โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

เปิดรัศมี อาวุธหนัก กัมพูชา จังหวัดไหนสุ่มเสี่ยง จาก BM-21 ถึง PHL-03

สยามนิวส์

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว • ทีมข่าวสยามนิวส์
กัมพูชาเคยใช้อาวุธหนักหลายชนิดโจมตีประเทศไทย นับแต่การสู้รบครั้งแรก เมื่อกลางปีที่แล้ว และมีแนวโน้มที่กัมพูชาจะใช้อาวุธเหล่านี้กับไทยอีกครั้ง

กัมพูชาเคยใช้อาวุธหนักหลายชนิดโจมตีประเทศไทย นับแต่การสู้รบครั้งแรก เมื่อกลางปีที่แล้ว และมีแนวโน้มที่กัมพูชาจะใช้อาวุธเหล่านี้กับไทยอีกครั้ง โดยเฉลี่ยแล้ว กัมพูชามีแสนยานุภาพยิงโจมตีไทยได้ 0-130 กิโลเมตร

นี่เป็นภาพจากการวิเคราะห์ข้อมูลที่ถูกเปิดเผยโดย เพจ มิตรเอิร์ธ - mitrearth วิเคราะห์เทียบกับ Google Map แสดงให้เห็นว่า จังหวัดไหนเข้าข่ายอยู่ในพิสัยยิงของกัมพูชาบ้าง

พิสัยยิง 0-20 กิโลเมตร : ตราด จันทบุรี สระแก้ว บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีษะเกษ และอุบลราชธานี แต่เพียงส่วนน้อยของจังหวัดที่ใกล้ชายแดนมากเท่านั้น
พิสัยยิง 20-50 กิโลเมตร : ครอบคลุมพื้นที่กว่าครึ่งของจังหวัดของ ตราด จันทบุรี สระแก้ว บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีษะเกษ อุบลราชธานี
พิสัยยิง 50-100 กิโลเมตร : ครอบคลุมพื้นที่เกือบทั้งจังหวัดของตราด จันทบุรี สระแก้ว บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีษะเกษ อุบลราชธานี และขยายพิสัยการยิงไปถึงจังหวัดอื่น ๆ เพิ่มเติม คือ ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และนครราชสีมา
พิสัยยิง 100 - 150 กิโลเมตร: ครอบคลุมพื้นที่กว่าครึ่ง หรือเกือบทั้งหมดของจังหวัดที่กล่าวมาข้างต้น และขยายพิสัยยิงไปถึงพื้นที่บางส่วนของจังหวัดมหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร และอำนาจเจริญ ด้วย

ทั้งนี้ นี่เป็นการประเมินแบบ 2 มิติเทียบรัศมีเข้ากับแผนที่ โดยยังไม่ประเมินรวมกับปัจจัยอื่น ๆ รวมถึงแสนยานุภาพทางทหารของไทย ภูมิประเทศเชิงลึก และความพร้อมของอาวุธหนักของฝ่ายกัมพูชา

ภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก : มิตรเอิร์ธ - mitrearth

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...