ส่อง 34 บจ.ขาดทุนเกิน 3 ปีติด-เงินสดติดลบ เสี่ยงถูกแขวน "C"
ตลท.เตรียมยกระดับแจ้งเตือนเครื่องหมาย "C" ใหม่ มี.ค.นี้ ใช้เกณฑ์พิจารณางบขาดทุนต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน - เงินสดการดำเนินงานติดลบ สแกนหุ้นทั้งตลาด พบ 34 บจ.เข้าข่าย ส่วนใหญ่เป็นหุ้นอสังหาฯ พบ 3 ปีล่าสุดขาดทุนรวมมากสุด 3.2 พันล้านบาท แถมเงินสดติดลบมากสุดถึง 923 ล้านบาท
*** ตลท.จ่อใช้เกณฑ์ใหม่แขวน "C" บจ. 25 มี.ค.นี้
ล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ปรับปรุงเกณฑ์เพื่อยกระดับการกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ซึ่งหนึ่งในมาตรการใหม่ที่นักลงทุนให้ความสนใจ คือ การเพิกถอนเพื่อเพิ่มคุณภาพบริษัทจดทะเบียน พร้อมทั้งเพิ่มการเปิดเผยข้อมูลและการเตือนผู้ลงทุน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเสถียรภาพให้ตลาดทุนไทยมากขึ้น
จากเดิมการขึ้นเครื่องหมาย "C" จะใช้หลักเกณฑ์ ประกอบด้วย 7 ส่วนสำคัญดังนี้
1.ส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่า 50% ของทุนชำระแล้ว โดยพิจารณาจากงบการเงินที่ผ่านการตรวจสอบ หรือสอบทานโดยผู้สอบบัญชี โดยไม่มีการปรับปรุงรายการ
2.บริษัทที่เป็นสถาบันการเงิน, บริษัทหลักทรัพย์ และ บริษัทประกันชีวิต/ประกันวินาศภัย ถูกหน่วยงานกำกับดูแลมีคำสั่งที่เปิดเผยเป็นการทั่วไปให้แก้ไขฐานะการเงินหรือการดำเนินงาน โดยให้ระงับการดำเนินการบางส่วนหรือไม่ให้ขยายธุรกิจเป็นการชั่วคราว ซึ่งคำสั่งดังกล่าวมีนัยสำคัญต่อฐานะการเงินและผลการดำเนินงาน
3.บริษัท หรือเจ้าหนี้ หรือหน่วยงานกำกับดูแลยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัท และศาลรับคำร้องไว้แล้ว
4.บริษัทถูกเจ้าหนี้ยื่นฟ้องล้มละลายและศาลรับคำฟ้องไว้แล้ว
5.รายงานของผู้สอบบัญชีมีลักษณะไม่แสดงความเห็นต่องบการเงิน เนื่องจากถูกจำกัดขอบเขตการสอบทานหรือตรวจสอบโดยบริษัท หรือกรรมการ หรือผู้บริหารของบริษัท
6.สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีคำสั่งให้บริษัทแก้ไขงบการเงิน หรือมีคำสั่งให้มีการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit)
7.บริษัทจดทะเบียนที่มีสินทรัพย์ทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดในรูปของเงินสดหรือหลักทรัพย์ระยะสั้น (Cash Company)
"ดวงรัตน์ สมุทวณิช" ผู้ช่วยผู้จัดการ หัวหน้ากลุ่มงานกำกับบริษัทจดทะเบียนและตราสารอื่น ตลท. กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค.นี้ ตลท. จะเริ่มใช้มาตรการยกระดับการเตือนนักลงทุนด้วยการขึ้นเครื่องหมายในชุด "C" โดยหุ้นที่เข้าข่ายถูกขึ้นเครื่องหมายดังกล่าว จะมีลักษณะเป็นบริษัทที่มีปัญหาด้านงบการเงิน เช่น รายงานผลขาดทุนต่อเนื่อง 3 ปี, เงินสดจากการดำเนินงานติดลบ เป็นต้น
ด้าน "ปวีณา ศรีโพธิ์ทอง" รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานกำกับตลาด ตลท. กล่าวเพิ่มเติมว่า การยกระดับการกำกับดูแลบริษัทจดทะเบียนใน ตลท. มาจากจุดที่มองว่าถึงเวลาที่เข้ามาปรับทบทวนเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ไม่ได้ปรับมานาน เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน
*** พบ 34 บจ.ขาดทุนต่อเนื่อง 3 ปี - เงินสดติดลบ
ขณะที่ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" สำรวจข้อมูลงบการเงินบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ทั้งหมด ผ่านโปรแกรม SETSMART พบว่า มี 34 บริษัท ที่ผลการดำเนินงานขาดทุนตั้งแต่งวดปี 64 - งวด 9 เดือนปี 66 (ขาดทุน 3 ปีต่อเนื่อง) และเงินสดสุทธิจากการดำเนินงานติดลบ ประกอบด้วย
34 บจ.ขาดทุนต่อเนื่อง 3 ปี – เงินสดติดลบ เสี่ยงถูกแขวน C
ชื่อย่อหุ้น
งบปี 64 (ลบ.)
