โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อาชญากรรม

สืบนครบาล ล่า นัท night stalker จอมหื่นนักสะกดรอย ย่ำยีสาวเพื่อนร่วมงาน รับคิดไว้แล้วถูกสารวัตรแจ๊ะ รวบ

Khaosod

อัพเดต 04 พ.ค. 2567 เวลา 05.14 น. • เผยแพร่ 04 พ.ค. 2567 เวลา 04.28 น.
สืบนครบาล ล่า นัท night stalker จอมหื่นนักสะกดรอย ย่ำยีสาวเพื่อนร่วมงาน รับคิดไว้แล้วถูกสารวัตรแจ๊ะ รวบ

สืบนครบาล ล่า นัท night stalker จอมหื่นนักสะกดรอย ย่ำยีสาวเพื่อนร่วมงาน อ้างน้องชายไม่ตื่นตัว รับคิดไว้แล้วถูกสารวัตรแจ๊ะตามรวบ เผยมีลางสังหรณ์จากองค์เทพว่าจะโดนรวบ

วันที่ 5 พ.ค.2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 บก.สส.บช.น.พ.ต.ต.วศิน อินทร์แก้วสว.ฝอ.บก.สส.บช.น. ร่วมกับเจ้าหน้าที่สืบนครบาลร่วมกันสืบสวน

ติดตามจับกุมตัว นายณัฐพล (สงวนนามสกุล) หรือ นัท อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.1625/2567 ลงวันที่ 19 เม.ย. 67 ข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้” ที่ กลางถนนวิภาวดี-รังสิต (ขาออก-บริเวณสนามบินดอนเมือง) แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง จ.กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 4 พ.ค. ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจาก “night stalker” ในชีวิตจริง จอมหื่นที่ตามสะกดรอยชีวิตของเหยื่อสาวกว่าหลายเดือน ก่อนสบโอกาสลากเธอไปย่ำยีอย่างวิตถาร โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในห้วงปลายปี พ.ศ. 2566 หญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายเป็นเด็กสาวหน้าตาดี วัย 22 ปี เธอเล่าว่า ทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง คนร้ายทำหน้าที่โชเฟอร์ของบริษัท ฉวยโอกาสเข้ามาตีสนิทใกล้ชิดกับเธอ จนเริ่มคลั่งไคล้เธอถึงขั้นเลิกขับรถแล้วขอย้ายมาอยู่แผนกเดียวกับเธอ

โดยภัยร้ายเริ่มคืบคลานมาหา เมื่อได้ทำงานใกล้ชิดกับเธอแล้วโรคจิตรายนี้พยายามซักถามข้อมูลส่วนตัวเธออย่างเกินงาม จนเธอรู้สึกอึดอัด โดยคนร้ายยังไม่จบเพียงแค่นี้บางครั้งถึงขั้นนำสิ่งของของเธอในออฟฟิศ “มาสูดดม” อย่างโรคจิตในภาพยนตร์

ที่พีคสุดคือหลังเลิกงาน เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ผู้ต้องหาจะสะกดรอยติดตามเธอตั้งแต่ออกจากบริษัท ป้ายรถเมล์ และแอบขึ้นรถเมล์ไปกับเธอ ตามไปจนถึงที่พัก โดยที่เธอไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นเช่นนี้มาเป็นเวลากว่าหลายเดือน

โดยผู้ต้องหารู้แม้กระทั่งว่าเธอชอบกินขนมยี่ห้ออะไรในร้านสะดวกซื้อ จนมาถึงในวันที่เกิดเหตุ มีการจัดงานกินเลี้ยงสังสรรค์ของบริษัทฯ ซึ่งหลังเสร็จจากงานเลี้ยงเธอต้องกลับมาทำงานต่อที่บริษัทฯ คนร้ายฉวยโอกาสตามเธอกลับมาที่บริษัทฯ ด้วยสภาพแวดล้อมที่แทบจะไม่มีใครอยู่ในบริษัท

คนร้ายลงมือลากเธอเข้าไปในห้องฟิสเนตของบริษัท แล้วกระทำชำเราเธออย่างรุนแรง เวลาผ่านไปเท่าใดไม่ทราบเธอฟื้นได้สติขึ้นมาแล้วพบว่าตนกำลังถูกไอ้โรคจิตรายนี้ย่ำยี จึงใช้เท้าถีบและหนีออกมาจากสถานการณ์นั้นได้

หลังเกิดเหตุเธอเดินทางไปแจ้งความที่ สน.ประชาชื่น และแจ้งเรื่องนี้ให้กับหัวหน้าในบริษัททราบทันที ซึ่งเมื่อทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดพบว่าหลังเกิดเหตุ โรคจิตรายนี้ยังกลับเข้าไปทำความสะอาดและทำลายหลักฐานในห้องฟิสเนตจุดที่ลงมือก่อเหตุอีกด้วย

หลังจากนั้นคนร้ายก็ไม่มาทำงานอีกและหนีหายเข้ากลีบเมฆไปเลย ซึ่งต่อมาก็ได้มีการออกหมายจับนายณัฐพล อายุ 45 ปี โดยคดีนี้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ส่งชุดสืบนครบาลเพื่อไล่ล่าติดตามตัว จนชุดสืบสวนได้ไปพบบุคคลต้องสงสัยที่มีตำหนิรูปพรรณตรงกับคนร้าย กำลังขับรถยนต์อยู่บนถนนวิภาวดีรังสิต

