KJL เด้งรับรัฐอัดงบท้ายปี ใส่เกียร์อัพกำลังผลิตเต็มสูบ
#KJL #ทันหุ้น – KJL ครึ่งปีหลังสดใส รับโปรดักต์ใหม่ รัฐเร่งใช้งบ มองกลุ่มไฟฟ้ายังเติบโตดี รุกขยายกำลังผลิตเพิ่มเป็น 33 ล้านชิ้นในสิ้นปี จากปัจจุบัน 30 ล้านชิ้น ย้ำเป้ายอดขายแตะ 1.2 พันล้านบาท มาร์จิ้น 28-32% ฟากโบรกเชียร์ "ซื้อ" มองราคาไม่แพง ให้พื้นฐาน 10.90 บาท
นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) หรือ KJL เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลัง 2567 คาดจะดีต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก เพราะการสร้างแบรนด์ KJL ได้รับกระแสการตอบรับดีหลังจากที่บริษัทออกสินค้าใหม่ ขณะที่ภาครัฐเร่งใช้จ่ายงบประมาณปี 2567 ส่งผลให้ลูกค้าภาคเอกชนที่กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ เริ่มขยับการลงทุน ซึ่งบริษัทมองมองเป็นเซ็นทิเมนต์เชิงบวก หลังจากรัฐประกาศใช้งบประมาณปี 2567 ซึ่งเป็นเอฟเฟ็กต์ต่อการลงทุนต่อเนื่องกันมา
**โชว์กำลังผลิต
ทั้งนี้ภาพโดยรวมกลุ่มที่ยังเติบโตได้ดีคือกลุ่มไฟฟ้า อุตสาหกรรมไฟฟ้า โซลาร์รูฟ อีวีชาร์จเจอร์ และดาต้าเซ็นเตอร์ ขณะกำลังผลิตปัจจุบันอยู่ที่ 30 ล้านชิ้นต่อปี ซึ่งเพิ่มมาจาก 20 ล้านชิ้นต่อ หรือคิดเพิ่มขึ้นเป็น 50% และมีอัตราการใช้ อยู่ที่ 70% ซึ่งมีอัตราการใช้ประโยชน์อีกมาก หากมีคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ใหม่เข้ามา ขณะเดียวกันบริษัทจะขยายกำลังผลิตเป็น 33 ล้านชิ้นในสิ้นปีนี้ และเพิ่มเป็น 40 ล้านชิ้นในสิ้นปี 2568
บริษัทมองอัตราการการเติบโตยอดขายปีนี้ จะทำได้ตามเป้าหมาย 10-15% หรือมียอดขายอยู่ที่ 1.2 พันล้านบาท ส่วนอัตราการทำกำไร (Gross Profit Margin) จะอยู่ที่ระดับ 28-32% ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากการบริหารจัดการต้นทุน อีกทั้งราคาวัตถุดิบยังทรงตัว ไม่ได้ปรับขึ้นลดลง ประกอบกับบริษัทใช้หุ่นยนต์ หรือระบบออโตเมชั่นมากพอสมควร ทำให้ไม่กระทบค่าแรงที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ไว้ที่ระดับ 13-15%
ด้านแผนงานการขยายตลาด KJL NETWORK เพิ่มเครือข่ายร้านค้า และตัวแทนจำหน่ายให้มากกว่า 1,000 รายจากในปัจจุบันที่อยู่ที่ 800 รายการขยายเครือข่ายช่างไฟฟ้า ผู้รับเหมา และวิศวกรทั่วประเทศเป็นมากกว่า 10,000 รายจากในปัจจุบันที่อยู่ที่ 7,000 ราย
** เป้าไกล 10.90 บ.
ด้าน บล.หยวนต้า มองราคาหุ้น KJL ไม่แพงให้คำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 10.90 บาท โดยในปี 2566 บริษัทประสบความสำเร็จในการเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 30 ล้านชิ้นในช่วงไตรมาส 3/2566 เมื่อบริษัทมีความพร้อมด้านกำลังการผลิตมากขึ้นทำให้บริษัททำการขยายฐานลูกค้าเต็มที่ เริ่มตั้งแต่การจัดงาน Event ใหญ่เพื่อทำความรู้จักลูกค้ากลุ่มใหม่ และสานสัมพันธ์กับลูกค้าเดิม ซึ่งในปี 2567 จะเป็นปีที่ได้ประโยชน์จากกำลังการผลิตใหม่เต็มปี ขณะที่ยังคงตั้งเป้าขยายฐานช่างไฟ ซึ่งเป็นฐานลูกค้า Tier 3 ที่เพิ่งรุกตลาดมาเมื่อปี 2566 ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนจาก 5,000 คนเป็น 10,000 คนในปีนี้ และ 15,000 คนในปีหน้า
นอกจากนี้การขยายตัวของโรงไฟฟ้าใหม่ การสนับสนุน Solar Roof ภาคครัวเรือน และอุตสาหกรรม ล้วนมีส่วนช่วยหนุนความต้องการตู้ไฟทั้งสิ้น นอกจากนี้บริษัทมีแผนกลับมาขยายกำลังการผลิตอีก 10 ล้านชิ้น ในปี 2568 ซึ่งคาดว่าจะสอดคล้องกับช่วงของงานภาครัฐโครงการที่ได้รับแผนอนุมัติก่อสร้างในปีนี้จะเริ่มมีความต้องการตู้ไฟเพิ่มขึ้น เนื่องจากมักจะอยู่ในส่วนท้ายของโครงการ หนุนอุปสงส์ในช่วง 3 - 5 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ KJL ได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายตู้ไฟของ Schneider ทำให้ KJL มีจุดแข็งด้านสินค้าครบทุกกลุ่มเพิ่มเติม นอกเหนือจากการส่งสินค้าที่รวดเร็วใน 1 วันที่เป็นจุดแข็งเดิมอยู่แล้ว และฐานกำไรยังไม่สูงจึงยังมีโอกาสเติบโตสูงได้อีกมาก
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
X คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=