ด่วน! กัมพูชาส่งหนังสือขอเจรจาหยุดยิงผ่าน GBC ไทยย้ำต้องพิสูจน์ความจริงใจ 3 เงื่อนไข ก่อนเดินหน้าเจรจา
วันที่ 24 ธ.ค.68 ตามที่กระทรวงการต่างประเทศได้แถลงจุดยืนต่อเงื่อนไขการหยุดยิง บริเวณพื้นที่ชายแดน โดยระบุให้ฝ่ายกัมพูชาต้องแสดงเจตจำนงผ่านการปฏิบัติ 3 ประการ ได้แก่ การประกาศหยุดยิงก่อน การยุติการใช้กำลังอย่างต่อเนื่อง และความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดอย่างเป็นรูปธรรมนั้น เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2568 กระทรวงกลาโหมกัมพูชา ได้มีหนังสืออย่างเป็นทางการถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทย เพื่อแสดงความประสงค์ในการเจรจาหยุดยิง ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญภายใต้กรอบเงื่อนไขที่ไทยกำหนด
ทั้งนี้ จากการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนสมัยพิเศษ เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ที่ผ่านมา นำไปสู่การจัดประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ตามข้อเสนอของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-27 ธันวาคม 2568 ณ จังหวัดจันทบุรี โดยฝ่ายไทยมี พลเอก ณัฐพงษ์ เพราแก้ว รองเสนาธิการทหาร และฝ่ายกัมพูชา มี Major General Nhem Boraden เป็นหัวหน้าคณะการประชุมฯ
สำหรับ หนังสือที่กระทรวงกลาโหมกัมพูชาส่ง หนังสือลงวันที่ 22 ธันวาคม 2568 ถึง พลเอก ณัฐพล นาคพานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรไทย เนื้อหาระบุว่า
ข้าพเจ้าขออ้างถึงแถลงการณ์ของประธานอาเซียน ในการประชุมพิเศษรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ว่าด้วยสถานการณ์ปัจจุบันระหว่างกัมพูชาและไทย เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2568 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งแสดงความยินดีต่อการหารือเกี่ยวกับการกลับมาเจรจาหยุดยิงและยุติการสู้รบ
ในเรื่องนี้ กัมพูชาเห็นด้วยกับการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ที่เสนอให้จัดขึ้นในวันที่ 24 ธันวาคม 2568 เพื่อให้สอดคล้องกับแถลงการณ์ของประธานอาเซียนที่กล่าวมาข้างต้น ข้าพเจ้าขอเสนอข้อต่อไปนี้
1. การประชุม GBC ครั้งนี้ ควรจัดขึ้นในรูปแบบเดียวกับการประชุม GBC วิสามัญที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ตามที่ระบุไว้ในวรรคที่ 13 ของรายงานการประชุมที่ตกลงกันไว้
2. ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยอันเนื่องมาจากการสู้รบที่ยังคงดำเนินอยู่ตามแนวชายแดน การประชุมครั้งนี้ควรจัดขึ้นในสถานที่ที่ปลอดภัยและเป็นกลาง ในเรื่องนี้ มาเลเซียได้ตกลงที่จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมที่กรุงกัวลาลัมเปอร์
3. ในวาระการประชุม ควรมีการหารือเกี่ยวกับสี่หัวข้อดังต่อไปนี้:
ก) การยุติการสู้รบทั้งหมดโดยทันที และการเคารพและปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 และปฏิญญาร่วมกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 อย่างเต็มที่ รวมถึงข้อตกลงอื่นๆ ที่บรรลุภายใต้กรอบนี้
ข) การกลับคืนสู่ถิ่นฐานและประกอบอาชีพตามปกติอย่างปลอดภัยและมีศักดิ์ศรี โดยปราศจากการขัดขวาง ของพลเรือนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดนที่ได้รับผลกระทบ เช่นเดียวกับก่อนเกิดการปะทะกัน
ค) การระงับข้อพิพาทอย่างสันติวิธีโดยการกลับมาดำเนินการตามปฏิญญาร่วมกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 อย่างเต็มรูปแบบโดยทันที และการเปิดใช้งานกลไกที่มีอยู่ภายใต้กรอบนี้อย่างเร่งด่วน รวมถึงการกำหนดเขตแดนและการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม
ง) การเสริมสร้างบทบาทของคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) ในการรับรองการดำเนินการและการตรวจสอบการหยุดยิงและข้อตกลงอื่น ๆ ที่บรรลุภายใต้ปฏิญญาร่วมกัวลาลัมเปอร์
โปรดรับคำขอบคุณและความนับถืออย่างจริงใจจากข้าพเจ้าด้วยเถิด
รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
พลเอกเตีย เซ็ยฮา