สน.บางรัก ล่อซื้อบริการค้าประเวณี รวบแม่เล้า วัย 16 ปี ลวงเด็ก 15-16 ปี ค้าประเวณี
วันที่ 14 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ รายงานว่า ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ชัยกฤต โพธิ์อ๊ะ ผบก.น.6 พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ รอดเข็ม ผกก.กก.สส.บก.น.6 พ.ต.อ.ธรรมศักดิ์ สารบุญ ผกก.สน.บางรัก พ.ต.ท.ปิติพัฒน์ เอกอัครภูววัฒน์ รอง ผกก.ป.สน.บางรัก ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้จับกุมนำโดย พ.ต.ต.อังกูร ตู้วัฒนะวาณิช สวป.สน.บางรัก และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางรัก ทำการล่อซื้อบริการค้าประเวณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี
ผู้ต้องหา
นางสาวเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี
เหยื่อ
1. นางสาวบี (นามสมมติ) อายุ 15 ปี
2. นางสาวก. (นามสมมติ) อายุ 16 ปี
ข้อหา ค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากบุคคลอายุเกินกว่า 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปี, เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งเด็ก
สืบเนื่องจากวันที่ 13 ธันวาคม 2568 เวลา 20.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการล่อซื้อบริการทางเพศเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี โดย ได้ให้สายลับเข้าทำการล่อซื้อ เวลา 19.00 ผู้ต้องหาได้พาเด็กทั้ง 2 คน มาที่ร้าน แฮปปี้เบียร์ฯ ตามที่ได้นัดหมายไว้ และเดินทางไปยังโรงแรมสุรวงศ์ ต่อมาเวลาประมาณ 19.30 น. เมื่อสายลับเข้าทำการล่อซื้อบริการค้าประเวณีแล้ว สายลับได้ให้เหยื่อทำการเปลี่ยนชุดเตรียมตัวให้บริการทางเพศ จึงได้ส่งสัญญานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม
ทราบว่าพร้อมให้เข้าทำการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำกำลังเข้าช่วยเหลือเหยื่อ ที่ห้องหมายเลข 205 และ 206 ของโรงแรมสุรวงศ์ฯ โดยทั้งสองคนอยู่ในลักษณะนุ่งผ้าเช็ดตัว และได้ทำการฉีกถุงยางพร้อมให้บริการทางเพศ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าทำการจับกุมผู้ถูกจับที่ร้านอาหารฯ พบ นางสาว เบญญา ชัยมงคล ผู้ต้องหา อยู่บริเวณที่ร้านอาหารดังกล่าว จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ ทำการขอตรวจค้นโดยก่อนการตรวจค้นได้แสดงความบริสุทธิ์จนเป็นที่พอใจของผู้ต้องหาทั้งสองแล้ว ผลการตรวจค้นพบธนบัตร 1000 บาท จำนวน 7 ใบ รวมเป็นเงิน 7000 บาท อยู่ภายในกระเป๋าเงิน ผู้ต้องหา ซึ่งธนบัตรที่ตรวจพบเป็นธนบัตรที่มีเลขกำกับตรงกับที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเอาไว้เพื่อทำการล่อซื้อบริการค้าประเวณี
โดยผู้ต้องหา นั้นยอมรับว่าเป็นคนที่เป็นธุระจัดหาเด็กมาให้บริการค้าประเวณี ซึ่งเป็นการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศ โดยการได้เงินส่วนแบ่งเป็นค่าธุระจัดหาจริง โดยแบ่งเป็นค่าบริการค้าประเวณี 2800 บาท จำนวน 2 คน เป็นเงิน 5600 บาท และเอ็นเตอร์เทรนของผู้ต้องหาอีก 800 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 6400 บาท โดยผู้ต้องหายอมรับว่าได้หักเงินส่วนแบ่งเป็นค่าธุระจัดหาจากเหยื่อจริงเป็นจำนวนเงินคนละ 200 บาท 2 คน รวมเป็นเงิน 400 บาท
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งให้ผู้ต้องหาทราบว่าต้องถูกจับ แจ้งข้อกล่าวหา พร้อมทั้งแจ้งสิทธิ์ให้ผู้ถูกจับทราบ ผู้ถูกจับทราบและเข้าใจข้อกล่าวหาและรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุแห่งการจับกุมดีโดยตลอดแล้ว ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่าตนเป็นผู้ติดต่อและได้รับผลประโยชน์จริง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง และ เหยื่อค้ามนุษย์ ไปยัง สน.บางรัก เพื่อทำเอกสารบันทึกจับกุมและส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
ผู้สื่อข่าวนครบาล ทีมข่าวสยามนิวส์ รายงาน