โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ชาวเน็ตไม่ขำ 2 เพจดัง เมกฟันสาวถ่ายรูป 'สถานีรถไฟพรหมพิราม' โยงคดีดัง ชี้ ไม่ใช่เรื่องตลก

MATICHON ONLINE

อัพเดต 13 พ.ย. 2566 เวลา 13.59 น. • เผยแพร่ 13 พ.ย. 2566 เวลา 05.46 น.

ชาวเน็ตไม่ขำ 2 เพจดัง เมกฟันสาวถ่ายรูป ‘สถานีรถไฟพรหมพิราม’ โยงคดีดัง ชี้ ไม่ใช่เรื่องตลก

กลายเป็นประเด็นถกเถียงในโลกออนไลน์อย่างมาก หลังจากที่มี 2 เพจดัง ออกมาโพสต์ภาพของผู้หญิง 2 คน ที่ถ่ายรูปกับป้ายสถานีรถไฟ “พรหมพิราม” พร้อมกับโพสต์ข้อความเชิงตลก เมกฟันโดยโยงกับคดีสะเทือนขวัญในอำเภอ “พรหมพิราม” เมื่อหลาย 10 ปีที่ผ่านมา

จุดเริ่มต้นดราม่า

ในเพจหนึ่งโพสต์ภาพดังกล่าว พร้อมระบุข้อความว่า “ระวังคอเสื้อครับ” หลังจากโพสต์ไปไม่นาน มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเชิงเมกฟันกับเรื่องดังกล่าวจำนวนมาก เช่น “ยอมบาปครับ” “นึกภาพในไร่ข้าวโพด” “ไปกินข้าวงานแต่งแถวนั้นไหม” “ชาวบ้านพร้อมแล้วนะะะ” “ไปถูกที่ซะด้วย” เป็นต้น

ขณะที่อีกเพจ โพสต์ภาพดังกล่าว พร้อมระบุข้อความว่า “หนุ่มพรหมพิรามยินดีต้อนรับ” หลังจากโพสต์ไปไม่นาน มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก โดยมองว่า ทางเพจไม่ครวจะไปเล่นตลกแบบนี้ และเรื่องดังกล่าวไม่ควรนำมาเป็นเรื่องตลก เพราะเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญ เป็นคดีที่คนในอำเภอนั้นไม่อยากจะจำ

พร้อมกับแนะนำทั้ง 2 เพจว่า ควรจะศึกษาเรื่องเหล่านี้ให้ดี เพราะหากรู้เหตุการณ์ทั้งหมดจริง จะรู้ว่ามนุษย์นั้นมีจิตใจที่คาดเดาไม่ถึง และดำมืดขนาดไหน

กระแสตีกลับถูกวิพากษ์วิจารณ์หนัก

ประเด็นนี้กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์จำนวนมาก ตั้งแต่ในเพจเฟซบุ๊กของเพจดังที่เป็นประเด็น จนถึงในทวิตเตอร์ หรือเอ็กซ์ (X) ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ เช่น

“เพื่อนสนิทไม่เคยกล้าบอกใครว่าตัวเองเป็นคนพรหมพิราม จนตอนนี้ก็ยังไม่กล้าบอก บอกแค่ว่าเป็นคนพิดโลกๆ นึกถึงตอนที่มันอยากชวนไปบ้านอ่ะ นางมาถามก่อนว่ากล้าไปมั้ย อยากไปหรือเปล่า คนรุ่นหลังซวยมากพอแล้ว นี่ยังเมคฟันตอกย้ำอีก”

“คดีพรหมพิรามเป็นตราบาปของคนที่นั่น เป็นคดีร้ายแรงที่มีคนร้ายร่วมเกือบ 100 คน (แต่โดนจับไม่กี่คน) โดยพวกมันกระทำอุบาดกับผญคนนึงและฆตกเอาร่างให้รถไฟทับครึ่งร่าง มันไม่มีส่วนไหนที่สามารถในอภัยจนเอามาพูดสนุกปากได้เลย แต่มันกลับถูกเล่นเป็นมุขตลกโดนชายแท้น่าขยะแขยง”

