โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

“นายกฯ” บินบุรีรัมย์บ่ายนี้ ส่งผู้อพยพกลับบ้าน หลังหยุดยิง 72 ชม. ยังไม่เชื่อข่าว "เครื่องบินเบลารุส" ขนอาวุธลงจอดพนมเปญ

สยามรัฐ

อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว

">

วันที่ 28 ธันวาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีประชาชนในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา สามารถทยอยกลับบ้านหลังจากมีการลงนาม Joint Statement ว่า ช่วงบ่ายนี้จะเดินทางไปดูพี่น้องที่อพยพในจังหวัดบุรีรัมย์ ในการทยอยเดินทางกลับบ้าน

ในประเด็นถามว่าประชาชนสามารถกลับบ้านได้ 100% แล้วหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่าน่าจะโอเคแล้ว ซึ่งการปะทะรอบที่แล้วมีการอนุมัติเงินช่วยเหลือเยียวยา ให้กับประชาชนที่ต้องอพยพในศูนย์พักพิง หลังจากนี้ก็จะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะมีรูปแบบที่ดำเนินการอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าจะเชื่อใจกัมพูชาได้หรือไม่ เพราะขณะนี้มีกระแสข่าวกรณีเครื่องบินขนส่งเบลารุสบินอ้อมไทย และไปลงจอดที่กรุงพนมเปญ นายอนุทิน กล่าวว่า ข่าวแบบนี้ยังเชื่อถือไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามต่อ จะต้องตรวจสอบเพิ่มเติมหรือไม่ นายอนุทิน เผยว่า ฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายกองทัพ มีการข่าวและการตรวจสอบอยู่แล้ว ถ้าหากเป็นข้อเท็จจริงหรือมีความเสี่ยงต้องมีการรายงานมา

เมื่อถามย้ำว่ามีคนเป็นห่วงว่าช่วงหยุดยิงกัมพูชาจะมีการเติมอาวุธและเติมกำลัง นายอนุทิน บอกว่า เรามีกฎของการปะทะอยู่แล้ว และกัมพูชาเป็นฝ่ายที่เรียกร้องให้มีการเจรจาหยุดยิง ซึ่งฝ่ายกัมพูชาก็ให้ความร่วมมือและมาประชุม 3 วัน โดยในเนื้อหาของ Joint Statement มีความชัดเจนว่าทั้งสองฝ่ายจะไม่ละเมิดกันและกันอีก ซึ่งก็หวังว่าครั้งนี้ทางฝ่ายกัมพูชาจะรักษาสัญญา นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งไทยและกัมพูชาไปประชุมที่นครคุนหมิง เพราะจีนก็หวังให้เกิดสันติภาพภายในพื้นที่ ก็คงจะต้องมีการตอกย้ำและพูดคุยกัน พร้อมย้ำว่าทุกอย่างนั้นมีรายละเอียดชัดอยู่ใน Joint Statement

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...