“บุญศิริ” เปิดรูตเดินเรือใหม่ นำ “คาตามารัน” เชื่อมไทย-กัมพูชา

เกือบ 10 ปีที่ 2 สามี-ภรรยาคนไทยเริ่มก่อตั้ง “บริษัท บุญศิริเรือเร็ว จำกัด” เมื่อปี 2556 เพื่อดำเนินธุรกิจเรือข้ามฟาก ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ “เกาะกูดแฟนตาซี” จากท่าเรือแหลมศอก จ.ตราด ไปยังเกาะหมาก และเกาะกูด หลังจากนั้นขยายกิจการเปิดรับนักท่องเที่ยวเดินทางด้วยรถบัส รถตู้ มาลงเรือคาตามารัน (Catamaran) ซึ่งเป็นเรือเฟอร์รี่ความเร็วสูงขนาดใหญ่ 288 ที่นั่ง และเรือซูเปอร์เจ็ต 327 ที่นั่ง เชื่อมต่อเส้นทางจากกรุงเทพมหานคร พัทยา-ท่าเรือแหลมศอก อ.เมือง จ.ตราด สู่เกาะกูด เกาะช้าง เกาะหมาก และ

ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2566 ได้จดทะเบียนจัดตั้ง“บริษัท สาครศิริ จำกัด” ในประเทศกัมพูชา เพื่อเปิดให้บริการท่องเที่ยวเชื่อมโยงไทย-กัมพูชาทั้งทางเรือและทางรถยนต์ “ประชาชาติธุรกิจ” สัมภาษณ์ “นายทศพล ปิยะพิทักษ์วงศ์” ประธานกรรมการ บริษัท บุญศิริเรือเร็ว จำกัด และ “นางสาววิยดา อมรพชรกุล” รองประธานกรรมการ ถึงโอกาสการท่องเที่ยวเชื่อมโยงไทย-กัมพูชาในเส้นทางใหม่

ทุ่ม 50 ล.เชื่อมเที่ยวไทย-กัมพูชา

นายทศพลบอกว่า จ.ตราด มีศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยวมาก โดยเฉพาะ 3 เกาะคือ เกาะกูด เกาะหมาก เกาะช้าง ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศมาก จึงต้องการเปลี่ยนแปลงการเดินทางท่องเที่ยว จ.ตราด ในรูปแบบใหม่ เชื่อมโยง 3 เกาะของ จ.ตราด กับเกาะเจ้า (จ.เกาะกง) และเกาะรง (จ.สีหนุวิลล์) ของกัมพูชา ภายในวันเดียว ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย

และในทางกลับสามารถดึงนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชา นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว 3 เกาะของ จ.ตราด ได้เช่นเดียวกัน บจก.บุญศิริเรือเร็วเป็นรายแรกที่ลงทุนในประเทศกัมพูชา โดยจดทะเบียนตั้ง บจก.สาครศิริ และเปิดสำนักงาน 4 แห่งคือ เกาะกง (ดาราซากอร์) เกาะรง (สีหนุวิลล์) พระตะบอง เสียมราฐ โดยใช้ท่าเรือบุญศิริเรือเร็ว บ้านหาดเล็ก เป็นจุดรองรับและกระจายนักท่องเที่ยว พร้อมกับเปิดเส้นทางรถยนต์จากกัมพูชา พระตะบอง เสียมเรียบ เข้าทางด่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด จ.จันทบุรี มาลงเรือที่ท่าเรือแหลมศอก จ.ตราด อีกเส้นทางหนึ่ง

เมื่อศึกษาข้อมูลได้ระยะหนึ่ง จึงตัดสินใจเปิดเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงไทย-กัมพูชา 2 เส้นทางคือ ทางรถยนต์จากเสียมเรียบ พระตะบอง-ด่านบ้านผักกาด และท่าเรือแหลมศอก และเส้นทางจาก กรุงเทพฯ พัทยา ไปเกาะกูด เกาะหมาก เกาะช้าง และข้ามชายแดนจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ไปลงเรือที่ท่าเรือดาราซากอร์ (เกาะกง) ไปเกาะเจ้า และเกาะรง ของสีหนุวิลล์ โดยสร้างท่าเรือห่างจากจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก 6-7 กิโลเมตร เริ่มเปิดบริการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 66

นางสาววิยดาบอกว่า ปีแรกลงทุน 50 ล้านบาท ตั้งเป้าคุ้มทุนภายใน 5 ปี ตอนนี้เปิดมา 1 เดือนยังประเมินอะไรได้ไม่มาก และช่วงไฮซีซั่นของกัมพูชาเริ่มเดือนพฤศจิกายน-มกราคม บจก.บุญศิริฯ ถือเป็นเอกชนรายแรกที่เข้ามาทำ คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 ปีในการสื่อสาร เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศวางแผนการเดินทาง ตอนนี้ได้นักท่องเที่ยวที่วางแผนเดินทางระยะสั้น ๆ ตั้งเป้านักท่องเที่ยวไว้ 50% ในแต่ละเที่ยวรถบัส ทางเรือเช่นเดียวกันมีเรือสปีดโบต 15 ที่นั่ง และเรือคาตามารัน 40 ที่นั่งด้วย

3 เกาะตราดแม็กเนตสำคัญ

นางสาววิยดากล่าวว่า ปกตินักท่องเที่ยวที่ไปเกาะรง (สีหนุวิลล์) จะมาจาก 3 เส้นทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ พัทยา และนักท่องเที่ยวที่มาจากเกาะช้าง เกาะกูด เกาะหมาก ซึ่งส่วนใหญ่ 90% เป็นชาวต่างประเทศ จากนั้นจะเดินทางต่อไปยังประเทศอื่น ๆ และเดินทางกลับประเทศ เป็นการเดินทางวันเวย์ ไม่กลับเส้นทางเดิม

