โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

Shockwave นวัตกรรมฟื้นฟู ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศคุณผู้ชาย

PPTV HD 36

อัพเดต 22 ก.ย เวลา 03.27 น. • เผยแพร่ 22 ก.ย เวลา 03.00 น.
ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (ED) ไม่ใช่แค่ปัญหาทางเพศ แต่เป็นสัญญาณบ่งชี้โรคหัวใจ เบาหวาน ความดัน ควรตรวจสุขภาพและรักษาอย่างถูกวิธี

ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศในเพศชาย หรือ erectile dysfunction นั้นมีคำจำกัดความทางแพทย์ว่า ภาวะที่อวัยวะเพศไม่สามารถแข็งตัวได้อย่างเพียงพอ หรือไม่สามารถคงการแข็งตัวไว้ได้นานขณะมีเพศสัมพันธ์ หรือไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์จนเสร็จกิจได้

ภาวะดังกล่าว แม้จะไม่อันตรายถึงแก่ชีวิต แต่ก็เป็นสัญญานบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพทางกายโดยรวม โดยเฉพาะโรคที่มีสาเหตุเกิดจากความผิดปกติของระบบไหลเวียนโลหิตและหลอดเลือด เช่น โรคเส้นเลือดสมองอุดตัน โรคหัวใจขาดเลือด ซึ่งล้วนมีปัญหาจากเลือดไปเลี้ยงอวัยวะนั้นไม่เพียงพอนั่นเอง

สาเหตุ ภาวะมีบุตรยาก ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย วิธีเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์

อาหารเพิ่มสมรรถภาพเพื่อคุณผู้ชาย กระตุ้นระบบการไหลเวียนเลือด

ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ยังอาจส่งผลถึงสัมพันธภาพกับคู่สมรสจนอาจทำให้มีปัญหาในครอบครัวตามมาได้

ผู้ชายจะเสื่อมสมรรถภาพเมื่ออายุเท่าไหร่

  • ชายอายุต่ำกว่า 40 ปี – พบประมาณ 5 %
  • ผู้ชายอายุมากกว่า 40 ปี - พบประมาณ 50 %

โดยธรรมชาติแล้ว การแข็งตัวขององคชาต เป็นการทำงานร่วมกันของระบบประสาทและหลอดเลือด (neurovascular) ภายใต้การควบคุมของฮอร์โมน การแข็งตัวขององคชาตต้องอาศัยการทำงานที่ปกติของ 4 ปัจจัยคือ

  • เส้นประสาทที่มาเลี้ยง (intact neuronal innervations)
  • เลือดที่มาเลี้ยง (intact arterial supply)
  • กล้ามเนื้อเรียบที่ copora (appropriately responsive corporal smooth muscle)
  • การอุดตันของหลอดเลือดดำ (intact veno-occlusive mechanics)

ในภาวะปกติองคชาตจะมีลักษณะอ่อนตัว และจะมีการตอบสนองเมื่อได้รับการกระตุ้นทางเพศ

3 ระดับเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

  • อาการน้อย คือ สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้สำเร็จเกือบทุกครั้ง
  • อาการปานกลาง คือ สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้สำเร็จประมาณครึ่งหนึ่ง
  • อาการรุนแรง คือ แทบจะไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้สำเร็จเลย

ถ้ามีการแข็งตัวได้ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ถือว่าปกติ ซึ่งสาเหตุของภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศส่วนใหญ่มักเกิดร่วมกันระหว่างโรคทางกายและและปัญหาทางด้านจิตใจ โดยพบว่าสาเหตุหลักๆ ก็คือ การที่เลือดไปเลี้ยงอวัยวะเพศได้ไม่เพียงพอ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องมีการซักประวัติ ตรวจร่างกายและตรวจเพิ่มเติมพิเศษอื่น ๆ

ใครบ้างที่เสี่ยงต่อภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

  • อายุ เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญและหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่ออายุสูงขึ้น โอกาสที่จะเกิดภาวะ ED ก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย

