Amaze พลิกเกม CRM ก้าวใหม่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ‘ซี.พี.’
ระบบสะสมแต้ม หรือ “พอยต์” (Point) เป็นหนึ่งใน Loyalty Program ที่แบรนด์ต่าง ๆ นิยมนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการดูแลรักษาฐานลูกค้าของตนเอง ทั้งยังจูงใจ และกระตุ้นให้เกิดการใช้งานต่อเนื่อง ทำให้ลูกค้ารู้สึกถึง “ความคุ้มค่า” จากการนำพอยต์ไปแลกเป็นสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ
อย่างไรก็ตาม การใช้ประโยชน์จากคะแนน หรือ “พอยต์” ในมุมของลูกค้าอาจไม่ได้ตรงใจไปทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเบสิกอย่างการที่ไม่รู้ว่าจะนำคะแนนเหล่านั้นมาแลกเป็นอะไร เพราะไม่ถูกใจตัวเลือกที่มีอยู่ จนปล่อยให้หมดอายุไปเฉย ๆ ก็มี หรือบ้างก็อาจมีพอยต์เหลือไม่มากพอที่จะนำไปแลกอะไรเป็นชิ้นเป็นอันได้
บิ๊กมูฟเครือ ซี.พี.
“เพนพอยต์” เหล่านี้เป็นไอเดียให้ “เครือเจริญโภคภัณฑ์” หรือ ซี.พี. (CP) พัฒนาซูเปอร์แอป ในชื่อ “อเมซ” (Amaze) เพื่อรวมพอยต์ต่าง ๆ จากการใช้บริการในเครือ ซี.พี. ไม่ว่าจะเป็นคะแนนใน ALL POINT, My Lotus’s, Makro PRO POINT และ True Point เป็นต้น
ไม่ใช่เท่านั้นยังดึงคะแนนจากบัตรเครดิตชั้นนำให้เข้ามาใช้ร่วมกันได้ด้วย และสามารถใช้พอยต์เหล่านั้นแทน “เงินสด” ในการซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์ม 100 พอยต์ จะมีมูลค่าเท่ากับ 1 บาท สามารถแลกได้เต็มจำนวนโดยไม่มีขั้นต่ำ
ภายในแอปมีทั้งส่วนที่เรียกว่า “อเมซมอลล์” (Amaze Mall) เป็นมาร์เก็ตเพลซให้เลือกซื้อสินค้าแบรนด์ต่าง ๆ รวมถึงบริการ “ออนดีมานด์” สำหรับสั่งดีลิเวอรี่จาก 7-Eleven และ Lotus’s ได้อีกด้วย ซึ่งจัดส่งสินค้าจาก 17,000 สาขาทั่วประเทศ ภายใน 1-3 ชั่วโมง
การเปิดตัวซูเปอร์แอป “Amaze” ถือเป็นบิ๊กมูฟเมนต์ที่น่าสนใจในสายธุรกิจดิจิทัลและอีคอมเมิร์ซของเครือ ซี.พี. ที่น่าจับตา
เกมใหม่ลอยัลตี้โปรแกรม
“ธรินทร์ ธนียวัน” ผู้อำนวยการบริหารกลุ่มด้านอีคอมเมิร์ซ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เล่าว่า จุดเริ่มต้นในการพัฒนา Amaze เกิดขึ้นราว 1 ปีก่อน เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมอีโคซิสเต็มระบบ CRM ของบริการในเครือ ซี.พี. จากที่เคยแยกเป็นไซโลมารวมไว้ในที่เดียว และเมื่อนำดาต้าจากหลายที่มาประกอบกัน จะช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าแต่ละคนได้มากขึ้น นำไปสู่การนำเสนอบริการหรือสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสม
“การมี Amaze ไม่ได้กระทบการใช้งานแอปดีลิเวอรี่ที่มีอยู่แล้ว เพราะแอปเหล่านั้นมีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่น แต่มองว่า Amaze จะเป็นส่วนเสริมบริการเดิมมากกว่า และช่วยเพิ่มโอกาสในการ ครอสเซลข้ามธุรกิจ เช่น ลูกค้าใช้ชีวิตกับ 7-Eleven เป็นหลัก ไม่เคยรู้ว่าบริการอื่นมีอะไรบ้าง ก็ได้ลองใช้บริการด้วย”
โพซิชั่นของ Amaze คือ “Loyalty e-Commerce” ที่โฟกัสเรื่องการแลก “สิทธิประโยชน์” ก่อนการเป็น “อีคอมเมิร์ซ” ต่างจากแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่มีในปัจจุบัน ในแง่การทำตลาดคงจะไม่เข้าไปแข่งเรื่อง “สงครามราคา” เพราะอยู่ในเกมที่ต่างกันตั้งแต่แรก
