระดับ ซึ่งการจะ pass ชั้นได้ต้องทำคะแนนรวมได้ 70+ แต่ทุน HES จะกำหนด 80+ ไม่งั้นจะโดนตัดทุน 1 เดือน

บรรยากาศในคลาส

(เพื่อน, อาจารย์, วิธีสอน)

ตอนนี้เรากำลังเรียน Intermediate 2 ยังไม่จบเทอมแรก เราจะได้เรียนวันจันทร์-ศุกร์ วันละ 3 ชั่วโมง อิงเนื้อหาในหนังสือเป็นหลัก เริ่มจากคำศัพท์ > บทความ > แกรมมาร์(ต่างจากที่เคยเจอในมหาวิทยาลัย ตอนนั้นคือถ้าเป็นคาบแกรมมาร์ ก็จะได้เรียนแกรมมาร์ทั้งเล่มเลยค่ะ)

ถ้าเป็นที่ NCCU เขาจะให้โอกาสเราลองเรียนแล้วขอเปลี่ยนคลาสได้ภายในสัปดาห์แรก ตอนแรกเราเปิดหนังสือมาเจอบทการเมืองพอดี กลัวยากแล้วเรียนไม่ไหว เกือบขอเปลี่ยนไป Intermediate 1 แต่พอมาเจอบรรยากาศของคลาสนี้แล้วเปลี่ยนใจเลยค่ะ อาจารย์สอนดีมากก เพื่อนที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ชั้นก่อนก็ไม่ได้จับกลุ่มกันเองด้วย // พอเรียนเรื่อยๆ ก็รู้ว่าเนื้อหาบทต่อไปไม่ยากขนาดนั้น แต่จะเป็นเรื่องใกล้ตัวขึ้น พวกเทศกาลกับกิจกรรมยามว่างต่างๆ

ในคลาสมีนักเรียน 8 คน เราเป็นคนไทยหนึ่งเดียว มีทั้งเพื่อนญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ โปแลนด์ ฮังการี ไอร์แลนด์ อังกฤษ ฯลฯ หลากหลายมากกก เราไม่เคยเรียนกับเพื่อนต่างชาติมาก่อน พอได้มาฟังหลายสำเนียงเลยรู้สึกยากและไม่ชินเท่าไหร่แต่ถ้าเรื่องการออกเสียงภาษาจีนเราว่าไม่ค่อยยาก เพราะภาษาไทยก็มีวรรณยุกต์ ในขณะที่เพื่อนบางชาติจะต้องปรับตัวเยอะเพราะภาษาที่เขาใช้ปกติไม่ได้มีวรรณยุกต์ค่ะ

แล้วที่น่าสนใจคือวิธีสอนของอาจารย์ เขาจะชอบคิดกิจกรรมมาให้เล่นในคาบ เช่น แบ่งนักเรียนเป็น 2 กลุ่ม อาจารย์จะพูดขึ้นมาประโยคนึง ให้เราทายว่าเป็นศัพท์คำไหน แล้วแข่งกันชิงหยิบการ์ดศัพท์ขึ้นมา แล้วพูดคำศัพท์นั้น หรือตอนเรียนหัวข้องานอดิเรก เขาให้อ่านคำถามในบทแล้วคิดคำตอบไว้ ให้เราจับคู่มาถามตอบกัน แล้วสลับคู่สนทนาเวียนกันไปเรื่อยๆ ช่วยให้สนิทกับเพื่อนมากขึ้น

นอกจากนี้ที่ NCCU แต่ละเทอมจะมีคลาสวัฒนธรรมให้ลงเรียนด้วยนะคะ อย่างเช่น เทอมนี้มีให้เลือก 7 คลาส หนึ่งคนลงได้ไม่เกิน 2 คลาส เราเลยลงเรียนคลาสพู่กันจีนไป อันนี้ฟรี แต่อีกคลาสคือวัฒนธรรมการแต่งงาน เสียเงินค่าเอกสารแค่ 10 หยวน คือดีและคุ้มมากกก