  • สังคมและเศรษฐกิจ พบภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศมากขึ้นในกลุ่มคนที่ฐานะ/สถานะทางเศรษฐกิจสังคมที่ไม่ค่อยดี

  • โรคประจำตัวหรือโรคเรื้อรัง

  • โรคหัวใจและหลอดเลือด พบว่าโรคหัวใจมีผลมากที่สุดที่ทำให้เกิดภาวะ ED ระดับสูง ถึงร้อยละ 13.2

    • โรคความดันโลหิตสูง ทำให้เกิดภาวะ ED ได้ร้อยละ 62 เมื่อเทียบกับคนที่ไม่มีความดันโลหิตสูง และพบ 8 – 10% ของผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นความดันโลหิตสูงมีภาวะ ED ร่วมอยู่แล้ว
    • โรคเบาหวาน ทำให้เกิดภาวะ ED ได้ร้อยละ 74.7 เมื่อเทียบกับคนที่ไม่มีเบาหวาน

ถ้าพบว่ามีโรคทั้ง 3 ร่วมกัน จะมีภาวะ ED ร่วมทุกราย

  • เคยได้รับการผ่าตัดมาก่อน เช่น การผ่าตัดในอุ้งเชิงกราน การผ่าตัดผ่านทางท่อปัสสาวะ ได้รับอุบัติเหตุบริเวณอุ้งเชิงกราน อุบัติเหตุที่ไขสันหลัง
  • ภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย
  • การรับประทานยาบางชนิด
  • พฤติกรรมอื่น ๆ เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การออกกำลังกาย พฤติกรรมทางเพศ
  • ภาวะทางจิตใจ โดยเฉพาะภาวะซึมเศร้า จากการศึกษาพบว่าคนที่มีภาวะซึมเศร้ามีภาวะ ED ร้อยละ 50 – 90

การป้องกันภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

ควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงทั้งทางกายและจิตใจ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ

การรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

ทั้งแบบไม่ใช้ยาและการใช้ยาหรือใช้อุปกรณ์ช่วย ซึ่งมีวิธีการรักษาหลักอยู่ 4 วิธี ได้แก่

  • ยากลุ่มยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ phosphodiesterase type 5 เป็นทางเลือกแรกในการรักษาผู้ที่ไม่มีข้อห้ามใช้ (ผู้ที่ห้ามใช้คือ ผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยยากลุ่ม nitrate)อาการข้างเคียงที่พบบ่อย ได้แก่ ปวดศีรษะ การมองเห็นผิดปกติ อาการร้อนวูบวาบและปวดเมื่อยตามตัว
  • การรักษาด้วยยาฉีดเข้าที่องคชาต โดยฉีดเข้าอวัยวะเพศโดยตรง ยาชนิดนี้เป็นยาที่ทำให้หลอดเลือดขยายตัว เพื่อนำเลือดเข้าสู่อวัยวะเพศชาย จนเกิดการแข็งตัว และจะแข็งได้นาน 30 – 60 นาที
  • การรักษาด้วยยาสอดเข้าทางท่อปัสสาวะ ใช้ตัวยาเดียวกับที่ใช้ฉีดเข้าอวัยวะเพศ แต่เป็นรูปแบบเม็ดเล็ก ๆ สอดเข้าทางท่อปัสสาวะ หลังจากคลึงอวัยวะเพศประมาณ 5 – 10 นาที ยาจะซึมเข้าอวัยวะเพศและทำให้แข็งตัวขึ้นมาได้
  • การรักษาด้วยกระบอกสุญญากาศ โดยนำกระบอกสุญญากาศสวมเข้าที่อวัยวะเพศชายหลังทำการปั๊ม อากาศจะถูกปั๊มออกจากท่อพลาสติกที่สวมเข้าไปภายในเวลา 2-3 นาที เลือดจะถูกดึงให้เข้าไปที่เนื้อเยื่อแทน ทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ เมื่ออวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่แล้ว จึงถอดกระบอกสูญญากาศออก แล้วนำยางรัดที่ฐานของอวัยวะเพศชาย เพื่อช่วยให้ยังคงการแข็งตัวต่อไปได้
  • การผ่าตัดใส่แกนองคชาตเทียม

การรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศด้วย shockwave

เป็นเทคโนโลยีล่าสุดในการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศโดยการใช้คลื่นเสียงที่มีความเข้มต่ำแบบแรงกระแทกจากภายนอก (low intensity extracorporeal shockwave therapy) ไปกระตุ้นบนอวัยวะเพศของผู้ป่วย ส่งผลให้มีการสร้างหลอดเลือดฝอยขึ้นใหม่ เมื่อหลอดเลือดในอวัยวะเพศมีจำนวนมากขึ้น เลือดจึงเข้าไปเลี้ยงอวัยวะเพศได้มากขึ้นด้วย การตื่นตัวและการขยายขนาดของอวัยวะเพศจึงมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังพบว่ามีความปลอดภัยสูง ไม่มีผลข้างเคียงของการรักษาด้วยยา

ขั้นตอนการรักษาด้วย shockwave

  • ระยะเวลาในการรักษาครั้งละ 30 นาที โดยต้องทำอย่างสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ต่อเนื่อง 2 – 3 สัปดาห์
  • ไม่จำเป็นต้องใช้ยาชาหรือยาระงับประสาทก่อนทำการรักษา
  • ขณะทำการรักษาจะรู้สึกเหมือนมีแรงกระแทกเบาๆ บริเวณอวัยวะเพศ ไม่รู้สึกเจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น สามารถดำเนินชีวิตหรือมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ เนื่องจากเป็นวิธีการรักษาที่ปลอดภัย ปราศจากผลข้างเคียง

การรักษาด้วย shockwave เหมาะกับใครบ้าง

  • ที่ไม่ต้องการรักษาด้วยการรับประทานยา
  • ผู้ที่ไม่ตอบสนองต่อยา หรือผู้ที่เกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยา
  • ผู้ที่ตอบสนองต่อการักษาด้วยยาแล้ว แต่ยังต้องการความมั่นใจมากขึ้น

ผลการรักษา

ผู้ที่เข้ารับการรักษาหลังจากครั้งที่ 3 – 4 จะพบว่ามีความสามารถในการแข็งตัวของอวัยวะเพศดีขึ้นเมื่อเทียบกับก่อนการรักษา และสมรรถภาพทางเพศจะค่อยๆ ฟื้นฟูขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเข้ารับการรักษาครบตามกำหนด ทั้งนี้จำนวนครั้งของการรักษาอาจขึ้นกับภาวะความรุนแรงของโรคหรือปัจจัยอื่น ๆ เช่น เบาหวาน ภาวะเครียด โดยแพทย์ผู้ทำการรักษาจะเป็นผู้พิจารณาและประเมินผล

การรักษาด้วยวิธี shockwave ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ซึ่งต้องทำการตรวจวินิจฉัยให้รู้สาเหตุที่แท้จริง ประเมินและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยมากที่สุด เพื่อผลการรักษาที่ดีที่สุด

ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์

ดูข่าวต้นฉบับ

อ่านคอนเทนต์เพิ่มเติม คลิก!

มัดรวมเรื่องที่หนุ่มๆ ไม่ควรพลาด

วิธีสังเกต "มะเร็งลำไส้" ภัยร้ายวัยหนุ่มสาวที่คร่าชีวิตคนไทยมากที่สุด

Amarin TV

Christian Louboutin นำเสนอคอลเล็กชัน Fall/Winter 2025 ร่วมกับ 4 หนุ่ม Gelboys

LSA Thailand

ผู้หญิงต้องการการนอนมากกว่าผู้ชาย เพราะสมองทำงานหนักกว่า

TNN ช่อง16
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...