“ยศชนัน” ลงพื้นหาเสียงที่คันนายาว-บึงกุ่ม หาเสียงเพื่อไทย ชูนโยบาย รถไฟฟ้า 20 ลดค่าไฟ
“ยศชนัน” ลงพื้นหาเสียงที่คันนายาว-บึงกุ่ม หาเสียงเพื่อไทย ชูนโยบาย รถไฟฟ้า 20 ลดค่าไฟ ลั่นไม่อยากให้มองไปข้างหลัง มุ่งไปข้างหน้า “จุลพันธ์” แจงพรรคมีทีมติดตามหวั่นทุจริต โอดโดนกระทำมาหลายครั้ง ไม่ฟันธงพื้นที่กทม. เหตุเป็นพื้นที่อ่อนไหว
วันที่ 31 ธ.ค. 68 ที่ ตลาดสายเนตร เขตคันนายาว ศ.ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้สมัครสส.เขตคันนายาว-บึงกุ่ม พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดสายเนตร โดยมีแฟนคลับเข้ามามอบดอกกุหลาบและส่งเสียงเชียร์อย่างล้นหลาม
ซึ่งขณะที่ ศ.ดร.ยศชนัน ได้เดินหาเสียงอยู่นั้นมีการทักทายประชาชนพ่อค้าแม่ค้าที่ค้าขายอยู่บริเวณตลาดพร้อมทั้งมีช่วงหนึ่งได้เดินไปปิ้งหมูในร้านขายหมูปิ้ง รวมทั้งใส่บาตร เพื่อเป็นสิริมงคล ก่อนที่จะไปร่วมรับประทานอาหารกับผู้สมัคร
ศ.ดร.ยศชนัน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ที่เขตเลือกตั้งนี้ในการเลือกตั้งครั้งก่อนก็ชนะแต่แพ้ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ซึ่งมีความมั่นใจมากแค่ไหนว่าจะยึดคืนพื้นที่กลับมาได้ ว่า ลงพื้นที่ตลอดและจากการลงพื้นที่แล้วได้รับกำลังใจจากประชาชนและได้พูดคุยถึงเรื่องนโยบายซึ่งเห็นว่านโยบายหลายอย่างที่มี น่าจะโดนใจประชาชนแต่ในสองปีที่ผ่านมานายพลภูมิก็ลงพื้นที่ตลอดและไม่เคยทิ้งประชาชนซึ่งมั่นใจว่าครั้งนี้จะสามารถกลับมาได้
เมื่อถามว่ารอบที่แล้วก็แพ้ในเรื่องของ กระแสรอบนี้ประเมินเรื่องกระแสอย่างไรบ้างนั้น ศ.ดร.ยศชนัน กล่าวว่าเราพยายามที่จะทำไปข้างหน้าซึ่งมีเวลาอีกหนึ่งเดือนในขณะเดียวกันเรื่องของกระแสก็ไม่มีปัญหาสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการส่งมอบนโยบายที่ถูกต้องให้กับบุคคลในพื้นที่และคิดว่าตรงนี้จะเป็นจุดที่ใหญ่กว่ากระแส
ส่วนหลายหลายนโยบายที่ทำนั้นยังไม่สำเร็จมั่นใจว่าจะขายนโยบายที่จะสานต่อได้อย่างไรนั้น ตนมองว่าเรื่องนโยบายนั้นเมื่อพูดคุยกันก็เรื่องของปากท้อง และเรื่องเกี่ยวกับหนี้รวมถึงเรื่องโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย รวมทั้งบุคคลที่อยู่ในจุดที่ไม่ได้อยู่ใกล้รถไฟฟ้า การเดินทางราคาถูกก็เป็นสิ่งที่ประชาชนให้ความสนใจ เรื่องค่าไฟที่มีการพูดคุยว่า 3.70 บาทนั้นสามารถทำได้ทั้งระบบ ซึ่ฃเกี่ยวกับไฟฟ้าทดแทน พลังงานทดแทนเสรีกลับมาด้วยรวมทั้งเรื่องเกี่ยวกับโซลาร์เซลล์ที่ทำให้สามารถลดค่าไฟได้อย่างยั่งยืน
