โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เฟดลดดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ตามคาด 0.25% ด้านพาวเวลล์ส่งสัญญาณ ‘แตะเบรก’

PPTV HD 36

อัพเดต 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา
เฟดลดดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ตามคาด 0.25% ด้านพาวเวลล์ส่งสัญญาณ ‘แตะเบรก’ ชี้ดอกเบี้ยใกล้จุดสมดุล เล็งพิจารณาเข้มข้นก่อนลดเพิ่ม

InnovestX ระบุว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เป็นครั้งที่ 3 ของปีนี้ ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เจโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ได้ส่งสัญญาณเตือนว่า "เกณฑ์" สำหรับการลดดอกเบี้ยในครั้งถัดไปจะสูงขึ้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันกำลังเข้าใกล้ระดับที่เป็นกลาง (Neutral Rate) แล้ว

โดยในการแถลงข่าวหลังการประชุม เจโรม พาวเวลล์ ระบุว่า การปรับลดดอกเบี้ยทั้ง 3 ครั้งในปีนี้ ได้ทำให้อัตราดอกเบี้ยลงมาอยู่ "ภายในกรอบที่ประเมินว่าเป็นจุดสมดุล"

ซึ่งสถานะนี้ทำให้เฟดมีความพร้อมที่จะ "รอดูสถานการณ์" เพื่อประเมินทิศทางเศรษฐกิจต่อไป ก่อนจะตัดสินใจดำเนินการใดๆ เพิ่มเติมถ้อยแถลงดังกล่าวสอดคล้องกับสัญญาณจากนโยบายการเงินที่บ่งชี้ว่า เฟดจะเพิ่มความระมัดระวังและตั้งเงื่อนไขที่เข้มข้นขึ้นสำหรับการลดดอกเบี้ยในอนาคต โดยคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงสู่ระดับ 3.4% ในปี 2026 (บ่งชี้ว่าปีหน้าอาจลดอีกเพียง 1 ครั้ง) และอยู่ที่ระดับ 3.1% ในปี 2027 ซึ่งตัวเลขนี้ไม่เปลี่ยนแปลงจากการคาดการณ์ครั้งก่อน

มติ 'เสียงแตก' ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2019

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) มีมติลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงลงมาอยู่ที่กรอบ 3.50% - 3.75% แต่สิ่งที่น่าจับตามองคือ ความเห็นที่แตกแยกอย่างชัดเจน โดยมีกรรมการเห็นต่างถึง 3 ท่าน

  • ออสแตน กูลส์บี (Chicago Fed) และ เจฟฟรีย์ ชมิด (Kansas City Fed) โหวตให้ "คงอัตราดอกเบี้ย" (Pause)
  • สตีเฟน มิราน (Fed Governor) สนับสนุนให้ "ลดดอกเบี้ยแรงขึ้น" ที่ 0.50%

ความเห็นต่างนี้สะท้อนมุมมองที่ขัดแย้งกันต่อสภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฝั่งที่สนับสนุนให้ลดดอกเบี้ยมองไปที่ตลาดแรงงานที่เริ่มอ่อนแอและต้องการแรงหนุน ในขณะที่ฝั่งสายเหยี่ยว (Hawks) กังวลว่าการต่อสู้กับเงินเฟ้อยังไม่จบ โดยเฉพาะราคาสินค้าที่อาจพุ่งสูงขึ้นจากมาตรการกำแพงภาษี (Tariffs)

  • จิม แบร์ด ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนจาก Plante Moran Financial Advisors ให้ความเห็นว่า "ความแตกแยกนี้สะท้อนว่าภาพรวมเศรษฐกิจกำลัง 'ขมุกขมัว' (Murky) มันคือความตึงเครียดระหว่างสองเป้าหมายหลักของเฟด คือเงินเฟ้อที่ยังสูง กับตลาดแรงงานที่เริ่มชะลอตัว"
  • สถานการณ์ยิ่งซับซ้อนขึ้นเมื่อ "ภาวะชัตดาวน์" (Government Shutdown) ทำให้ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญอย่างตัวเลขจ้างงานและเงินเฟ้อขาดช่วงไป ส่งผลให้เฟดต้องตัดสินใจท่ามกลาง "ม่านหมอกของข้อมูล" (Data Fog)

ด้านมุมมองเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ โดยได้รับผลกระทบจากกำแพงภาษี แม้ข้อมูลจะขาดช่วง แต่ประมาณการเศรษฐกิจของเฟด (Summary of Economic Projections) แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม:

  • เงินเฟ้อ (Core PCE): คาดว่าจะอยู่ที่ 3% ในปี 2025 (ลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ 3.1%), 2.5% ในปี 2026 และจะเข้าสู่เป้าหมาย 2.1% ในปี 2027
  • ตลาดแรงงาน: คาดอัตราว่างงานปีนี้และปีหน้าอยู่ที่ 4.5% และ 4.4% ตามลำดับ

พาวเวลล์ มองว่า เงินเฟ้อที่เกินเป้าหมายในช่วงนี้ สาเหตุหลักมาจาก "กำแพงภาษี" ที่ดันราคาสินค้า (Goods) ให้สูงขึ้น แต่เชื่อว่าเป็นเพียงผลกระทบชั่วคราว (One-time increase) ในขณะที่ภาคบริการยังคงเห็นการชะลอตัวของเงินเฟ้อต่อเนื่อง

