โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อาชญากรรม

หญิงแค้นถูกแฟนเก่าบอกเลิก บุกบ้านดักสาดน้ำกรด บาดเจ็บ 2 ราย เด็ก 8 ขวบ โดนลูกหลง

สวพ.FM91

อัพเดต 12 ต.ค. 2567 เวลา 06.40 น. • เผยแพร่ 12 ต.ค. 2567 เวลา 03.51 น.

12 ตุลาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งมีเหตุคนถูกน้ำกรดสาดใส่ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดภายในซอยภัทรนิเวศ ถนนเทพารักษ์ ตำบลบางเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ที่ชั้นล่างพบ ผู้บาดเจ็บ 2 ราย ชื่อนายธีรพงศ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี มีบาดแผลถูกน้ำกรดสาดใส่ขา มีบาดแผลผุพองหลายแห่ง และเด็กหญิงอายุ 8 ขวบ ลูกสาวของนายธีรพงศ์ ถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าทั้ง 2 ข้าง เจ้าหน้าที่เร่งปฐมพยาบาลก่อนให้ความช่วยเหลือนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลเปาโลสมุทรปราการ

ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุคืออดีตแฟนที่ครบกันมาประมาณ 1 ปี และเพิ่งเลิกลากันได้ไม่นาน วันนี้จู่ ๆ เขาก็เดินเข้ามาในบ้าน ตนอาบน้ำเสร็จพอดีเดินออกมาเขาก็สาดใส่เลย สาดใส่เสร็จก็เดินออกไปไม่ได้พูดอะไร ส่วนสาเหตุก็มีเรื่องคับแค้นใจที่เลิกลากันและเรื่องอื่น

แม่ของผู้บาดเจ็บ อายุ 65 ปี กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุตนอยู่ข้างบนชั้น 2 ได้ยินเสียงลูกชายร้องจึงลงมาดู ส่วนลูกชายเพิ่งกลับมาจากงานวัด กลับมาถึงก็อาบน้ำ ผู้ก่อเหตุก็บุกเข้ามาดักรอหน้าห้องน้ำ พอลูกชายออกมาก็สาดใส่เลย

หญิงผู้ก่อเหตุคืออดีตแฟนของลูกชาย ซึ่งตอนคบกันก็มีปัญหาทะเลาะกันใช้ความรุนแรงทุบข้าวของในบ้าน ลูกชายก็ขอเลิกมาได้สักพักแล้ว เมื่อวานก็เอาน้ำเปล่ามาสาดใส่หลานตนด้วย ซึ่งผู้ก่อเหตุก็เช่าบ้านอยู่ติดกัน หลังก่อเหตุก็หลบหนีเข้าไปอยู่ในบ้าน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเกลี้ยกล่อมให้ผู้ก่อเหตุออกมามอบตัว แต่ไม่เป็นผล ผู้ก่อเหตุอ้างว่ากลัวถูกทำร้าย และจะขอเข้ามอบตัวพร้อมทนายในวันพรุ่งนี้ จึงแนะนำให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ที่มา ข่าวสด

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...