กรมสวัสดิการแรงงานสั่งเอาผิดนายจ้าง ใช้แรงงานเด็กขนซากเครื่องบิน
กรมสวัสดิการแรงงานสั่งเอาผิดนายจ้าง ใช้แรงงานเด็กขนซากเครื่องบิน
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากกรณีที่ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุล เพื่อเด็กและสตรี นำลูกจ้างซึ่งเป็นคนขับรถบรรทุกขนซากเครื่องบินของบริษัทเอกชน เข้าพบเพื่อร้องขอความเป็นธรรมเนื่องจากถูกนายจ้างให้ทำงานขนย้ายซากเครื่องบินจาก จ.ชลบุรี ไป จ.นครสวรรค์ จนประสบอุบัติเหตุไฟช็อตทำให้เพื่อนร่วมงานเสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 3 คน รวมทั้งให้ตรวจสอบกรณีนายจ้างมีการใช้แรงงานเด็กไม่ถูกต้องตามกฎหมายและค้างจ่ายค่าจ้าง
“กรณีดังกล่าว กสร.ได้สั่งการให้สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 9 และสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.นครปฐม ดำเนินการสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน พบว่า นายจ้างกระทำผิดจริง โดยรับลูกจ้างเข้าทำงานในขณะที่มีอายุไม่ถึง 15 ปี เข้าข่ายการใช้แรงงานเด็ก และมิได้มีการแจ้งการใช้แรงงานเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ต่อพนักงานตรวจแรงงานภายใน 15 วันนับแต่วันที่เด็กเข้าทำงาน จำนวน 2 คน จึงได้มอบหมายให้พนักงานตรวจแรงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 9 ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษนายจ้างต่อพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง เรียบร้อยแล้ว ส่วนประเด็นการค้างจ่ายค่าจ้าง พบว่านายจ้างมีการค้างจ่ายค่าจ้างจริง และพนักงานตรวจแรงงานได้มีคำสั่งให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างที่จ่ายทุกกรณีให้กับลูกจ้างแล้ว” นายอภิญญา กล่าว
อธิบดี กสร. กล่าวต่อไปว่า สำหรับกรณีความผิดตามกฎหมายความปลอดภัย พนักงานตรวจความปลอดภัย สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จ.นครสวรรค์ ได้ดำเนินการสอบสวน พบว่า นายจ้างกระทำฝ่าฝืนพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ.2554 ตามมาตรา 14 คือ นายจ้างไม่ได้จัดทำและแจกคู่มือปฏิบัติงานให้ลูกจ้างทุกคนก่อนที่เข้าทำงาน เปลี่ยนงาน หรือเปลี่ยนสถานที่ทำงาน และมาตรา 16 ไม่ได้จัดให้ลูกจ้างได้รับการฝึกอบรมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม ในการทำงาน ซึ่งความผิดดังกล่าวมีโทษหนักสูงสุดจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และได้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน สภ.พยุหะคีรี และคดีอยู่ระหว่างการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป