สาววัย 30 ปี นัดเจอต่างชาติ ผ่านแอปฯหาคู่ สุดท้ายเจอโรคจิต บังคับแก้ผ้า ลวนลาม เสพยา ทุบตี

เมื่อเวลา 16.36 น.วันที่ 20 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียน จาก น.ส.ฟ้า (นามสมมุติ)อายุ 30 ปี หลังตกเป็นเหยื่อต่างชาติโรคจิต บังคับแก้ผ้า ลวนลาม บังคับเสพยาเสพติด ทุบตี จนได้รับบาดเจ็บ และเกิดความหวาดกลัว หวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ที่ผ่านมา พร้อมให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเองได้รู้จักกับชาวต่างชาติรายนี้ ผ่านแอปพลิเคชั่นหาคู่ แล้วได้นัดเจอกัน โดยชาวต่างชาติออกอุบายจ้างให้มาทำความสะอาดห้องพัก ในราคา 500 บาท ที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่พัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

เนื่องจากตนเองนั้นก็ตั้งใจเดินทางจากบ้านเกิดเข้ามาทำมาหากิน เลี้ยงชีพในเมืองพัทยา แต่ยังอยู่ระหว่างการฝากงานของเพื่อน หวังจะได้เป็นสาวบาร์เบียร์ จึงต้องการเงินมาใช้จ่ายรายวันก่อน จึงรับงานทุกอย่าง และตกลงนัดพบกัน โดยตนเองไปหาชาวต่างชาติที่คอนโดฯ ตอนแรกก็เข้าไปในห้องเพื่อทำความสะอาดตามปกติ แต่ไม่นานชาวต่างชาติก็เผยทาสแท้ เข้ามาลวนลาม บังคับให้ถอดเสื้อผ้าออก โดยให้เหตุผลว่าเหงื่อไหลเปียกไปทั้งตัว แล้วให้สวมชุดคอสเพลย์ แบบแม่บ้านที่เตรียมไว้ให้ ทั้งยังมีการจัดฉากตั้งกล้อง ตนเองเริ่มรู้สึกกลัว เพราะชาวต่างชาติรายนี้ได้ลงมือทำร้าย ต่อยท้อง ทุบตี แล้วบังคับให้เสพยาเสพติดประเภทยาไอซ์ แล้วใช้อวัยวะเพศมาถูกไปมาตามร่างกายของตนเอง พร้อมทั้งเสนอว่าจะเพิ่มเงินให้หากยอมมีเพศสัมพันธ์ด้วย แต่ขอมีทางประตูหลัง ตนเองยิ่งเกิดความกลัวเพิ่มขึ้นไปอีก เพราะเมื่อขัดขืน ปฏิเสธ ชาวต่างชาติก็จะทำร้าย และตะโกนโวยวายคล้ายคนบ้า ทั้งยังเสพยาเสพติดแทบจะตลอดเวลา และไม่ยอมให้ตนเองกลับ หรือออกจากห้องเป็นอันขาด

ต่อมาตนเองคิดว่าหากอยู่คงไม่มีชีวิตรอดกลับไปแน่ จึงออกอุบายชวนไปอาบน้ำ แล้วจะยอมมีเพศสัมพันธ์ด้วย ก่อนจะอาศัยจังหวะเผลอ วิ่งหนีเอาตัวรอด แล้วกลับไปที่ห้อง ตอนแรกไม่กล้าแจ้งความเพราะกลัวจะถูกจับที่มีสารเสพติดในร่างกาย แต่หลังจากปรึกษากับเพื่อนแล้วจึงตัดสินใจเดินทางมาแจ้งความดังกล่าว

อย่างไรก็ตามขอฝากเตือนผู้หญิงทุกคนที่ชอบเล่นแอปฯหาคู่ ให้ยับยั้งช่างใจระมัดระวัง อย่างหลงเชื่อหรือไว้ใจใครง่ายๆ มิเช่นนั้นอาจตกเป็นเหยื่อเหมือนกับตนเองได้

เบื้องต้นหลังเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ลงพื้นที่หาเบาะแสของผู้ก่อเหตุและจะติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป