โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

เกิดทัน “บิ๊กเมาน์เท่น” เจ้าแรกเทศกาลดนตรีของประเทศไทย!

TheHippoThai.com

เผยแพร่ 12 พ.ย. 2562 เวลา 01.00 น. • THE HIPPO | Another Point Of View

หนึ่งทศวรรษยังตรึงใจ เมื่อวัยรุ่นไทยหอบเสื้อผ้าไปค้างแรม นอนดูดาวเคล้าเสียงเพลง ท่ามกลางคอนเสิร์ตแห่งความทรงจำ จากวันนั้นสู่วันนี้กับวัฒนธรรมทางดนตรีที่ยังชวนให้นึกถึง

วูดสต็อกแห่งสยามประเทศ  เมื่อ 50 ปีก่อนสมัยบุพผาชนเบ่งบาน เคยมีปรากฏการณ์ทางดนตรีอย่าง วูดสต็อก ( Woodstock Music & Art Fair 1969 ) ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญของโลก เมื่อผู้คนไปกินนอนอยู่ในลานขนาดใหญ่ มีวงดนตรีผลัดกันขึ้นไปแสดงสดต่อเนื่อง ทั้งวันทั้งคืนในฟาร์ม แล้วปล่อยเอาจิตวิญญาณออกมากับเสียงดนตรีนั้น เป็นความทรงจำที่คอเพลงมิอาจลืมเลือน หลายแห่งในมุมโลก ก็อยากจะสร้างกลิ่นไอแบบนี้บ้างในประเทศของตน สำเร็จบ้าง ไม่เห็นผลบ้าง

ซัมเมอร์โซนิค ( Summer Sonic ) เทศกาลดนตรีร็อกที่ญี่ปุ่น ดูจะสร้างกระแสให้ผู้คนได้ใกล้เคียง มีคนตอบรับมากมายและเป็นต้นแบบให้เทศกาลดนตรีอื่นในยุคมิลเลนเนียม ได้เดินรอยตามนับตั้งแต่ ปี ค.ศ.2000  และ แกลสตันบูรี ของอังกฤษ ที่มีผู้ชมนับแสนคนต่อครั้ง และ Glastonbury นี้เอง ได้จุดประกายให้ไปสู่แนวคิดคอนเสิร์ตบนพื้นหญ้า

มันใหญ่ มาก อุบัติการณ์ทางดนตรี เมื่อแนวคิดการนำศิลปินไม่จำกัดค่ายเพลง ไม่จำกัดแนว มาผลัดกันขึ้นเวทีคอนเสิร์ตระเบิดความสะใจให้ผู้ชมได้เสพ ภายใต้แนวคิดให้ไปกินค้างอ้างแรมกันที่เขาใหญ่ นอนเต็นท์ เล่นดนตรีกันทั้งวันทั้งคืน มีร้านค้า มีบาร์ให้สานต่ออารมณ์ แล้วมันก็นำเอาวัยรุ่นทั่วสารทิศเกือบสามหมื่นคนไปรวมกันไว้ในนั้น โดยกำหนดไว้วันที่ 5 และ 6 กุมภาพันธ์ 2553

 

130 ศิลปิน แฟนเพลงที่ทราบข่าวถึงกับเขี่ยหูฟังกันอีกรอบ เมื่อสื่อเริ่มกระจายข่าวว่าจะมีการรวมตัวทั้งศิลปินค่ายเพลง และศิลปินอิสระรวม 130 ชีวิตมาผลัดกันแสดงให้ผู้ชมได้ฟัง แบ่งเป็นเวทีต่าง ๆ ให้เลือกสรร สร้างความแปลกใหม่ และเป็นที่สนใจเป็นอย่างมาก บัตรคอนเสิร์ตถูกขายผ่านเว็บไซต์และหมดในระยะเวลาอันรวดเร็ว แม้จะเป็นคอนเสิร์ตที่จัดในต่างจังหวัดก็ตาม

แจ้งเกิดโบนันซ่า เมื่อโรงแรมที่ใช้เป็นที่พักผ่อนและสัมมนาประชุม ถูกจัดพื้นที่ไว้รองรับเทศกาลครั้งนี้ ก็พลอยทำให้โบนันซ่า เขาใหญ่ ถูกจดจำไว้ว่าเป็นแลนด์มาร์กของเขาใหญ่ไปโดยไม่รู้ตัว รถที่หลั่งไหลเข้าไปบนถนนมิตรภาพตั้งแต่ เย็นวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2553 ทำเอารถติดเป็นทางยาว ที่จอดรถไม่พอ บ้างก็ต้องนั่งรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างเพื่อเข้าไปยังงาน

6 เวที 4000 เต็นท์ ค่านิยมใหม่ของการไปคอนเสิร์ต เพราะแม้จะเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน อาจจะมีรสนิยมการฟังเพลงที่แตกต่างกันไป คอนเสิร์ตจัดเวทีไว้ 6 รูปแบบ กลิ่นของแนวเพลงต่างกันไป  แม้มาด้วยกันแต่ก็อาจจะแยกกันไปชมดนตรีในแบบที่ตัวเองชอบ แล้วกลับมานอนยังเต็นท์ที่ตั้งเรียงรายถึง 4,000 หลัง ตื่นขึ้นมายังออกไปฟังกันได้ต่อ โดยไม่ต้องสนใจเงื่อนไขของเวลา

