ความพยายาม 40 ปี หอยทากจิ๋วแพร่พันธุ์อีกครั้ง หลังสูญพันธุ์ในป่าไปแล้ว
หอยทากจิ๋ว ‘ที่สูญพันธุ์ในธรรมชาติแล้ว’ กำลังกลับมาผสมพันธุ์ในป่าเองอีกครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความพยายาม 40 ปีที่ช่วยเหลือสัตว์ตัวจิ๋วนี้กำลังออกดอกออกผล
เฟรนช์โปลินีเซียที่ห่างไกลในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้เป็นสถานที่อาศัยของสิ่งมีชีวิตที่หลายคนมักมองข้าม นั่นคือหอยทากจิ๋ว Partula tohiveana ซึ่งครั้งหนึ่งในอดีตพวกมันอยู่กันอย่างแพร่หลายในป่าดิบชื้นนี้ ทว่าช่วงปลายทศวรรษ 1980 มนุษย์ก็ได้นำหอยทากอีกสายพันธุ์เข้ามามันคือ หอยทาง Rosy Wolf snail
พวกมันเป็นเอเลี่ยนสปีชีส์สายพันธุ์รุกรานที่ล่าหอยทากจิ๋ว Partula จนทำให้เจ้าตัวเล็กเหล่านี้ลดจำนวนลงอย่างมาก จนถึงขั้นสูญพันธุ์ไปจากป่า นับตั้งแต่นั้นมานักวิทยาศาสตร์ก็ได้พยายามฟื้นฟูสิ่งมีชีวิตชนิดนี้ด้วยการเพาะพันธุ์ในที่เลี้ยงและปล่อยกลับสู่ธรรมชาติ
“นับตั้งแต่เริ่มโครงการในปี 1986 หอยทาง Partula ที่เคยสูญพันธุ์ไปจากป่ากว่า 11 สายพันธุ์มากกว่า 21,000 ตัว ได้รับการปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติอีกครั้งบนเกาะ 4 เกาะของเฟรนช์โปลินีเซีย” Kerry Marcus จากสมาคมสัตววิทยา Bristol ในสหราชอาณาจักร กล่าว
โดยในแต่ละครั้ง หอยทากที่ถูกปล่อยจากโครงการอนุรักษ์จะได้รับการทำเครื่องหมายด้วยสีสะท้อนแสง UV ซึ่งจะทำให้สังเกตเห็นได้ชัดเจนว่าตัวไหนคือมาจากโครงการและตัวไหนมาจากธรรมชาติ โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนซึ่งเป็นช่วงที่หอยทากเคลื่อนไหวกันมากที่สุด
จนกระทั่งในต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ได้ออกสำรวจประจำปีตามปกติ พร้อมกับนำหอยทากไปด้วยเพื่อปล่อยเพิ่ม แต่แล้วเมื่อพวกเขาอยู่ที่เกาะ Mo’orea ทีมสำรวจก็ได้ต้องประหลาดใจเมื่อพบกับหอยทาก Partula ที่ไม่มีเครื่องหมาย ซึ่งหมายความว่าพวกมันกำลังขยายพันธุ์ตามธรรมชาติ
“การค้นพบหอยทากโตเต็มวัยที่เกิดในป่าถือเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม มีสัตว์เพียงไม่กี่สายพันธุ์เท่านั้นที่กลับมาอยู่ในป่าได้อีกครั้ง ดังนั้นมันจึงเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นผลมาจากความพยายามอย่างหนัก” Justin Gerlach จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ นักวิทยาศาสตร์หนึ่งในโครงการกล่าว
นี่นับเป็นข่าวดีของธรรมชาติอย่างแท้จริง เนื่องจากหอยทากที่มีควายาวไม่ถึง 1 นิ้วนี้มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อระบบนิเวศบนเกาะ เนื่องจากพวกมันคอยกินซากพืชซากสัตว์และเชื้อราที่เน่าเปื่อย ซึ่งช่วยให้ป่ามีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น และแลกเปลี่ยนแร่ธาตุกันอย่างสะดวก
“การคืนหอยทากหายากเหล่านี้สู่ธรรมชาติ ทำให้เราสามารถเริ่มฟื้นฟูสมดุลทางระบบนิเวศบนเกาะเหล่านี้ได้” Sam Aberdeen นักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังของสวนสัตว์ลอนดอน กล่าว “หอยทาก Partula กินเนื้อเยื่อพืชและเชื้อราที่น่าเปื่อย ดังนั้นมันจึงมีบทบาทสำคัญในการรักษาความสมบูรณ์ของป่า”
แม้ว่าหลายแห่งของโลกจะประสบกับวิกฤตการสูญพันธุ์ แต่ความสำคัญของหอยทาก Partula, หมาป่าแดง (Canis rufus) แร้งคอนดอร์แคลิฟอร์เนีย (Gymnogyps californianus) และนกกระเต็นกวม (Todiramphus cinnamominus) ก็แสดงให้เห็นว่าเราสามารถฟื้นฟูพวกมันได้ ขอแค่เพียงโอกาส
“นี่เป็นตัวอย่างที่ทรงพลังว่าสวนสัตว์เพื่อการอนุรักษ์นั้นสามารถต่อสู้กับการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพได้” Paul Pearce-Kelly ผู้ดูแลอาวุโสด้านสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังและปลาที่สวนสัตว์ลอนดอนและหัวหน้าโครงการ กล่าว
“ในช่วงเวลาที่ธรรมชาติต้องเผชิญกับความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หอยทากตัวเล็กเหล่านี้คือสัญลักษณ์แห่งความหวังสำหรับสัตว์ป่าทั่วโลก”
ที่มา
https://www.smithsonianmag.com/…/these-tiny-snails-are…/
https://phys.org/…/2024-09-extinct-snails-french…
https://news.mongabay.com/…/tiny-snails-make-a-big…/
Photo: Paul Pearce-Kelly