โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

‘ขายฝาก’ กับ ‘จำนอง’ ต่างกันอย่างไร แบบไหนเหมาะกับใคร

TODAY

อัพเดต 15 พ.ย. 2565 เวลา 09.59 น. • เผยแพร่ 15 พ.ย. 2565 เวลา 12.00 น. • workpointTODAY

คนจำนวนไม่น้อยสับสนระหว่างคำว่า “ขายฝาก” กับ “จำนอง” ด้วยลักษณะธุรกรรมที่มีความคล้ายคลึงกัน โดยเป็นการนำเอาทรัพย์สินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน คอนโด ที่ดิน และสังหาริมทรัพย์ เช่น รถยนต์ ไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อแลกกับเงินก้อน อย่างไรก็ตาม ระหว่างสองสิ่งนี้ยังมีความแตกต่างที่คนทำธุรกรรมควรทำความเข้าใจก่อนทำสัญญา

สำหรับการขายฝาก คือ การที่ “ผู้ขาย” (ผู้ขายฝาก) โอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินของตัวเองให้แก่ “ผู้ซื้อ” (ผู้ซื้อฝาก) โดยมีข้อตกลงกันว่า ผู้ขายสามารถไถ่ทรัพย์สินนั้นคืนได้ตามเวลาที่กำหนด ดังนั้น ข้อพึงระวังที่คนทำธุรกรรมต้องเข้าใจ คือ ทรัพย์สินที่ขายฝากจะตกเป็นของผู้ซื้อทันทีที่ทำสัญญา

นอกจากนี้ ยังมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ต้องระวัง คือ “สินไถ่” หรือเงินที่ผู้ขายฝากจะต้องจ่ายให้กับผู้ซื้อฝากเมื่อครบกำหนดไถ่ทรัพย์สินคืน เพื่อเป็นผลตอบแทนให้กับผู้ซื้อฝาก หากไม่ได้ตกลงกันไว้ตั้งแต่ก่อนทำธุรกรรม กฎหมายกำหนดให้ไถ่คืนตามราคาที่ขายฝาก

แต่หากราคาขายฝากหรือสินไถ่ที่กำหนดไว้สูงกว่า “ราคาขายฝากที่แท้จริง” หรือจำนวนเงินที่ผู้ขายฝากรับไว้จริงจากผู้ซื้อฝากเกินอัตราร้อยละ 15 ต่อปี กฎหมายกำหนดให้ไถ่ทรัพย์สินนั้นคืนได้ตามราคาขายฝากที่แท้จริง รวมผลประโยชน์ตอบแทนไม่เกิน 15% ต่อปี

อีกหนึ่งข้อที่ควรระวัง คือ การขายฝากที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม หรือที่อยู่อาศัย จะต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อเจ้าหน้าที่ที่กรมที่ดินเท่านั้น รวมถึงห้ามกำหนดสินไถ่เกินกว่าราคาขายฝาก บวกกับผลประโยชน์ตอบแทนไม่เกิน 15% ต่อปีของราคาขายฝาก

สำหรับการจำนอง คือ การที่ “ผู้จำนอง” เอาทรัพย์สินไปตราโดยไม่ส่งมอบให้กับ “ผู้รับจำนอง” เพื่อเป็นหลักประกันในการชำระหนี้ โดยการจำนองทุกครั้งจะต้องทำ “สัญญาจำนอง” และจะต้องนำสัญญาดังกล่าวไปจดทะเบียนต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่ หากไม่จดทะเบียนตามที่กฎหมายจะถือว่าการจำนองนั้นเป็นโมฆะ

ในกรณีที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนจำนองที่สำนักงานที่ดินในเขตที่รับผิดชอบ ส่วนสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนไว้จะต้องไปจดทะเบียนจำนองที่สำนักทะเบียนของสังหาริมทรัพย์ชนิดนั้นๆ

จุดที่แตกต่างกับการขายฝาก คือ ผู้จำนองจะไม่ส่งมอบทรัพย์สินให้กับผู้จำนอง และยังเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินที่จำนอง ดังนั้น เมื่อถึงกำหนดแล้วผู้จำนองไม่มาชำระหนี้ตามสัญญา ผู้รับจำนองจะต้องฟ้องร้องต่อศาลเพื่อบังคับจำนอง ก่อนนำทรัพย์สินไปขายทอดตลาดต่อไป

อย่างไรก็ตาม การจำนองทรัพย์สินก็มีสิ่งที่คนทำธุรกรรมต้องพึงระวัง เช่น การมอบหมายให้บุคคลอื่นทำธุรกรรมจำนองแทน จะต้องเขียนใบมอบฉันทะหรือใบมอบอำนาจให้ชัดเจน ส่วนผู้รับจำนองก็มีข้อที่ต้องระวังเช่นกัน เช่น ทรัพย์สินที่นำมาจำนองอาจถูกนำไปจำนองซ้ำ หรือถูกนำไปโอนขาย เป็นต้น ซึ่งในกรณีนี้ เจ้าหนี้คนแรกมีสิทธิได้รับการชำระหนี้ก่อน ส่วนเจ้าหนี้คนหลังมีสิทธิได้ชำระหนี้เฉพาะส่วนที่เหลือ

นอกจากนี้ คนที่ซื้อทรัพย์สินที่จำนองก็มีจุดที่ต้องระวัง เพราะการรับโอนทรัพย์สินที่ติดจำนอง จะต้องไถ่ถอนจำนอง หรือชำระหนี้ให้แก่เจ้านี้ ไม่เช่นนั้นเจ้าหนี้มีสิทธิที่จะบังคับจำนอง ยึดทรัพย์ และนำทรัพย์สินนั้นขายทอดตลาดได้ต่อไป

สำหรับคนที่ต้องการสภาพคล่อง แต่ยังไม่แน่ใจว่าการขายฝากหรือการจำนอง แบบไหนจะเหมาะกับความต้องการใช้เงินและสินทรัพย์ที่มี สามารถขอคำปรึกษาได้ที่เครดิตฟองซิเอร์ เวิลด์ ซึ่งมีบริการกู้ยืมสินเชื่อทั้งแบบขายฝากและจำนอง สำหรับรายละเอียด โทร. 02-678-3900 หรือแอดไลน์ : @worldcreditfoncier (มี @ นำหน้า) *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...