พล.ต.ต.ธีรเดช สั่งให้ พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ หรือ สารวัตรแจ๊ะ ชุดสืบสะกดรอยนักสะกดรอยรายนี้ไปเรื่อยๆเพื่อพิสูจน์ทราบ กระทั่งต่อมาคนร้ายเริ่มระวังตัวจึงเริ่มขับรถโดยใช้ความเร็วต่ำ แต่ชุดสืบสวนไม่กลัวว่าคนร้ายจะรู้ตัว โดยสารวัตรแจ๊ะสั่งลูกทีม “ตามแบบหนังไทย” ขับตามรถคนร้ายไปดื้อๆ

กระทั่งคนร้ายเริ่มออกอาการเริ่มขยับฉวัดเฉวียนและใช้ความเร็ว แล้วพยายามสับขาหลอกชุดสืบสวนหักเลี้ยวกลับรถกะทันหันและพยายามขับมุดไปตามช่องแคบ แต่ท้ายสุดก็ถูกสกัดจับได้กลางถนนวิภาวดีรังสิต

สอบสวนนายณัฐพล ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “เคยเป็นพนักงานในแผนกไอทีแอนเซอร์วิส อยู่ที่บริษัทที่เกิดเหตุดังกล่าว ส่วนที่ผู้เสียหายกล่าวว่าตนเป็นสตอกเกอร์ตามคุกคามชีวิตประจำวันผู้เสียหาย ตั้งแต่ขึ้นรถเมล์จนกระทั้งรู้พฤติกรรมของผู้เสียหายว่าชอบลงมาซื้อข้าวจากร้านสะดวกซื้อไปกินบนห้องและคอยเฝ้าตามผู้เสียหายในที่ต่างๆ

ยืนยันว่าไม่ได้เป็นสตอกเกอร์ แค่เป็นห่วงความปลอดภัยของน้องเขาเท่านั้น โดยในวันเกิดเหตุนั้นบริษัทที่ตนทำงานจัดเลี้ยงปีใหม่และผู้เสียหายดื่มเหล้าจนมีอาการเมาไม่ได้สติ ตนจึงพาผู้เสียหายไปที่อ่างล้างจานเพื่อไปอาเจียน และพาผู้เสียหายมาเช็ดตัวที่ห้องฟิตเนส

ระหว่างนั้นตนเห็นผู้เสียหายถอดเสื้อจนเห็นร่องอก จึงเกิดอารมณ์และได้ลูบไล้ร่างกายผู้เสียหาย จนกระทั่งตนกำลังจะถอดกางเกงแต่ อวัยวะเพศของตนเกิดอาการอ่อนตัวไม่สามารถร่วมเพศเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ผู้เสียหายรู้สึกตัวพอดี

ภายหลังเกิดเหตุ ตนได้ลาออกจากบริษัทและออกมาทำงานรับจ้างด้วยตนเอง โดยตลอดช่วงที่หลบหนีที่ผ่านมาตนได้ตั้งจิตขอขมาองค์เทพและผู้เสียหายเรื่อยมา จนในวันที่ถูกจับกุมตนมีลางสังหรณ์จากองค์เทพว่าวันนี้ตนจะถูกลงโทษจากคดีความที่เคยก่อไว้ และถ้าถูกจับวันนี้จะมีญาติผู้ใหญ่มาช่วยเหลือและตนจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่

ตนอยากเจอกับสารวัตรหมวกไหมพรหม (สารวัตรแจ๊ะ) เพราะติดตามใน tiktok มานานและคิดว่าสักวันตนอาจจะถูกสารวัตรแจ๊ะจับเพราะชุดสืบของสารวัตรแจ๊ะเก่ง อีกทั้งตนยังอยากคุยกับผู้การจ๋อ (พล.ต.ต.ธีรเดช) เพราะติดตามมานานและคิดว่าผู้การจ๋อซึ่งน่าจะเข้าใจตนมากที่สุด” หลังจับกุมตัว ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า เรายังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของคนร้าย เพราะพยานหลักฐานในคดีนี้แน่หนามาก และจากการตรวจสอบพฤติกรรมของคนร้ายพบว่ามีการเปลี่ยนที่ทำงานบ่อยครั้งมาก เป็นไปได้สูงที่อาจจะเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้ว

หลังจากนี้จะขยายผลโดยละเอียด ขอเป็นกำลังใจให้กับหญิงสาวที่ต้องประสบพบเจอกับการถูก “sexual harassment” ในทุกแวดวงสังคมเช่นนี้ ต้องรู้จักสร้างภูมิคุ้มกันตัวเราเองก่อน ต้องรู้จักและหาแนวทางในการรับมือ การวางตัว และการป้องกันที่จะไม่เปิดโอกาสให้ผู้ที่คิดมิดีมิร้ายมาลงมือก่อเหตุกับเราได้

หากผู้ใดมีเบาะแสการกระทำความผิดในลักษณะนี้ในแวดวงสังคมที่ท่านต้องประสบพบเจออยู่โปรดแจ้งข้อมูลมาที่เพจ “สืบนครบาล IDMB” เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมตลอด 24 ชั่วโมง เพราะแม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และพล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : สืบนครบาล ล่า นัท night stalker จอมหื่นนักสะกดรอย ย่ำยีสาวเพื่อนร่วมงาน รับคิดไว้แล้วถูกสารวัตรแจ๊ะ รวบ

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...