โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ความพยายาม 40 ปี หอยทากจิ๋วแพร่พันธุ์อีกครั้ง หลังสูญพันธุ์ในป่าไปแล้ว

Environman

เผยแพร่ 17 ธ.ค. 2567 เวลา 01.00 น.

หอยทากจิ๋ว ‘ที่สูญพันธุ์ในธรรมชาติแล้ว’ กำลังกลับมาผสมพันธุ์ในป่าเองอีกครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความพยายาม 40 ปีที่ช่วยเหลือสัตว์ตัวจิ๋วนี้กำลังออกดอกออกผล

เฟรนช์โปลินีเซียที่ห่างไกลในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้เป็นสถานที่อาศัยของสิ่งมีชีวิตที่หลายคนมักมองข้าม นั่นคือหอยทากจิ๋ว Partula tohiveana ซึ่งครั้งหนึ่งในอดีตพวกมันอยู่กันอย่างแพร่หลายในป่าดิบชื้นนี้ ทว่าช่วงปลายทศวรรษ 1980 มนุษย์ก็ได้นำหอยทากอีกสายพันธุ์เข้ามามันคือ หอยทาง Rosy Wolf snail

พวกมันเป็นเอเลี่ยนสปีชีส์สายพันธุ์รุกรานที่ล่าหอยทากจิ๋ว Partula จนทำให้เจ้าตัวเล็กเหล่านี้ลดจำนวนลงอย่างมาก จนถึงขั้นสูญพันธุ์ไปจากป่า นับตั้งแต่นั้นมานักวิทยาศาสตร์ก็ได้พยายามฟื้นฟูสิ่งมีชีวิตชนิดนี้ด้วยการเพาะพันธุ์ในที่เลี้ยงและปล่อยกลับสู่ธรรมชาติ

“นับตั้งแต่เริ่มโครงการในปี 1986 หอยทาง Partula ที่เคยสูญพันธุ์ไปจากป่ากว่า 11 สายพันธุ์มากกว่า 21,000 ตัว ได้รับการปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติอีกครั้งบนเกาะ 4 เกาะของเฟรนช์โปลินีเซีย” Kerry Marcus จากสมาคมสัตววิทยา Bristol ในสหราชอาณาจักร กล่าว

โดยในแต่ละครั้ง หอยทากที่ถูกปล่อยจากโครงการอนุรักษ์จะได้รับการทำเครื่องหมายด้วยสีสะท้อนแสง UV ซึ่งจะทำให้สังเกตเห็นได้ชัดเจนว่าตัวไหนคือมาจากโครงการและตัวไหนมาจากธรรมชาติ โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนซึ่งเป็นช่วงที่หอยทากเคลื่อนไหวกันมากที่สุด

จนกระทั่งในต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ได้ออกสำรวจประจำปีตามปกติ พร้อมกับนำหอยทากไปด้วยเพื่อปล่อยเพิ่ม แต่แล้วเมื่อพวกเขาอยู่ที่เกาะ Mo’orea ทีมสำรวจก็ได้ต้องประหลาดใจเมื่อพบกับหอยทาก Partula ที่ไม่มีเครื่องหมาย ซึ่งหมายความว่าพวกมันกำลังขยายพันธุ์ตามธรรมชาติ

“การค้นพบหอยทากโตเต็มวัยที่เกิดในป่าถือเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม มีสัตว์เพียงไม่กี่สายพันธุ์เท่านั้นที่กลับมาอยู่ในป่าได้อีกครั้ง ดังนั้นมันจึงเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นผลมาจากความพยายามอย่างหนัก” Justin Gerlach จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ นักวิทยาศาสตร์หนึ่งในโครงการกล่าว

นี่นับเป็นข่าวดีของธรรมชาติอย่างแท้จริง เนื่องจากหอยทากที่มีควายาวไม่ถึง 1 นิ้วนี้มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อระบบนิเวศบนเกาะ เนื่องจากพวกมันคอยกินซากพืชซากสัตว์และเชื้อราที่เน่าเปื่อย ซึ่งช่วยให้ป่ามีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น และแลกเปลี่ยนแร่ธาตุกันอย่างสะดวก

“การคืนหอยทากหายากเหล่านี้สู่ธรรมชาติ ทำให้เราสามารถเริ่มฟื้นฟูสมดุลทางระบบนิเวศบนเกาะเหล่านี้ได้” Sam Aberdeen นักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังของสวนสัตว์ลอนดอน กล่าว “หอยทาก Partula กินเนื้อเยื่อพืชและเชื้อราที่น่าเปื่อย ดังนั้นมันจึงมีบทบาทสำคัญในการรักษาความสมบูรณ์ของป่า”

แม้ว่าหลายแห่งของโลกจะประสบกับวิกฤตการสูญพันธุ์ แต่ความสำคัญของหอยทาก Partula, หมาป่าแดง (Canis rufus) แร้งคอนดอร์แคลิฟอร์เนีย (Gymnogyps californianus) และนกกระเต็นกวม (Todiramphus cinnamominus) ก็แสดงให้เห็นว่าเราสามารถฟื้นฟูพวกมันได้ ขอแค่เพียงโอกาส

“นี่เป็นตัวอย่างที่ทรงพลังว่าสวนสัตว์เพื่อการอนุรักษ์นั้นสามารถต่อสู้กับการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพได้” Paul Pearce-Kelly ผู้ดูแลอาวุโสด้านสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังและปลาที่สวนสัตว์ลอนดอนและหัวหน้าโครงการ กล่าว

“ในช่วงเวลาที่ธรรมชาติต้องเผชิญกับความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หอยทากตัวเล็กเหล่านี้คือสัญลักษณ์แห่งความหวังสำหรับสัตว์ป่าทั่วโลก”

ที่มา

https://www.smithsonianmag.com/…/these-tiny-snails-are…/

https://phys.org/…/2024-09-extinct-snails-french…

https://news.mongabay.com/…/tiny-snails-make-a-big…/

Photo: Paul Pearce-Kelly

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...