โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

เริ่มมาก็ยากเลอที่เยอรมนี! รีวิวพิชิตทุนยุโรป Erasmus+ เรียนฟรีสาขา Medical Tech. & Business ปูพื้นฐานเข้มข้นพร้อมลุยต่อ 3 ประเทศ

Dek-D.com

อัพเดต 18 พ.ย. 2567 เวลา 15.16 น. • เผยแพร่ 15 พ.ย. 2567 เวลา 10.05 น. • DEK-D.com
แชร์ประสบการณ์ตรงโดย

สวัสดีค่ะชาว Dek-D ช่วงนี้หลายคนคงเริ่มได้ยินชื่อทุน Erasmus Mundus กันบ่อยขึ้น เพราะเป็นโครงการที่มหาวิทยาลัยที่มีจุดแข็งด้านต่างๆ ในยุโรป (หรืออาจมีพาร์ตเนอร์จากภายนอก) ได้มาร่วมมือกันเปิดสอนโปรแกรมระดับปริญญาโท ซึ่งมีให้เลือกสมัครหลากหลายและน่าสนใจมากตั้งแต่ชื่อสาขาเลยค่ะ! เอกลักษณ์ของทุนนี้คือได้ย้ายประเทศทุกเทอม เริ่มต้นที่ 2 ประเทศขึ้นไป แต่จะไปที่ไหนก็ขึ้นอยู่กับว่าโปรแกรมนั้นเกิดจากความร่วมมือของสถาบันใดบ้างนั่นเอง การปรับตัวเพื่อเรียนและใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมใหม่จึงเป็นสิ่งที่น่าสนุกและท้าทายในเวลาเดียวกัน

และวันนี้เราจะพาไปรู้จัก "พี่มิ้นท์-ภัครมัย คูหาชัยสกุล" เด็กทุน ERASMUS+ คนไทยคนแรกของโปรแกรม ป.โท Euro-Asian Master in Medical Technology and Healthcare Business (EMMaH)ซึ่งจะได้ไปเรียนที่เยอรมนี ฝรั่งเศส โปรตุเกส และสามารถเลือกไปฝึกงาน + ทำธีสิสที่มหาวิทยาลัยที่โดดเด่นด้านการแพทย์ของไต้หวันได้เช่นกัน

เริ่มจากที่มาที่ไป การเตรียมตัวสมัครทุน รีวิววิชาเรียนที่กำลังเจอ และ #รีวิวเยอรมนี เล็กๆ น้อยๆ ตามไปเก็บข้อมูลกันเลยค่าา

เหตุเกิดจากเครื่องวัดความดัน

มันทำงานยังไงนะ?

ต้องเล่าย้อนไปตอนเด็กเลยค่ะ มิ้นท์เคยไปโรงพยาบาลกับพ่อแม่ แล้วก็เริ่มสงสัยตั้งแต่เครื่องวัดความดันว่าการทำงานเป็นแบบไหน อะไรอยู่เบื้องหลังการทำงานของเครื่องมือแพทย์แต่ละอย่าง ทีนี้ช่วงที่เรียน ม.6 (สายวิทย์) เรายังไม่แน่ใจเลยค่ะว่าจะต่อ ป.ตรี คณะไหน แต่ที่บ้านซัปพอร์ตมากๆ ช่วยไปหางาน Open House จนได้รู้จักกับสาขา Biomedical Engineering ที่มีเปิดสอนในอเมริกา แล้วเขาแชร์มาให้ตอนที่เรากำลังไปแลกเปลี่ยนที่อเมริกา

ความรู้สึกตอนนั้นคือ เฮ้ย สาขานี้มันว้าวนะ! ตอนนั้นยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในไทย แต่กำลังมาแรงในต่างประเทศ เราก็เก็บไว้ในใจก่อน แล้วเรียนต่อ ป.ตรี สาขา สาขาวิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.มหิดลค่ะ

ตลอด 4 ปีที่มหิดลคือการเรียนแบบเข้มข้นสุดๆ ช่วงปี 1-2 เจอวิชาพื้นฐานของทั้งฝั่ง Engineering + Medical รวมๆ กัน 10 วิชา และต้องสอบเกือบทั้งหมด ทั้งเยอะและเจอช่วงโควิด-19 ที่ต้องเรียนออนไลน์ด้วย พอปี 3 ก็ผ่อนคลายขึ้นเพราะวิชาเรียนน้อยลง เจาะเรื่องเครื่องมือแพทย์ และเน้น Practical มากขึ้น ได้เริ่มมาเรียนคลาสจริง เจอเพื่อนๆ แล้วยังได้ไปฝึกงานที่ออสเตรเลียด้วย พอขึ้นปี 4 เราสามารถเลือกได้ว่าจะลงลึกสาขาไหน ตอนนั้นมิ้นท์เลือกไบโอเซนเซอร์และอุปกรณ์การแพทย์