รีวิวสอบกลางภาค

ปกติจะมีการสอบกลางภาคและปลายภาคค่ะ รีวิวกลางภาคที่เจอ เป็นโจทย์ที่อาจารย์กำหนดมาให้ 8 แกรมมาร์ ให้เราเขียนจดหมายถึงใครก็ได้ โดยเนื้อความในจดหมายต้องมีแกรมมาร์ที่กำหนดให้ครบ ถึงเราจะรู้ว่าใช้ยังไง แต่ยากตรงที่ต้องดูว่าจะจับแกรมมาร์มาใส่ตรงไหนดี สุดท้ายก็เป็นจดหมายที่อ่านแล้วดูมีหลักการสุดๆ เลยค่ะ~

การปรับตัวเรื่องภาษาจีนตัวเต็ม

และการอ่านออกเสียงบางคำที่ต่างกัน

บางครั้งเวลาเขียนการบ้าน เราจะชินกับตัวย่อจนไม่ทันสังเกตว่าเผลอเขียนผิดไปตอนไหน แล้วส่งการบ้านไปแบบนั้น อาจารย์เลยช่วยแก้กลับมาให้ค่ะ 555จริงๆ แล้วเราว่าจีนตัวเต็มยากพอสมควร แต่ในบทเรียนก็จะมีบางคำที่เขียนเหมือนกันทั้ง 2 เวอร์ชัน แล้วอาจารย์ก็จะให้เราเขียนตามคำบอกทุกครั้งที่ขึ้นบทใหม่ ทำให้ได้คัดได้จำตลอด // สู้ๆ ไม่มีวิธีไหนช่วยได้นอกจากการท่องจำแล้ว~

นอกจากนี้ยังมีบางคำที่ออกเสียงแบบจีนกับไต้หวันต่างกันด้วย เช่น คำว่า 和 ที่แปลว่า “และ” เขียนเหมือนกันทั้งตัวเต็มและตัวย่อเลยค่ะ แต่จีนจะออกเสียง “เหอ” ส่วนไต้หวันจะออกเสียง “ฮั่น” ซึ่งแคทชินกับเหอมานานมาก ช่วงแรกเลยต้องตั้งสติดีๆ เลยค่ะ

Before & After

หลังจากเรียนมาได้เกือบเทอมนึงแล้วค่ะ ความแตกต่างที่รู้สึกได้คือ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเวลาจะพูดภาษาจีน เราต้องคิดภาษาไทยในหัวก่อนแล้วค่อยแปลเป็นจีน แต่พอมาเรียน อาจารย์พยายามให้พูดเยอะ พอได้ใช้บ่อยก็เริ่มคิดเป็นภาษาจีนแล้วพูดออกมาได้ทันที

ที่ผ่านมาเราเริ่มไปสั่งข้าวข้างนอก คุยกับป้าร้านข้าว สั่งข้าวเป็นภาษาจีน แต่ยังหาเพื่อนไต้หวันไม่ค่อยได้ เพราะคนที่มาเรียนภาษาก็เป็นต่างชาติ แต่เราสามารถไปเข้าชมรมได้ค่ะ

. . . . . . .

สรุปชีวิตที่ไต้หวันใน 3 ข้อ

1. สวนสาธารณะของไต้หวันคือดีมาก!หลังมหาวิทยาลัยจะมีอยู่ที่นึงให้ไปนั่งเล่นตอนว่างๆ ดูคนไต้หวันพาลูก พาสุนัขมาเดินเล่น บางทีคนสูงอายุก็มาจับกลุ่มคุยกัน เป็นบรรยากาศที่เห็นแล้วผ่อนคลายสุดๆ