ข้าวไข่เจียว สิ่งที่กลายมาเป็นเครื่องเคียงเทศกาลดนตรี เพราะความง่ายและราคาไม่แพง ประกอบกับข้าวสวยที่หุงร้อนท่ามกลางลมเย็น ไข่ใบใหญ่ติดน้ำมัน เยิ้มโปะลงบนข้าว ซอสพริกหรือซอสมะเขือเทศให้เลือกสรร เหยาะด้วยซอสถั่วเหลืองฝาเขียว ว่ากันว่า มีไข่กว่า 10,000 ใบ ถูกตอกลงกระทะในคืนนั้น

ปลอดสิ่งเสพติด เพราะวูดสต็อกทำให้คนจดจำในภาพที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เนื่องจากมีการตรวจพบการใช้กัญชาและสิ่งเสพติดในระหว่างการชมคอนเสิร์ต “ป๋าเต็ด” ยุทธนา บุญอ้อม บิดาผู้ให้กำเนิด Big Mountain Music Festival ได้ให้ความสำคัญกับการเป็น คอนเสิร์ตสะอาด แม้จะมีแอลกอฮอล์บ้าง แต่เมื่อเทียบกับปริมาณคนมหาศาล การจัดการดูแลเรื่องความปลอดภัยถือว่าเต็มสิบ กระทั่งบาร์ขนาดเล็กที่เปิดจำหน่ายแอลกอฮอล์ในงาน ก็มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยตรวจตราดูแล  ผู้ที่ไปร่วมงานจะเต็มอิ่มกับการเสพดนตรี และวัฒนธรรมเทศกาลอย่างแท้จริง

ระบบเสียงอันน่าทึ่ง แม้เป็นลานโล่งท่ามกลางหุบเขาและไอหมอก แต่เวทีซึ่งตั้งห่างกันไม่มาก กลับไม่ได้ทำให้ระบบเสียงของแต่ละ stage มาซ้อนทับกันแต่อย่างใด นับเป็นมิติใหม่แห่งการจัดงานเทศกาลคอนเสิร์ตในระบบมัลติซาวด์  วัยรุ่นต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า งานนี้ คุ้มเกินคุ้ม

ฉี่กลางแสงดาว ห้องน้ำชายเป็นประสบการณ์อันเลอค่าที่วัยรุ่นชายทุกคนจะจดจำมัน เมื่อได้ยืนฉี่กลางแสงจันทร์และหมู่ดาว กับเพื่อนร่วมโถกักของเหลวขนาดใหญ่ที่ไม่ได้รู้จักมักจี่ สบตากันมีเสียงเพลงลอยมา บอกเลยว่า มันยอดมาก !

นักร้องเวทีเล็กแต่ใจใหญ่  Big Mountain Music Festival ( BMMF ) ได้มีพื้นที่ให้นักร้องค่ายอิสระ หรือศิลปินโนเนม มีโอกาสได้ใช้เวทีในการแสดงความสามารถ ในคอนเสิร์ต BMMF ครั้งที่ 1 ก็เช่นกัน ศิลปินหลายท่านได้ถือกำเนิดตัดสายสะดือจากเทศกาลนี้ แล้วกลายเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงในเวลาต่อมา

ศิลปินต่างประเทศ ได้มีพื้นที่มาแสดงบนเวที แม้จะไม่ใช่เวทีหลัก แต่ก็เป็นทางเลือกให้เทศกาลได้มีกลิ่นเพลงอันแตกต่างและแปลกใหม่ ตอบโจทย์เต็มอารมณ์ให้คนฟังที่นิยมความสากลและแสวงหาทางเพลงอันถูกหู

10 ปี มันใหญ่มาก เดินทางมาได้อย่างเต็มภาคภูมิ กับบัตรจำนวนผู้ชมทวีคูณกว่าครั้งที่ 1 เมื่อผู้ชมเริ่มตอบรับและแย่งกันซื้อบัตร Early Cow จนไม่เพียงพอ แถมยังมีคิวศิลปินที่อยากใช้เวทีนี้ เติบโตและมีชื่อเสียงกันต่อไป วัฒนธรรมของมันใหญ่มาก ถูกถ่ายทอดลงไปสู่ภาพยนตร์ ( ปิดเทอมใหญ่ หัวใจว้าวุ่น ) หรือ ซีรีส์ ( ฮอร์โมน ) จนสร้าง Culture ให้วัยรุ่นรู้สึกว่า อยากไปสัมผัส

สักครั้งในชีวิต การไปคอนเสิร์ต BMMF นอกจากจะสร้างความบันเทิงแล้ว กว่าครึ่งของผู้ชมเป็นการเดินทางไป “เขาใหญ่” เป็นครั้งแรก คนดูจะได้เรียนรู้การจองรถ เดินทาง และการพาตัวเองจากบ้านไปสู่ภูเขาและแสงดาว ดังนั้นการไป Big Mountain Music Festival จึงเป็นประสบการณ์ที่วัยรุ่นในปีนั้นอยากเก็บไว้ในความทรงจำ

ศิลปินคนโปรดไม่ใช่หัวใจหลักของเทศกาลดนตรี แต่การได้ไปฟังเพลงที่ไม่เคยคุ้นหู หรือพบกับนักร้องใหม่ ผู้ฟังอาจได้ศิลปินคนโปรดคนใหม่กลับบ้าน ได้เรียนรู้ความลำบากจากฟ้าฝนที่ไม่เป็นใจ เต็นท์ที่นอนไม่ได้สบายเหมือนฟูกที่บ้าน การโดนมอเตอร์ไซค์รับจ้างโก่งราคา บ้างก็ของกินไม่เพียงพอ สิ่งเหล่านี้ รวมกันเป็นเสน่ห์ของเทศกาลดนตรีที่ผู้ฟังต้องได้สัมผัส แล้วก็โหยหาที่จะกลับไปทุกปี

 

picture credit

pantip.com

- Thai Concert Club

- BigMountainMusicFestival.com

 

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...