"ตอนแรกยังไม่คิดจะเรียนต่อ ป.โท

เพราะเพิ่งผ่านการเรียนหนักๆ มา 4 ปี"

แต่ปรากฏว่าเราเห็นเพื่อนส่วนมากในคณะ ตัดสินใจเรียนต่อเพื่อนำความรู้ไปจับกับศาสตร์อื่นๆ เพื่อให้ตัวเลือกการทำงานมีมากขึ้น เพราะสำหรับงานที่ตรงสายในไทย ส่วนมากจะอยู่ในห้องแล็บ โรงพยาบาล หรือมหาวิทยาลัย จุดนั้นมิ้นท์ตัดสินใจไปเรียนต่อต่างประเทศ และเลือกโซนยุโรปเพราะความก้าวหน้าของวิทยากรและเทคโนโลยี แล้วพยายามหาทุนเรื่อยๆ จนมาเจอทุน ERASMUS+ ของสหภาพยุโรป

ทุน ERASMUS+ เป็นทุนเต็มจำนวน (Fully-funded Scholarship) ครอบคลุมค่าเรียนและมีเงินเดือนให้ ได้ย้ายมหาวิทยาลัยที่เรียนทุกเทอม ไม่ต้องใช้ทุนหลังจบ และไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ทำงานมาก่อนก็สมัครได้

พอรู้จักทุนแล้ว มิ้นท์ก็มาเปิดดูโปรแกรมทั้งหมดจาก[Erasmus Mundus Catalogue]จนมาเจอชื่อสาขานึงที่ตรงใจมากก นั่นคือ Medical Technology and Healthcare Business ซึ่งเป็นหลักสูตรสหสาขาวิชาชีพ ที่มุ่งเน้นการศึกษาด้านเทคโนโลยีการแพทย์ผ่านหลากหลายสาขา ได้แก่ วิศวกรรมชีวการแพทย์ เวชศาสตร์คลินิก และธุรกิจ Healthcare เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายของอุตสาหกรรม MedTech ที่เติบโตและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว(อ้างอิง: https://master-emmah.eu/)

โปรแกรมนี้เลยได้ประยุกต์ความรู้พื้นฐานจากตอน ป.ตรี แล้วเสริมเรื่องธุรกิจเข้าไป จึงตอบโจทย์เป้าหมายอาชีพสูงสุดของเราที่อยากพัฒนาและทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องมือแพทย์ค่ะ เท่าที่เห็นรุ่นพี่ส่วนใหญ่ จบไปทำงานสาย Project/Product Manager หรือ Engineer โดยเฉพาะ R&D ค่ะ

รีวิวสมัครทุน Erasmus+

  • โปรแกรมนี้กำหนดภาษาอังกฤษระดับ B2ขึ้นไป (ดูเกี่ยวกับ CEFR )
  • หากเรียนจบ ป.ตรี จากสาขา Biomedical Engineering,, Medical Tech, Radiology หรือที่เกี่ยวข้อง จะได้รับพิจารณาเป็นพิเศษ
  • ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ทำงานมาก่อน

ตอนนั้นมิ้นท์ยื่นคะแนนIELTS 7.5กับ GPA ตอน ป.ตรี ประมาณ 3.7 กว่าๆกรณีมิ้นท์คือจบ Biomedical Engineering มาโดยตรง ส่วนประสบการณ์อื่นๆ ที่หยิบมานำเสนอด้วยคือตอนปี 2017-2018 ไปแลกเปลี่ยนที่อเมริกา และปี 2023 ได้ไปฝึกงานที่ Monash University, Australia ผ่านโครงการความร่วมมือของมหาวิทยาลัยค่ะ

ทั้งนี้ เกณฑ์การคัดเลือกแต่ละปีอาจไม่เหมือนกัน แต่ของปีนี้มี Online Application 40%ประกอบด้วย Academic 30% + Experience 5% + Motivation 5% นอกนั้นเป็น Online interview 60%ตอนสัมภาษณ์มิ้นท์ไม่เจอคำถามเฉพาะทางเลย ส่วนตัวคิดว่าอาจารย์ที่สัมภาษณ์มิ้นท์อยากวัดระดับภาษาอังกฤษว่าจะเรียนไหวไหม และมีถามเราจาก CV กับ Motivation Letter ที่เรายื่นส่งไปตอนสมัคร ดังนั้นการรู้จักตัวเองสำคัญมากๆ ค่ะ

ศึกษาเกี่ยวกับทุน Erasmus Mundus

โปรแกรม EMMaH เรียนที่ไหนบ้าง?