งบปี 65 (ลบ.)
งบ 9 เดือนปี 66 (ลบ.)
เงินสดสุทธิจากการดำเนินงาน (ลบ.)
ส่วนผถห. (ลบ.)
ทุนจดทะเบียนชำระแล้ว (ลบ.)
CNT
-128.92
-213.39
-13.49
-923.26
1,604.62
1,027.90
BYD
-134.99
-161.74
-562.16
-787.79
11,702.59
25,251.84
ANAN
-457.34
-295.78
-686.54
-608.18
11,681.88
416.63
WAVE
-692.76
-65.81
-13.42
-526.52
870.01
4,606.25
MJD
-353.07
-369.91
-264.93
-478.8
4,695.07
860.41
CI
-44.61
-199.77
-202.53
-421.32
1,648.84
1,066.60
RML
-452.73
-312.02
-532.27
-375.02
3,734.72
4,172.48
EMC
-85.71
-338.94
-158.83
-186.08
1,485.40
8,434.05
CHO
-475.32
-642.78
-329.31
-133.97
738.28
9,151.60
B52
-96.38
-157.88
-16.67
-81.95
191.7
368.67
W*
-276.45
-574.04
-147.52
-76.31
182.8
1,030.60
META
-100.13
-134.62
-67.42
-73.77
1,971.69
2,790.45
PPPM
-186.27
-487.89
-168.57
-67.67
578.25
12,358.19
TSI
-59.84
-27.16
-55.88
-66.71
302.91
951.46
BC
-130.54
-50.04
-150.99
-58.17
596.92
570.49
SDC
-332.21
-1,175.13
-599.59
-47.75
-356.89
3,032.61
COMAN
-24.43
-46.28
-0.34
-45.04
339.62
67
KASET
-69.01
-28.14
-56.27
-40.77
335.63
278
AJA
-152.01
-145.46
-25.73
-37.49
760.77
535.54
HYDRO
-19.98
-80.72
-42.53
-34.49
49.63
470.12
POLAR
-9.87
-47.85
-42.3
-33.9
2,870.84
7,452.34
ARIN
-54.66
-29.21
-30.45
-26.21
331.22
300
NEP
-44.42
-56.6
-7.38
-23.75
596.1
2,325.38
DHOUSE
-6.83
-23.81
-15.1
-22.22
411.18
453.33
TCJ
-64.44
-7.58
-47.2
-21.32
1,351.91
1,055.96
BLISS
-262.85
-152.57
-12.1
-20.58
612.96
16,115.26
BEAUTY
-80.77
-67.68
-20.15
-14.95
685.78
299.42
HEALTH
-45.21
-457.29
-37.75
-14.04
922.85
384.25
KWI
-553.2
-443.96
-382.99
-11.91
1,820.49
4,722.41
CMO
-120.51
-31.39
-200.49
-6.35
271.55
426.17
STOWER
-50.71
-107.46
-105.72
-5.67
968.54
3,697.25
CITY
-12.11
-3.86
-21.27
-5.48
1,310.83
300
GRAND
-1,728.31
-946.22
-594.58
-3.42
3,209.14
4,670.56
SAWANG
-30.49
-14.65
-4.31
-0.58
317.55
240
ที่มา : SETSMART
*รายงานงบปี 66 แล้ว
*** หุ้นกลุ่มอสังหาฯกอดคอติดโผเพียบ !
34 บริษัทดังกล่าว ส่วนใหญ่เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จำนวน 23 บริษัท ขณะที่บริษัทในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ติดโผจำนวน 11 บริษัท โดยกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ติดโผมากสุด จำนวน 10 บริษัท รองลงมา คือ กลุ่มธุรกิจพาณิชย์, วัสดุก่อสร้าง, ประกันภัย และบริการ ที่ติดโผจำนวน 2 บริษัท เท่ากัน
