โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

คลังชง 3 มาตรการการออมเข้าครม. เพิ่มวงเงินลดหย่อนภาษีสูงสุด 8 แสนบาท แต่คนรายได้สูงกว่า 1.5 ล้านบาท ลดหย่อนได้น้อยลงเป็น 0.7 เท่า

THE STANDARD

อัพเดต 38 นาทีที่แล้ว • เผยแพร่ 38 นาทีที่แล้ว • thestandard.co
คลังชง 3 มาตรการการออมเข้าครม. เพิ่มวงเงินลดหย่อนภาษีสูงสุด 8 แสนบาท แต่คนรายได้สูงกว่า 1.5 ล้านบาท ลดหย่อนได้น้อยลงเป็น 0.7 เท่า

เอกนิติ รมว.คลัง ชง 3 มาตรการการออมเข้า ครม.เศรษฐกิจ เพิ่มวงเงินลดหย่อนภาษีสูงสุดเป็น 800,000 บาท แต่ปรับสูตรคำนวณลดหย่อนระหว่างคนรายได้สูงกว่าและต่ำกว่า 1.5 ล้านบาทต่อปี

วันนี้ (8 ธันวาคม) ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจครั้งที่ 7/2568 ได้หารือ 3 มาตรการการออม ภายใต้ เสาหลักที่ 5 ‘เพิ่มการออมภาคประชาชน’ ของนโยบาย ‘Quick Big Win’ เพื่อเตรียมความพร้อมให้คนไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยจะมีการเพิ่มแหล่งระดมเงินออม รวมถึงเพิ่มความเป็นธรรมให้คนรายได้น้อย และระดมเงินเข้าตลาดทุนมากขึ้น

โดยมาตรการที่ 1 คือการเพิ่มวงเงินลดหย่อนภาษีสูงสุดเป็น 800,000 บาท ให้กับผู้ที่ซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวม ซึ่งจะเป็นการลดหย่อนถาวร ไม่จำเป็นต้องขอใหม่ปีต่อปี และจะมีการปรับเกณฑ์ลดหย่อนเพื่อเพิ่มความเป็นธรรมให้แก่ผู้มีรายได้น้อย

โดยผู้มีรายได้ต่ำกว่า 1.5 ล้านบาทต่อปี สามารถลดหย่อนได้เพิ่มขึ้นเป็น 1.3 เท่า ส่วนผู้มีรายได้สูงกว่า 1.5 ล้านบาทต่อปี ลดหย่อนได้น้อยลงเป็น 0.7 เท่า ต่างจากเดิมที่ทุกคนซื้อลดหย่อนภาษีได้ 1 เท่า ในกรอบเพดานสูงสุด

“ทุกคนจะได้เต็มที่สูงสุด 800,000 บาทเหมือนกัน นับเป็นการจัดระบบให้มีความเรียบร้อย” ดร.เอกนิติกล่าว

นอกจากนี้ มีมาตรการจูงใจให้คนเข้าสู่ตลาดทุนมากขึ้น ด้วยการยกเว้นภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย กรณีจ่ายเงินปันผลหรือดอกเบี้ย วงเงิน 200,000 บาทแรก ให้กับผู้ที่ถือหน่วยลงทุนเกิน 5 ปีอีกด้วย

มาตรการที่ 2 จำหน่าย พันธบัตร ‘ออม พลัส’ ให้กับประชาชนทุกเดือน ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงพันธบัตรรัฐบาลที่มีความมั่นคง โดยมีราคาขั้นต่ำที่ 1,000 บาท ตามราคาตลาด นับเป็นการเพิ่มแรงจูงใจสำหรับการออม

มาตรการที่ 3 ยกเว้นอากรให้กับผู้ซื้อประกันวินาศภัย ไม่ว่าจะเป็น ประกันน้ำท่วม หรือประกันท่องเที่ยว เพื่อทำให้ผู้ซื้อประกันภัยรายย่อย (Micro Insurance) กล้าซื้อประกันมากขึ้น

ดร.เอกนิติระบุว่า “การยกเว้นอากรจะช่วยให้คนกล้าซื้อประกัน เพราะโลกทุกวันนี้ความเสี่ยงเยอะขึ้น”

สำหรับการเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ รวมถึงความคืบหน้าโครงการ ‘คนละครึ่ง พลัส’ เฟส 2 ดร.เอกนิติระบุว่าอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดร่วมกับทีมเศรษฐกิจ โดยจะชี้แจงอีกครั้งเมื่อได้ข้อสรุป อย่างไรก็ตาม ดร.เอกนิติ ระบุว่าทั้งสองมาตรการยังไม่ได้มีการหารือกันในครม.เศรษฐกิจครั้งนี้

ส่วนกรณีเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งอาจกระทบต่อการเจรจาการค้ากับทางสหรัฐฯ ด้านดร.เอกนิติ ระบุว่า วันนี้ได้มีการพูดคุยกับ ศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยมอบนโยบายให้หารือกับสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งฝ่ายไทยได้มีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว

อย่างไรก็ตาม ดร.เอกนิติมองว่า ไทยไม่ใช่ฝ่ายผิด เนื่องจากกัมพูชาเป็นฝ่ายเปิดการโจมตีก่อนโดยกล่าวว่า “แต่เราไม่ได้เป็นคนทำผิด วันนี้เขาเป็นคนทำผิดมาโจมตีเราก่อน”

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...