ต้องบอกว่าจริงๆ โปรแกรมนี้มีมาน่าจะเกือบ 10 ปีแล้ว เมื่อก่อนเป็นความร่วมมือของ 3 สถาบันที่เยอรมนี โปรตุเกส กับฝรั่งเศส แต่ช่วง 2 ปีหลังมานี้เพิ่งมีสถาบันมาเพิ่มอีก 1 แห่งคือTaipei Medical University (TMU) ไต้หวัน ทำให้ชื่อโปรแกรมมีคำว่า Asian เพิ่มขึ้นมาด้วย

  • เทอมที่ 1 : HAW-Hamburgประเทศเยอรมนี
  • เทอมที่ 2 : P.PORTOประเทศโปรตุเกส
  • เทอมที่ 3 : Université de Lilleประเทศฝรั่งเศส
  • เทอมที่ 4 : มีตัวเลือกคือ (1) ทำวิทยานิพนธ์อย่างเดียว (2) ฝึกงานแล้วกลับมาเขียนวิทยานิพนธ์ ไม่ได้กำหนดว่าต้องฝึกงานที่ไหน แต่เขาแนะนำให้ฝึกภายในเยอรมนี โปรตุเกส ฝรั่งเศส หรือไต้หวัน เพื่อจะได้ติดต่อกับอาจารย์ที่ปรึกษาได้ง่ายค่ะ

ตอนนี้กำลังเรียนเทอม 1 ที่เยอรมนี

ตอนนี้มิ้นท์เพิ่งมาเริ่มเรียนเทอมแรกที่Hamburg University of Applied Sciencesมาจากภาษาเยอรมันว่า Hochschule für Angewandte Wissenschaften Hamburg ดังนั้นเลยเป็นตัวย่อ HAW-Hamburg มหาวิทยาลัยตั้งอยู่ที่ "เมืองฮัมบวร์ค" (Hamburg) เป็นเมืองท่าขนาดใหญ่ที่คนอยู่เยอะเป็นอันดับต้นๆ ในเยอรมนี บรรยากาศคึกคักมีชีวิตชีวาคล้ายกับกรุงเทพฯ ในขณะเดียวกันก็ยังคงมีกลิ่นอายของเมืองเก่า เราสามารถเห็นโบสถ์หรือซากปรักหักพังที่ผ่านการบูรณะมาแล้ว แต่ยังคงมีร่องรอยประวัติศาสตร์ให้เห็น

ด้วยความที่เยอรมนีเป็นประเทศที่สตรองในสาย Engineer แถม HAW-Hamburg ยังเป็นมหาวิทยาลัยกลุ่ม University of Applied Scienes ดังนั้นต่อให้เป็นวิชาที่เคยเรียนตอน ป.ตรี ก็ยากขึ้นแบบก้าวกระโดดเหมือนเป็นเรื่องใหม่ พื้นฐานต้องแน่นพอสมควรถึงจะเรียนตามทัน

ยิ่งไปกว่านั้นคือนอกจากเพื่อนร่วมรุ่น 19 คนแล้ว บางวิชาเรายังได้้เรียนกับเด็ก ป.โท Biomedical Engineering ด้วย ซึ่งส่วนใหญ่คนที่จบ ป.โท มักจะจบ ป.ตรี จากเยอรมนี สภาพแวดล้อมเลยทำให้เรารู้สึกต้องยิ่งขยันขึ้นอีกค่ะ!

แต่ละเทอมเรียนอะไรบ้าง?

(อ้างอิงข้อมูล 10 พ.ย. 2024)

วิชาเรียนเทอม 1

HAW-Hamburg ประเทศเยอรมนี

  • Project Seminar in Engineering
  • HTA/ Regulatory Affairs
  • Numerical Mathematics
  • Simulation and Virtual Reality in Medicine
  • Advanced Control Systems
  • Modelling Medical Systems

ถ้าเป็นวิชา Lecture-based ก็จะมีNumerical Mathematics, Advanced Control Systems และ Modelling Medical Systemsอาจารย์จะมีสอนเล็กน้อยแล้วตั้งคำถาม ถ้าตอบผิดเขาจะอธิบาย แต่อย่างน้อยต้องตอบคลาสถึงจะดำเนินต่อค่ะ