“ร้านที่ขายสินค้าบน Amaze Mall ในระยะแรกจะเป็นร้านแบรนด์ที่ได้รับการการันตีคุณภาพ เราเปิดกว้างให้ผู้ขายมาก ๆ ด้วยการคิดค่าธรรมเนียมการขาย หรือ Commission Fee น้อยกว่าแพลตฟอร์มอื่น เช่น ถ้าเขาคิดที่ 15-20% เราคิดน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง และในอนาคตมีแผนที่จะขยายไปยังกลุ่มเอสเอ็มอีด้วย”
ต่อยอดสร้างรายได้
“ธรินทร์” ย้ำว่า เป้าหมายหลักของ Amaze คือการทำให้ฐานสมาชิกของทุกบริการในเครือ ซี.พี. ที่มีรวมกันกว่า 36 ล้านคน มาใช้ Amaze ทั้งหมด เพื่อให้ฐานข้อมูลของแต่ละบริการ Synergy กัน ส่วนการสร้างรายได้มองที่ค่าคอมมิชชั่นเป็นหลัก แต่ในระยะถัดไปอาจมีรายได้จากโซลูชั่นที่ช่วยด้านการตลาดและการขายเพิ่มเติม
“ช่วงแรกคงโฟกัสที่การทำให้ลูกค้าเข้าใจโมเดลของ Amaze และหันมาแลกพอยต์ในแอปก่อน เชื่อว่าเมื่อมีการแลกพอยต์มากขึ้น จะต่อยอดหรือขยายอีโคซิสเต็มไปที่บริการอื่น ๆ ได้ เช่น ท่องเที่ยว ร้านอาหาร และโรงแรม ส่วนในแง่ความเป็นมาร์เก็ตเพลซจะดูจากความต้องการของผู้ใช้เป็นหลัก”
ด้าน “สรินทิพย์ สถิตย์เสถียร” กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสเซนด์ คอมเมิร์ซ จำกัด ผู้ให้บริการแอป Amaze กล่าวว่า สินค้าที่จำหน่ายบน Amaze Mall เป็นร้านจากแบรนด์ชั้นนำกว่า 500 ร้าน มีสินค้าประมาณ 50,000 SKUs ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอาหาร แก็ดเจ็ต และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และภายในสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 1,800 ร้านค้า
หลังทดลองให้บริการราว 2 เดือน เริ่มเห็นพฤติกรรมการแลกพอยต์ใน 2 กลุ่ม กลุ่มแรกจะแลกซื้อสินค้าเล็ก ๆ ราคาต่อบิล 100-200 บาท มีสัดส่วน 20-30% อีกกลุ่มจะแลกเป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าใหญ่ ๆ เช่น สินค้าอิเล็กทรอนิกส์
“พอยต์ของผู้ใช้ทั้งหมดที่อยู่ในระบบของ Amaze ที่พร้อมแลกสินค้ามีอยู่รวมกันราว 600 ล้านพอยต์”
วัดพลังอีโคซิสเต็ม
“สรินทิพย์” กล่าวต่อว่า ทีมพัฒนา Amaze เป็นคนไทยทั้งหมด หลายคนมีประสบการณ์ทำงานกับบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก ถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้มีความยืดหยุ่นในการพัฒนาฟีเจอร์ต่าง ๆ รวมถึงความสามารถของทีมยังช่วยให้ต้นทุนการพัฒนาแพลตฟอร์มไม่สูงเกินไป เพราะเมื่อจะต้องพัฒนาฟีเจอร์อะไรสักอย่าง ทีมจะรู้ว่าจำเป็นหรือไม่จำเป็น
“ความท้าทายของการพัฒนาแพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลซ คือเรื่องเทคโนโลยี และอีโคซิสเต็ม ความโชคดีของ Amaze คือมีอีโคซิสเต็ม และบริการของเครือ ซี.พี. คอยฟูมฟักให้เติบโต อีกส่วนที่สำคัญมากคือการจัดการต้นทุนค่าบริการคลาวด์ให้สัมพันธ์กับการขยายบริการในอนาคต หลายแพลตฟอร์มที่ปิดไปมีสาเหตุมาจากเรื่องนี้”
ผู้บริหาร “แอสเซนด์ คอมเมิร์ซ” ทิ้งท้ายด้วยว่า มุ่งหวังให้ “Amaze” เป็นทางเลือกในการซื้อสินค้ารูปแบบใหม่ที่ช่วยเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคท่ามกลางการแข่งขันในตลาดที่เต็มไปด้วยแพลตฟอร์มต่างชาติ
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : Amaze พลิกเกม CRM ก้าวใหม่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ‘ซี.พี.’
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net