การเป็น “คนรวย” หมายถึงอะไร? หลายคนอาจนึกถึงชีวิตหรูหรา เช่น การนั่งบนเรือยอชต์ สวมใส่นาฬิกา Rolex จิบไวน์ สะสมรถสปอร์ตคันละสิบล้านร้อยล้าน หรือใช้เงินซื้อของได้อย่างไร้ขีดจำกัด
ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจถูกสร้างขึ้นมาจากหนี้กองพะเนิน พวกเขาอาจมีบ้าน มีรถ มีของสะสมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ในขณะเดียวกันพวกเขาก็อาจมีภาระหนี้สินรวม ๆ ซ้ำกว่า 100 ล้านบาท ทำให้ความมั่งคั่งของพวกเขาแทบจะเป็นศูนย์ หรือกระทั่งติดลบด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม น้อยคนนักจะทราบว่า ความรวยอย่างแท้จริง นั้นเป็นเรื่องของมุมมองและความแตกต่างในสังคมต่างหาก
นิยามของคำว่า “รวย”
สำหรับชาวอเมริกัน ผลสำรวจจาก Charles Schwab ระบุว่า ความมั่งคั่งสุทธิที่ 2.5 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 84 ล้านบาท คือจุดที่ทำให้คนถูกมองว่า “รวย” ที่สมควรเป็นเศรษฐีนั่นเอง
โดยตัวเลขเศรษฐีที่มีสินทรัพย์สุทธิ 84 ล้านบาท นั้นมีจำนวนเพิ่มขึ้น 14% จากปี 2023 โดยยังขึ้นอยู่กับสถานที่และปัจจัยส่วนบุคคล เช่น ภาระหนี้สิน ค่าใช้จ่ายในครัวเรือน และรายจ่ายด้านสุขภาพ
ความรวยไม่มีตัวเลขตายตัว แต่อิงจากปัจจัยหลัก ๆ ดังนี้
- ทรัพย์สิน: การลงทุนในหุ้น การรับผลตอบแทนจากอสังหาริมทรัพย์ หรือการออมเงินในสินทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ยสูง การสร้างรายได้ในลักษณะนี้ช่วยให้คุณมีเวลามากขึ้นและยังเพิ่มความมั่งคั่งได้ในระยะยาว
- รายได้ที่เพียงพอ: ปัจจัยสำคัญในการสร้างความมั่งคั่ง การพัฒนาทักษะเพื่อเพิ่มโอกาสในตลาดแรงงาน หรือการเปลี่ยนงานเพื่อให้ได้เงินเดือนสูงขึ้นก็เป็นแนวทางที่ทำให้รายได้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง สามารถดูแลตัวเองและครอบครัวได้ตลอดชีวิต
- เปรียบเทียบในสังคม: หากคุณอยู่ในประเทศที่คนส่วนใหญ่ไม่สามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ แต่คุณมีรถ นั่นถือว่าคุณรวย ตัวอย่างเช่น ในอเมริกา 86% ของคนมีรถยนต์ ถือเป็นเรื่องปกติ แต่ในประเทศอย่างอินเดียที่มีคนเป็นเจ้าของรถเพียง 3% การมีรถยนต์อาจถือเป็นความมั่งคั่ง
เริ่มต้นวันนี้ไม่สายเกินไป
การลงทุนตั้งแต่อายุยังน้อยช่วยให้เงินเติบโตได้มากขึ้นผ่านดอกเบี้ยทบต้น แต่สำหรับผู้ที่เริ่มช้าก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะการลงทุนที่หลากหลายช่วยป้องกันเงินจากอัตราเงินเฟ้อและเพิ่มความมั่งคั่งได้
สิ่งสำคัญคือไม่ว่าจะเริ่มด้วยการจัดการรายจ่าย ลดหนี้ หรือมองหาวิธีเพิ่มรายได้ การสร้างความมั่งคั่งเป็นสิ่งที่ทุกคนทำได้ ขอเพียงเริ่มต้นวางแผนตั้งแต่วันนี้