2. ประทับใจสุดคือการเดินทางสะดวกมากในเมืองมีรถบัส และยังอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟใต้ดินด้วย (จากมหาวิทยาลัยไป Taipei 101 นั่งรถเมล์ 15-20 นาทีต่อเดียวถึง) แถมค่าเดินทางยังถูกและรถมาตรงเวลา เขาจะมีแอปให้เช็กได้ว่าตอนนี้รถบัสหมายเลขนี้อยู่สถานีไหน และเช็กได้ว่าอีกกี่สถานีเราจะต้องลง หรือถ้าเราพลาดคันนี้ คันต่อไปจะมาถึงในอีกกี่นาทีข้างหน้า

หรือถ้าวันไหนอยากเดินก็สะดวกอีกเหมือนกัน เพราะเขามีสัญญาณไฟสำหรับคนที่จะข้ามถนน ซึ่งรถก็จะหยุดให้นะคะ

3. ประกันมหาวิทยาลัยจะบังคับให้ทำ Student Group Accident Insurance ราคา 325 TWD/เทอม ส่วน Medical Insurance ถ้าใครมี Overseas Medical Insurance ก็ใช้อันนั้นได้ ไม่จำเป็นต้องทำเพิ่ม แต่เราไม่มีก็เลยทำกับมหาวิทยาลัย ราคาตก 1,500-1,800 TWD/เทอม

แชร์ประสบการณ์เบิกเงินประกัน

อยู่วันนึงเราก็ไมเกรนขึ้นแบบหนักมากจนต้องไปหาหมอ ตอนนั้นเรียนภาษาจนพอคุยได้แล้วค่ะ เขาก็จัดยามาให้ เสียค่ายาทั้งหมด 815 TWD ซึ่งประกันเคลมเร็วมากค่ะ

  • เราต้องสำรองจ่ายก่อน
  • ขอใบวินิจฉัย+ใบเสร็จ
  • นำไปเป็นหลักฐานยื่นให้ศูนย์ภาษา พร้อมกับให้เลขบัญชีไต้หวัน
  • เจ้าหน้าที่จะกรอกข้อมูลเข้าระบบ เอาเอกสารเคลมประกันใส่ในซองจดหมาย จ่าหน้าซองให้พร้อม
  • เรานำเอกสารไปส่งไปรษณีย์
  • รอ 4-5 วันก็ได้เงินคืนเข้าบัญชีแล้วค่ะ

ทิ้งท้ายถึงรุ่นน้อง

รีวิวเอกภาษาจีน ม.ศิลปากร

อาจารย์คอยช่วยเหลือและให้คำแนะนำเราตลอดเลย อย่างตอนสมัครทุน HES ก็ไปขอคำปรึกษาและให้ช่วยตรวจสอบไวยากรณ์ การใช้คำ ระดับภาษา ฯลฯ เพื่อให้ Study Plan ของเราน่าอ่านขึ้น แล้วเรายังเคยเรียนวิชาการเขียน ซึ่งเขามีพูดถึงเรื่อง Study Plan ด้วยค่ะ เราเลยได้รู้จักคร่าวๆ แล้วมาปรับใช้กับการขอทุนครั้งนี้

เราคิดว่าถึงใครจะมาเริ่มนับหนึ่งภาษาจีนก็เรียนไหวอาจารย์จะเริ่มสอนตั้งแต่ pinyin คอยเช็กตลอด ค่อยๆ ไปพร้อมกัน ส่วนใหญ่จะเน้นวัฒนธรรมและวรรณกรรม โดยจะได้เรียนการฟังกับการพูดเทอมละ 1 รายวิชา และได้เรียนกับอาจารย์ชาวจีนด้วย // แรกๆ เราฟังไม่ออกเลย แต่ได้ความช่วยเหลือเพื่อน แล้วสภาพแวดล้อมก็ค่อยๆ ซึมซับจนเริ่มฟังออกและสื่อสารได้ เป็นหลักสูตรที่เรียนแล้วชอบค่ะ ^^

. . . . . .

สำหรับใครที่มองหาโอกาสโกอินเตอร์ ตอนนี้มีหลายทุนกำลังเปิดรับสมัคร
ตามไปเช็กกันต่อได้เลยที่ "โปรแกรมค้นหาทุนเรียนต่อนอก by Dek-D"

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...