นอกนั้นจะเป็นวิชา Project-based และส่วนใหญ่เป็นงานกลุ่ม ถ้าเป็นแนวนี้จะเปิดมาด้วยอาจารย์ให้กำหนด คำถามวิจัย หรือบางวิชาก็กำหนดหัวข้อให้แต่ละกลุ่มเลือกทำแบบไม่ซ้ำกัน อาจมีไกด์ไลน์และเปเปอร์ให้เราไปศึกษา ถ้ามีคำถามคุยกับอาจารย์ได้ แต่หลักๆ คือค้นคว้านอกห้องเอง

เท่าที่เรียนมา มิ้นท์ว่าค่อนข้างมีเครื่องมือพร้อม อย่างในวิชา Project Seminar in Engineeringเราจะทำได้โพรเจ็กต์เกี่ยวกับ AR (Augmented reality) หรือเทคโนโลยีที่ผสานโลกความจริงเข้ากับข้อมูลเสมือน แล้วจะต้องใช้ แว่นอัจฉริยะ (HoloLens)ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับสร้างภาพ Hologram ของวัตถุตรงหน้า เขาก็มีแจกให้เราให้นักศึกษายืมใช้กลุ่มละอันเลยค่ะ

วิชาเรียนเทอม 2

P.PORTO ประเทศโปรตุเกส

  • Project Seminar in Health
  • Medical Imaging Technologies and Devices
  • Medical Measurement Techniques
  • Applied Clinical Imaging
  • Applied Clinical Signals
  • Human-Technology Interaction on Clinical Environment

วิชาเรียนเทอม 3

Université de Lille ประเทศฝรั่งเศส

  • Project Seminar in Healthcare Business
  • Principles of Marketing in the Healthcare Business
  • International Healthcare Marketing and Business
  • Marketing for Innovative Medical Technology
  • Legal and regulatory considerations in the Healthcare industry
  • Industrial Purchasing Outsourcing in the Healthcare Industry

เทอมสุดท้าย เลือกจบได้ 2 วิธี

  • ไปเรียนเทอมสุดท้ายที่ TMU ไต้หวัน และทำวิทยานิพนธ์จบ
  • เลือก Intern ในบริษัทหรือศูนย์วิจัย แล้วกลับมาเขียนวิทยานิพนธ์จบ EMMaH - project overview

ขอยกให้เรื่องนี้ท้าทายสุด!

ถึงมิ้นท์จะเคยแลกเปลี่ยนที่อเมริกาและฝึกงานที่ออสเตรเลีย แต่ทั้งคู่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ ในขณะที่โปรแกรม EMMaH ที่ให้ไปเรียนที่เยอรมนี ฝรั่งเศส โปรตุเกส และไต้หวัน ไม่มีที่ไหนใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักเลยค่ะถ้าเกิดไม่มีพื้นภาษานั้นๆ มาก่อนจะใช้ชีวิตยากขึ้นแน่นอน ช่วงแรกๆ อาจต้องพึ่ง Google Map กับ Google Translate ตลอดเวลา

จริงๆ คนเยอรมันส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษได้นะ แต่เขาจะพยายามคุยเป็นเยอรมันก่อน เราอาจเป็นฝ่ายเริ่มขอให้เขาคุยเป็นภาษาอังกฤษ ดังนั้นแนะนำว่าถ้าใครพอมีเวลา + แผนนิ่งแล้วว่าต้องไปเรียนที่ไหน อยากให้เตรียมเรียนภาษาของประเทศนั้นเตรียมไว้ดีกว่า (ตอนนี้มิ้นท์เพิ่งกำลังเริ่มเรียนภาษาเยอรมันค่ะ)

อยากเรียนต่อเอมม่าติดตามไว้

สำหรับน้องๆ ที่อยากติดตามข่าวสารการรับสมัคร หรือบรรยากาศการเรียน การทำงานกิจกรรม แนะนำให้ติดตาม Instagram ช่องทางหลักของโปรแกรมนี้ emmah.euroasian_masterอัปเดตเรื่องการรับสมัคร และข่าวสารกับกิจกรรมของเด็ก EMMaH ของรุ่นก่อน (ตอนนี้อยู่ฝรั่งเศส) และรุ่นมิ้นท์ (กำลังเรียนเทอมแรกที่เยอรมนี)

และตอนนี้มิ้นท์มีโอกาสมาเป็นผู้ดูแล IG อีกแอกเคานต์คือ emmah.cohort24_26ตั้งใจจะแชร์เกี่ยวกับชีวิตนักศึกษาแต่ละวันว่าได้ทำอะไรบ้าง เรียนกันยังไง ฯลฯ ถ้าใครกำลังเก็บข้อมูลประกอบการตัดสินใจ แวะมาเดินเล่นก่อนที่ไอจีนี้ได้นะคะ <3

เว็บไซต์หลักสูตร EMMaH

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...