ส่วนประเมินผู้สมัครที่ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องมีความมั่นใจมากน้อยแค่ไหน นายพลภูมิ กล่าวว่ามั่นใจเพราะ จากการเลือกตั้งครั้งที่แล้วที่พลาดไปเมื่อ ปีต่อมาก็ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องซึ่งจะได้เห็นระหว่างกระแสกับคนทำงาน ก็ให้เปรียบเทียบไปว่าพรรคเพื่อไทยพร้อมนโยบายและคนทำงานในพื้นที่ก็พร้อมวันนี้มีมีความหวังอย่างแน่นอนสำหรับเขตคันนายาวและบึงกุ่ม
ภาพรวมการเลือกตั้งเมื่อวานที่นายกบอกว่าไม่อยากให้มีการชกใต้เข็มขัดนั้น ศ.ดร.ยศชนันกล่าวว่า รอบนี้เราเป็นคนยืนยันเสมอว่าสิ่งสำคัญคือการไปข้างหน้าและมองที่ประเทศมองที่สิ่งที่ประชาชนเดือดร้อนอยู่เพราะปีหน้าจะเป็นปีแห่งทุกสิ่งทุกอย่างที่จะเกิดขึ้น แต่เป็นปีแห่งโอกาสซึ่งตรงนี้ตนคิดว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเป็นสิ่งที่เราจะมามองไปข้างหลังว่าใครดีไม่ดี มันไม่มีประโยชน์ต้องไปข้างหน้าและต้องให้ของขวัญปีใหม่กับประชาชนเป็นนโยบายที่สามารถทำให้พลิกฟื้นชีวิตได้
ส่วนการเลือกตั้งที่ผ่านมานั้นจนถึงตอนนี้เริ่มมีการทุจริตหรือมีความไม่โปร่งใสอย่างไรหรือไม่รวมถึงทุกครั้งจะเป็นอย่างไร นายจุลพันธ์ กล่าวว่าเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นนั้นมีการติดตามอย่างใกล้ชิดมีการตั้งกองตรวจสอบการทุจริตที่นำโดย นายชูศักดิ์ ศิรินิล หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งหมายความว่าเราจริงจังกับประเทศเพราะเราเป็นพรรคการเมืองที่โดนกระทำมาหลายครั้ง ครั้งนี้เชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์หรือไม่นั้นเชื่อว่าจะมีก็เป็นหน้าที่ของผู้สมัครที่จะคอยสอดส่องดูแลและเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่นสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ที่คอยสอดส่องฉะนั้นเราก็จะติดตามอยู่แต่หากถามว่าเหตุการณ์จะเกิดหรือไม่นั้นคาดว่ามันจะมีเพราะลักษณะการเลือกตั้งในช่วงต้นยังไม่มีกระบวนการที่จะลงไปซื้อเสียงหรือลงไปทำอะไรอยู่แล้ว เราต้องเฝ้าระวัง
ส่วนความมั่นใจได้มากน้อยแค่ไหนทั้งในเรื่องนโยบายและเรื่องการไม่เหมือนเลือกตั้งรอบที่แล้ว ตนมองว่าพื้นที่กรุงเทพเป็นพื้นที่ที่ใครก็ตามไม่เคยกล้าพูดว่ามั่นใจออกมา เพราะเชื่อว่าเป็นพื้นที่ที่ความอ่อนไหวต่อสถานการณ์ทางการเมืองค่อนข้างมากสิ่งที่จะทำได้คือการเสนอนโยบายรวมถึงการทำแนวอุดมการแนวความคิดของพรรคให้เป็นที่ประจักษ์ต่อประชาชนเพื่อที่จะได้รับความไว้วางใจจากประชาชน คงจะไม่กล้าฟันธงว่าได้เท่าไหร่แต่ยืนยันว่าที่กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่พรรคเพื่อไทยปักธงจำนวนมากแน่นอน