โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

ผลศึกษาชี้ ‘เล่นมือถือก่อนนอน’ เสี่ยงเป็นโรค ‘นอนไม่หลับ-อัลไซเมอร์’

The Bangkok Insight

อัพเดต 16 เม.ย. เวลา 12.14 น. • เผยแพร่ 16 เม.ย. เวลา 00.38 น. • The Bangkok Insight

ผลวิจัยจากการสำรวจพฤติกรรมก่อนนอน พบว่า คนที่เล่นมือถือก่อนนอนมีความเสี่ยงเป็นโรคนอนไม่หลับ และหากการนอนไม่มีคุณภาพ หลับไม่ลึก ก็มีความเสี่ยงเป็นอัลไซเมอร์

สถาบันสาธารณสุขแห่งนอร์เวย์ เปิดเผยผลการศึกษา ที่ดำเนินการสำรวจจากนักศึกษากลุ่มตัวอย่างอายุระหว่าง 18-28 ปี จำนวนมากกว่า 45,000 คน เกี่ยวกับพฤติกรรมก่อนนอน เพื่อศึกษาว่า ระยะเวลาในการเล่นมือถือก่อนนอน ส่งผลต่อคุณภาพการนอนหรือไม่ และระหว่างการใช้มือถือในที่นอนเพื่อดูสื่อโซเชียล กับ การดูจออื่น ๆ เช่น โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ หรือเล่นเกมบนมือถือ อย่างไหนจะส่งผลเสียมากกว่ากันต่อคุณภาพการนอน

เล่นมือถือก่อนนอน

แบบสำรวจพฤติกรรมเน้นถามพฤติกรรมการนอน การจ้องจอดูมือถือ จอทีวี หรือคอมพิวเตอร์ ก่อนนอน รวมทั้งการตื่นนอน และความเหนื่อยล้า

ผลการสำรวจชี้ว่า หากก่อนนอนยิ่งจ้องจอ ส่องแอปมือถือเป็นเวลานาน ก็จะยิ่งไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ กล่าวคือ ทุก 1 ชั่วโมงที่หมดไป ยิ่งทำให้มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนอนไม่หลับเพิ่มขึ้นถึง 63% และทำให้เวลาการนอนหดหายไป 24 นาที ต่อทุก 1 ชั่วโมง

ผู้ตอบแบบสอบถามที่บอกว่า ชอบเล่นมือถือ หรือ ดูทีวี ใช้คอมพิวเตอร์ก่อนนอน อย่างน้อย 3 คืน ต่อสัปดาห์ มักมีปัญหานอนไม่หลับอย่างน้อย 3 เดือน

แม้ผลการวิจัยพบว่ามีความเชื่อมโยงกันจริง ระหว่างการจ้องจอบนที่นอน กับการนอนหลับไม่สนิท หรือ นอนไม่หลับ แต่นักวิจัยก็ไม่สามารถฟันธงได้ว่า การเล่นมือถือ หรือ จ้องจอคอมพิวเตอร์ ดูทีวี จะเป็นสาเหตุของการนอนไม่หลับ

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญคลินิกการนอนแห่งหนึ่งในอังกฤษ เผยว่า ผลการศึกษาดังกล่าว ถือเป็นหลักฐานชิ้นเอก ที่ชี้ได้ว่า การใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่งผลในทางลบต่อการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ

โดยปกติ คนเรามีวงจรการนอนหลับ 2 ช่วง คือ ช่วงการหลับตื้น ไปจนถึงหลับลึก (Non Rapid Eye Sleep) และ ช่วงหลับฝัน (Rapid Eye Movement Sleep : REM Sleep) ซึ่งเป็นช่วงที่การทำงานของกล้ามเนื้อต่าง ๆ จะหยุดทำงาน ยกเว้นกระบังลม กล้ามเนื้อเรียบ กล้ามเนื้อตา และหัวใจ ซึ่งช่วงวงจรมักจะเกิดขึ้นในช่วงเช้ามืด

ดังนั้น การนอนที่มีคุณภาพสำหรับคนวัยผู้ใหญ่ คือ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน และ ควรหลับลึกให้ได้ถึง 20%-25% ของตลอดช่วงเวลาการนอนตลอดทั้งคืน

ขณะที่คนวัยรุ่น และวัยเด็ก ควรนอนไม่ต่ำกว่า 7-8 ชั่วโมง แต่ผลการศึกษาวิจัยอีกชิ้นหนึ่งระบุว่า หากคนเรามีช่วงการหลับลึก ในระยะที่ 2 น้อย อาจส่งผลร้าย คือ ทำให้สมองบางส่วนถูกทำลาย และเสี่ยงต่อการเป็นโรคอัลไซเมอร์

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X:https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube:https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...