ดร.รัฐศรัณย์ ธนไพศาลกิจ Head of Investment Strategy & Trading Product Specialist จาก InnovestX ระบุว่า สำหรับผลกระทบต่อตลาด การที่ Fed การลดดอกเบี้ย 3 ครั้งติดต่อกันเป็นภาพ dovish ชัดเจนหนุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง แต่การส่งสัญญาณ hawkish ด้วยการชะลอจังหวะการลดดอกเบี้ยและคาดการณ์ว่าจะมีการลดเพียงครั้งเดียวในปีหน้านั้นอาจสร้างความผันผวนระยะสั้น แต่ในมุมมองระยะกลางถึงยาว ระดับดอกเบี้ยที่ลดลงมาแล้วรวมถึงการยืนยันว่าเศรษฐกิจยังแข็งแกร่งจากการปรับขึ้นประมาณการ GDP ทุกปีในช่วงคาดการณ์นั้น InnovestX ประเมินว่าจะยังคงเป็นปัจจัยบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงต่อไป

โดยเฉพาะหุ้นขนาดเล็กของสหรัฐฯ ซึ่งมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงดอกเบี้ยมากกว่าหุ้นขนาดใหญ่ เนื่องจากมีต้นทุนการกู้ยืมสูงกว่าและได้ประโยชน์มากกว่าเมื่อสภาพคล่องในระบบดีขึ้น นอกจากนี้หุ้นขนาดเล็กยังได้ประโยชน์จากการที่เศรษฐกิจในประเทศยังแข็งแกร่งและไม่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้ามากเท่ากับหุ้นขนาดใหญ่ที่มีรายได้จากต่างประเทศสูง การที่ Fed คาดการณ์ GDP เติบโตถึง 2.3% ในปี 2026 ยิ่งเสริมความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจภายในประเทศจะยังคงขยายตัวได้ดี ซึ่งเป็นปัจจัยบวกสำหรับบริษัทขนาดเล็กที่พึ่งพาตลาดในประเทศเป็นหลัก

"กลยุทธ์การลงทุน: โอกาสในหุ้นสหรัฐฯ ขนาดเล็กและทองคำ"

InnovextX ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงโดยรวม โดยเฉพาะหุ้นสหรัฐฯ ขนาดเล็กที่ควรได้ประโยชน์อย่างต่อเนื่องจากวัฏจักรการลดดอกเบี้ยที่ยังไม่จบ รวมถึงหุ้นเทคโนโลยี และหุ้นในตลาดเกิดใหม่ แม้ว่า Fed จะชะลอจังหวะลง แต่ทิศทางยังคงเป็นการผ่อนคลายนโยบายที่สนับสนุนการเติบโตและสภาพคล่อง การที่ Fed จะเริ่มซื้อพันธบัตรเพื่อบริหารสำรองประมาณ 40 พันล้านดอลลาร์ต่อเดือนนับจากวันศุกร์นี้ยิ่งเสริมสภาพคล่องในระบบ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกเพิ่มเติมสำหรับสินทรัพย์เสี่ยง นักลงทุนอาจพิจารณาเพิ่มน้ำหนักในหุ้นสหรัฐฯ ขนาดเล็กที่มีคุณภาพและได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ

โดยเฉพาะบริษัทที่มีแนวโน้มการเติบโตของกำไรสูงและสามารถรับมือกับต้นทุนการกู้ยืมที่ลดลงได้ดี หรือลงทุนผ่านกองทุน SCBRS2000 (A) สำหรับทองคำแม้ว่าในระยะสั้นอาจมีการแกว่งตัวในกรอบจากความแข็งแกร่งของดอลลาร์และการชะลอการลดดอกเบี้ย แต่ปัจจัยพื้นฐานระยะยาวยังคงแข็งแกร่งจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ การขาดดุลงบประมาณที่สูง และความต้องการจากธนาคารกลางต่างๆ คาดว่าทองคำจะปรับตัวขึ้นได้ในช่วงปีหน้าเมื่อความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและความขัดแย้งทางการเมืองในสหรัฐฯ รอบการเปลี่ยนผ่านผู้นำ Fed กลับมาเป็นประเด็นหลัก ดังนั้นการรักษาสัดส่วนการถือครองทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงยังคงเหมาะสมในพอร์ตการลงทุน โดยอาจพิจารณาซื้อเพิ่มในช่วงที่ราคาปรับตัวลงเพื่อเฉลี่ยต้นทุนและเตรียมพร้อมรับแนวโน้มขาขึ้นในปีหน้า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

มาสด้าประกาศลงทุน MHEV 5 พันล้าน กำลังผลิต 1 แสนคัน/ปี ฐานส่งออก

จ่อ! ออกหวยเกษียณ ทดลองขายผ่าน Sandbox 1ล้านฉบับ ไตรมาส1 ปีหน้า

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : เฟดลดดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ตามคาด 0.25% ด้านพาวเวลล์ส่งสัญญาณ ‘แตะเบรก’

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่

- Website : https://www.pptvhd36.com

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...