*** "GRAND" งบ 3 ปี ขาดทุนรวมมากสุด 3.2 พันลบ.
บมจ.แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ (GRAND) เป็นบริษัทที่งบการเงิน 3 ปีล่าสุด (ตั้งแต่ 64 - งวด 9 เดือนปี 66) ขาดทุนรวมกันมากที่สุด 3,269.11 ล้านบาท โดยปี 64 ขาดทุนสุทธิ 1,728.31 ล้านบาท, ปี 65 ขาดทุนสุทธิ 946.22 ล้านบาท และงวด 9 เดือนปี 66 ขาดทุนสุทธิ 594.58 ล้านบาท
รองลงมา คือ บมจ.สามารถ ดิจิตอล (SDC) ที่งบการเงิน 3 ปีล่าสุด ขาดทุนสุทธิรวม 2,106.93 ล้านบาท โดยปี 64 ขาดทุนสุทธิ 332.21 ล้านบาท, ปี 65 ขาดทุนสุทธิ 1,175.13 ล้านบาท และงวด 9 เดือนปี 66 ขาดทุนสุทธิ 599.59 ล้านบาท
ขณะที่มีอีก 4 บริษัท ที่งบการเงิน 3 ปีล่าสุด ขาดทุนสุทธิรวมกันมากกว่า 1,000 ล้านบาท ประกอบด้วย บมจ.ช ทวี (CHO) ที่งบการเงิน 3 ปีล่าสุด ขาดทุนสุทธิรวม 1,447.41 ล้านบาท โดยปี 64 ขาดทุนสุทธิ 475.32 ล้านบาท, ปี 65 ขาดทุนสุทธิ 642.48 ล้านบาท และงวด 9 เดือนปี 66 ขาดทุนสุทธิ 329.31 ล้านบาท
ด้าน บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) งบการเงิน 3 ปีล่าสุด ขาดทุนสุทธิรวม 1,439.66 ล้านบาท โดยปี 64 ขาดทุนสุทธิ 475.34 ล้านบาท, ปี 65 ขาดทุนสุทธิ 295.78 ล้านบาท และงวด 9 เดือนปี 66 ขาดทุนสุทธิ 686.54 ล้านบาท
ฟาก บมจ.เคดับบลิวไอ (KWI) งบการเงิน 3 ปีล่าสุด ขาดทุนสุทธิรวม 1,380.15 ล้านบาท โดยปี 64 ขาดทุนสุทธิ 553.20 ล้านบาท, ปี 65 ขาดทุนสุทธิ 443.96 ล้านบาท และงวด 9 เดือนปี 66 ขาดทุนสุทธิ 382.99 ล้านบาท
ส่วน บมจ.ไรมอน แลนด์ (RML) งบการเงิน 3 ปีล่าสุด ขาดทุนสุทธิรวม 1,297.02 ล้านบาท โดยปี 64 ขาดทุนสุทธิ 452.73 ล้านบาท, ปี 65 ขาดทุนสุทธิ 312.02 ล้านบาท และงวด 9 เดือนปี 66 ขาดทุนสุทธิ 532.27 ล้านบาท
*** "CNT" เงินสดติดลบมากสุด 923 ลบ.
ขณะเดียวกัน บมจ.คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) หรือ CNT เป็นบริษัทที่เงินสดจากการดำเนินงาน ณ 9 เดือนปี 66 ติดลบมากที่สุด 923.26 ล้านบาท รองลงมา คือ บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ (BYD) ที่เงินสดจากการดำเนินงานติดลบ 787.79 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีอีก 7 บริษัท ที่เงินสดจากการดำเนินงานล่าสุดติดลบมากกว่า 100 ล้านบาท ประกอบด้วย บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) ที่เงินสดจากการดำเนินงานติดลบ 608.18 ล้านบาท, บมจ.เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล (WAVE) ที่เงินสดจากการดำเนินงานติดลบ 526.52 ล้านบาท
ด้าน บมจ.เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (MJD) เงินสดจากการดำเนินงานติดลบ 478.80 ล้านบาท, บมจ.ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ (CI) เงินสดจากการดำเนินงานติดลบ 431.32 ล้านบาท, บมจ.ไรมอน แลนด์ (RML) เงินสดจากการดำเนินงานติดลบ 375.02 ล้านบาท, บมจ.อีเอ็มซี (EMC) เงินสดจากการดำเนินงานติดลบ 186.08 ล้านบาท และ บมจ.ช ทวี (CHO) เงินสดจากการดำเนินงานติดลบ 133.97 ล้านบาท
ทั้งนี้ ข้อมูที่นำเสนอของทั้ง 34 บริษัทดังกล่าว ไม่ได้เป็นการชี้นำว่า หุ้นทั้งหมดจะถูกตลาดหลักทรัพย์ฯขึ้นเครื่องหมาย "C" แบบใหม่ แต่เป็นเพียงหุ้นที่มีลักษณะเข้าเกณฑ์ยกระดับการควบคุมเท่านั้น ซึ่งต้องติดตามการประกาศรายชื่อหุ้นที่ถูกขึ้นเครื่องหมาย "C" แบบใหม่จากตลาดหลักทรัพย์ฯ 25 มี.ค.นี้