ลีลาเมฆเสือขย้ำเมือง ลวดลายแปลกบนท้องฟ้าเหนือกำแพงเมืองแปดริ้ว
ฉะเชิงเทรา – ลีลาเมฆเสือขย้ำเมือง ลวดลายแปลกบนท้องฟ้าเหนือกำแพงเมืองแปดริ้ว ในวันเดียวต่อเนื่องกันในหลายสถานที่ ถือเป็นความตื่นตาตื่นใจไปตามจินตนาการกับวันที่ท้องฟ้าสดใส สว่างไสวไร้เมฆฝน หรืออาจจะเป็นสิ่งบอกเหตุหรือลางบอกให้รู้ล่วงหน้าในสิ่งที่ยังไม่มีใครคาดคิด
วันที่ 9 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความแปลกตาในวันที่ท้องฟ้าสว่างสดใสไร้เมฆฝน ภายในเขตตัวเมือง จ.ฉะเชิงเทรา ที่มีกลุ่มปุยสีขาวของเมฆแผ่ปกคลุมลงมาเหนือท้องฟ้าเป็นหย่อมๆ ในแต่ละจุดและตรงกันกับสถานที่สำคัญในตัวจังหวัดหลายแห่ง ที่มีความแตกต่างกันไปในหลายสถานที่ และได้สร้างจินตนาการจากคนที่มองเห็นไปตามรูปทรงของก้อนเมฆที่เกิดขึ้น ว่ามีลีลาลักษณะคล้ายคลึงกันกับอะไร หลังจากถูกกระแสลมพัดเข้ามาวาดให้เป็นลวดลายในอากาศเห็นได้จากบนท้องฟ้า
โดยจุดแรกเป็นภาพที่ถูกถ่ายไว้เมื่อเวลา 11.03 น. วันนี้ (9 มิ.ย.68) ที่มีก้อนเมฆลอยมาปรากฎเป็นภาพให้ผู้คนได้จินตนาการไปได้ว่า เป็นภาพของคนที่กำลังนอนพิงอยู่กับตึก โดยมีก้อนเมฆลอยมาอยู่ที่เหนือหอนาฬิกาและสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ฉะเชิงเทรา ในลักษณะคล้ายกับคนกำลังเอนหลังพิงอยู่กับตึกโกลเด้นเพลซสาขาฉะเชิงเทรา (สถานที่จำหน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพ) ก่อนที่จะลอยผ่านแยกจากกันไปในเวลา 11.04 น.
ขณะที่อีกมุมในเวลาไล่เรี่ยกันได้ปรากฎภาพของก้อนเมฆเป็นลักษณะของคนนั่งอิงหมอนรองแขนไขว้ขาอยู่ที่เหนือตึกคล้ายกับการนั่งอยู่อาสนะหรือบัลลังก์ มุมถัดมาบนท้องฟ้าเหนือแม่น้ำบางปะกงมุมมองจากเขื่อนชายน้ำด้านหลังวิทยาลัยอาชีวศึกษาฉะเชิงเทราไปยังวัดโสธร เป็นภาพที่ถูกถ่ายได้ในลำดับถัดไปในเวลาไร่เรี่ยกัน ที่มองคล้ายคลึงกับตัวเลข 5 และเลข 0 ส่วนอีกตัวมองไม่ชัดเจนนัก 3 ตัวเรียงกัน
ขยับมุมถัดมาที่เหนือซุ้มประตูวัดเมือง (วัดปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์) วัดขจัดกบฎ ที่มีเรื่องเล่าขานว่าเป็นแดนประหารอั้งยี่ในการปราบปรามกบฎอั้งยี่ จ.ศ.1210 หรือเมื่อ พ.ศ.2391 ในตำนาน และมีเรื่องราวประหลาดลี้ลับที่มักถูกร่ำลือจากปากชาวบ้านบ่อยครั้ง ซึ่งปรากฏเป็นภาพก้อนเมฆถูกวางเรียงซ้อนกัน 2 ชั้น โดยก้อนด้านบนสุดนั้นดูคล้ายกับลูกเจี๊ยบหรือลูกไก่ ที่กำลังหัดบินอยู่ที่เหนือซุ้มประตูของวัด ทำให้อดคิดไปถึงยังรัฐบาลไทยไม่ได้ว่า ในขณะนี้ประเทศกำลังมีผู้นำที่กำลังอ่อนหัดหรือกำลังหัดบินปราบกบฎที่หน้าด่านแดนมณฑลบูรพาแห่งสยามประเทศอยู่หรือไม่
มุมถัดมาห่างเลยจากหน้าวัดเมืองมาประมาณ 200-300 เมตรที่หน้ากำแพงเมืองฉะเชิงเทรา เมื่อมองลึกเข้าไปเหนือเรือนจำกลาง จ.ฉะเชิงเทรานั้น ได้มีเมฆก้อนใหญ่สีเข้มแถบสีฟ้าลักษณะหนาทึบ ลอยมาปกคลุมอยู่ที่ด้านบน เมื่อมองไปยังมุมด้านทิศใต้ของกำแพงเมืองได้พบก้อนเมฆอีก 3 ก้อนที่มองดูคล้ายคลึงกันกับคนนอนเรียงกัน 3 ร่าง โดยก้อนบนสุดมองดูหลายกับร่างคนกำลังนอนหงายที่เห็นอยู่เพียงท่อนบนครึ่งลำตัวหันศีรษะไปทางทิศตะวันตก
เมฆชั้นรองลงมามองดูคล้ายกับคนนอนหงายหันศีรษะไปทางทิศตะวันออก และเมฆชั้นล่างสุดเป็นลักษณะคล้ายกับคนที่กำลังบาดเจ็บนอนคว่ำหน้าแนบพื้นดิน ลักษณะคุดคู้ชันเข่ายันพื้นก้นกระดก และเมื่อเปลี่ยนทิศทางการมองมาอีกด้าน ที่หน้ากำแพงเมืองทางด้านฝั่งทิศใต้ใกล้กับป้ายสวนมรุพงษ์นั้น ได้มองเห็นก้อนเมฆที่มีรูปลักษณ์คล้ายคลึงกันกับเสือหรือพยัคฆ์ร้าย ที่กำลังอยู่ในท่าทางของการกระโจนขย้ำเหยื่อ ส่วนที่บริเวณเหนือวัดโสธรวรารามวรวิหารนั้น ท้องฟ้าโปร่งแจ่มใส มีเพียงกลุ่มเมฆน้อยลอยผ่านไปมาเท่านั้น