ซึ่งการเดินทางไทย-กัมพูชาใช้เวลาเพียง 7 ชั่วโมง คือนั่งรถจากกรุงเทพฯ มาท่าเรือหาดเล็กของ บจก.บุญศิริฯ ไปชายแดนจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด และเดินทางด้วยรถยนต์ต่อไปที่ท่าเรือดาราซากอร์ ใน จ.เกาะกง ระยะทาง 150 กม. ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง และนั่งเรือสปีดโบตไปเกาะกงอีก 30-45 นาที เช่นเดียวกับการเดินทางเข้ามาทางเสียมราฐ พระตะบอง จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด จันทบุรี มาท่าเรือแหลมศอก ใช้เวลา 7 ชั่วโมงเช่นกัน

การเดินทางด้วยเครื่องบิน ต้องลงที่สีหนุวิลล์ หรือพนมเปญ เสียมราฐ ต้องต่อรถและมาลงเรือไปเกาะรงอีก จะใช้เวลามากกว่านี้ และค่าใช้จ่ายเครื่องบินประมาณ 10,000 บาท/คน ไม่รวมค่ารถยนต์ ค่าเรือ เปรียบเทียบกับเส้นทางที่ บจก.บุญศิริฯ เปิดให้บริการ 2,100 บาท/คนถูกกว่าเกือบ 5 เท่า และค่าโดยสารรถยนต์จากเสียมราฐ-ท่าเรือแหลมศอก 1,500 บาท/คน ความสะดวกสบายและประหยัดจะทำให้นักท่องเที่ยวสนใจใช้เส้นทางนี้เพิ่มขึ้นในอนาคต

นักท่องเที่ยวต่างประเทศส่วนใหญ่ที่ไปเที่ยวเกาะรง ส่วนใหญ่เป็นแถบยุโรป ต้องการสัมผัสกับบรรยากาศความสวยงามตามธรรมชาติ เงียบสงบ และสนุกกับกิจกรรมดำน้ำ ขี่มอเตอร์ไซค์รอบ ๆ เกาะ หรือพักผ่อนอยู่ชายหาด โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ต้องการเดินทางมาพักผ่อนเชื่อมโยงกับประเทศไทย ซึ่ง จ.ตราด มีเกาะกูด เกาะหมาก และเกาะช้างเป็นแม็กเนตที่สำคัญ ซึ่งทางจังหวัดตราดต้องหาแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ บนฝั่งเพิ่มขึ้นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว บริษัทพร้อมหานักท่องเที่ยวไปได้

นางสาววิยดากล่าวว่า ปัจจุบันการเดินทางเข้า-ออกจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก บริเวณหน้าด่านคับแคบ และมีรถตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งสินค้าจอดคิวยาว ทำให้ไม่สะดวก บางครั้งการทำหนังสือเดินทางออกจากไทยและเข้ากัมพูชาล่าช้า ในขณะที่การเดินทางต้องตรงเวลา เพราะต้องไปลงเรือที่ดาราซากอร์

ส่วนนักท่องเที่ยวคนไทยสนใจเส้นทางนี้ แต่การเดินทางต้องใช้หนังสือเดินทาง (passport) เพิ่มค่าใช้จ่ายอีก 1,000 บาท/คน ถ้าเป็นไปได้ การเดินทางกับบริษัทต้องมีการทำประกัน การยื่นเอกสารต่าง ๆ อยู่แล้ว ถ้าให้บริษัทรับผิดชอบ ให้มีการเดินทางไป-กลับอย่างถูกต้อง โดยมีการเจรจาระหว่างภาครัฐของไทย-กัมพูชา ปลดล็อกให้ใช้บัตรประชาชนใบเดียว จะทำให้นักท่องเที่ยวไทยขยายตัวเพิ่มขึ้น

ที่ตั้งท่าเรือคลองใหญ่ไม่เวิร์ก

นายทศพลบอกว่า ท่าเทียบเรืออเนกประสงค์คลองใหญ่ครั้งแรกอยู่ในความสนใจ แต่ความชัดเจนในการใช้ประโยชน์มีข้อยุ่งยาก ทั้งหน่วยงานที่อนุญาต ค่าใช้จ่ายที่สูงมาก รวมทั้งสภาพของท่าเรือไม่เหมาะกับการท่องเที่ยวซึ่งต้องมีสถานที่พักผ่อนสบาย ๆ นั่งทานอาหาร-เครื่องดื่ม รอเวลาเดินทางต่อ จะต้องสร้างความประทับใจ จึงตัดสินใจลงทุนสร้างท่าเรือเองที่บ้านหาดเล็ก 30 ล้านบาท พร้อมสำนักงาน จุดแวะพักบริการ-อาหาร บรรยากาศติดชายทะเล อยู่ใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา เพียง 5-6 กม. ใช้เวลาเดินทาง 5-10 นาที

แต่ที่ตั้งท่าเรือคลองใหญ่ต้องผ่านเข้าไปในชุมชน ไม่ติดถนนสายหลักสุขุมวิท ห่างชายแดน 14-15 กม. ตอนนี้ใช้ท่าเทียบเรือของเอกชนที่อยู่ใกล้ ๆ ไปก่อนระหว่างรออนุญาตจากกรมเจ้าท่าคาดว่าประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2567 จะก่อสร้างท่าเรือได้