คดีสะเทือนขวัญ-สะเทือนสังคมไทย

สำหรับคดีสะเทือนขวัญ ที่ยังเป็นที่พูดถึงในปัจจุบันเกิดจากเหตุการณ์หญิงสาวที่ จ.พิษณุโลก ถูกชายหนุ่ม 30 คน ในพื้นที่ อ.พรหมพิราม ข่มขืนและฆ่าอำพรางเมื่อปี 2520 กลายเป็นคดีสะเทือนขวัญ

แม้จะผ่านมากกว่า 45 ปีแล้ว แต่ทุกวันนี้คดีนี้ ยังอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน

ขณะที่คนในพื้นที่ อ.พรหมพิราม กลายเป็นเหยื่อตราบาปจากการกระทำผิดของคนไม่มีกี่คนที่กลายเป็นผู้มีพฤติกรรมรุนแรงทางเพศ ที่ทุกครั้งมีเหตุการณ์ข่มขืนทารุณกรรมรุนแรงจากคนหลายๆ คนกระทำ เหตุการณ์ที่ อ.พรหมพิราม จะถูกหยิบยกมาขยี้รวม จนคนพรหมพิรามถูกมองว่าเป็นพวกคืนบาปพรหมพิราม

ที่ผ่านมา ชาวพรหมพิรามหลายคนวอนขออย่าตอกย้ำ และอย่าฉายภาพซ้ำ เพราะส่วนมากคนในพื้นที่ก็ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสังคม และคนพรหมพิรามส่วนใหญ่รักสงบ เป็นเมืองที่มีความสุข พยายามปรับภาพลักษณ์เพื่อดึงให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวอีกด้วย

เปิดที่มาภาพถ่ายที่เป็นประเด็น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ค้นหาต้นตอภาพถ่ายที่ถูกนำมาเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ พบว่า มาจากเพจ “พิดโลกจัดเต็ม” ที่ต้องการทำคอนเทนต์โปรโมตการท่องเที่ยวให้ อ.พรหมพิราม

ทางเพจได้โพสต์ภาพดังกล่าวไปตั้งแต่ปี 2021 พร้อมกับแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในอำเภอนี้ว่ามีที่เที่ยวน่าสนใจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ร้านพิซซ่าโฮมเมดที่ทำเองโดยคนอเมริกาแท้ๆ หรือร้านคาเฟ่ ที่ต้องไปเช็กอิน เพราะบอกเลยว่าบรรยากาศดีสุดๆ ถ่ายรูปมุมไหนก็สวย

นอกจากนี้ ทางเพจได้แนะนำแลนด์มาร์กที่ต้องเช็กอินให้ได้คือ “สถานีรถไฟพรหมพิราม” ที่มีความย้อนยุค ต้องแวะมาถ่ายภาพชิคๆ เก๋ๆ กันได้

จบทริปด้วยการ ไปนั่งปิกนิกชมวิวพระอาทิตย์ตกที่เขื่อนนเรศวร

กลับกลายเป็นว่า ภาพถ่ายที่นำมาโปรโมตการท่องเที่ยว กลับถูกนำมาเมกฟัน โยงกับคดีสะเทือนขวัญ…

อย่างไรก็ตาม ในโลกออนไลน์ ทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ แต่การแสดงความคิดเห็นนั้นควรจะมีขอบเขตและคิดให้รอบคอบก่อน เพราะผลกระทบอาจจะมีมากกว่าที่คิดก็ได้

ดังนั้นกรณีนี้ จึงเป็นตัวอย่างสำคัญในการแสดงความคิดเห็นในโลกออนไลน์ในใครหลายๆ คนได้เป็นอย่างดี

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

นอภ.พรหมพิรามวอนสังคมหยุดพูดโยนบาปคดีข่มขืนโหดให้คนพรหมพิราม

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...