โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

ไขข้อสงสัย! ประกัน 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง เหมาะกับรถยนต์ประเภทไหน

สวพ.FM91

อัพเดต 16 ส.ค. 2566 เวลา 02.22 น. • เผยแพร่ 16 ส.ค. 2566 เวลา 02.11 น.
โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ไขข้อสงสัย! ประกัน 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง เหมาะกับรถยนต์ประเภทไหน

การขับรถยนต์บนท้องถนนในทุกวันนี้ต้องใช้สติและสมาธิในการขับขี่เป็นอย่างมาก เพราะหากพลาดไปเพียงเสี้ยววินาทีก็อาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับเราได้ ซึ่งแน่นอนว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในแต่ครั้งนั้น เราไม่สามารถคาดเดาความเสียหายได้เลยว่าจะมีมากน้อยขนาดไหน ทำให้ ประกันรถยนต์ ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในปัจจุบัน เพราะว่าหากเกิดเหตุฉุกเฉิน หรืออุบัติเหตุ ผู้ทำประกันภัยก็จะได้รับความคุ้มครองในส่วนของค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมรถ เงินชดเชยค่าเสียหายของคู่กรณี และเงินชดเชยอื่นๆ ซึ่งหากถามว่า ประกันรถยนต์ ประเภทไหนที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้ ก็คงต้องยกให้ “ประกันชั้น 2+” เป็นคำตอบในใจของใครหลายคน แล้วทำไม ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ถึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ประกัน 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง และเหมาะกับรถยนต์ประเภทไหน เราไปหาคำตอบกับ TIPINSURE กันเลยค่ะ

ประกันชั้น 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง?
ประกันรถยนต์ชั้น 2+ หรือ ประกันรถยนต์ชั้น 2 พลัส ป็นประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อตัวรถยนต์ ผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมไปถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับคู่กรณี อันเนื่องมาจากอุบัติเหตุ ทั้งยังคุ้มครองในกรณีเหตุฉุกเฉินอื่นๆ ซึ่งหากถามว่า ประกัน 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง เราสามารถแยกรายละเอียดความคุ้มครองได้ดังนี้

ประกัน 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง ต่อรถยนต์คันที่ทำประกัน
- คุ้มครองกรณีรถชนกับรถ หรือ อุบัติเหตุแบบมีคู่กรณีเท่านั้น
- คุ้มครองกรณีรถหาย ไฟไหม้รถ

ประกัน 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง ต่อผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และบุคคลภายนอก
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล และเงินชดเชยกรณีพิการ ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต

ประกัน 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง ต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
- คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ รวมถึงทรัพย์สินอื่นๆ ของคู่กรณี

ความคุ้มครองอื่นๆ ของ ประกันชั้น 2+
- คุ้มครองค่าประกันตัวผู้ขับขี่ ในกรณีที่เกิดคดีอาญา

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ประกันชั้น 2+ เหมาะกับรถยนต์แบบใดบ้าง
จากรายละเอียดด้านบนที่ว่า ประกัน 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง เราจะเห็นได้ว่า ประกันรถยนต์ชั้น 2+ หรือ ประกันรถยนต์ชั้น 2 พลัส นั้นให้ความคุ้มครองไม่ต่างจาก ประกันรถยนต์ชั้น 1 มากเท่าไรนัก ต่างกันตรงที่ ประกัน 2+ จะคุ้มครองค่าซ่อมรถคันทำประกัน ก็ต่อเมื่อเกิดอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณี หรือ รถชนกับรถด้วยกัน ถ้าเป็นเหตุรถชนฟุตบาท ชนกำแพง หรือเฉี่ยวชนเองโดยที่ไม่มีคู่กรณี ก็จะไม่สามารถเคลมค่าเสียหายในส่วนนี้ได้นั่นเอง ซึ่งหากถามว่า ประกันชั้น 2+ เหมาะกับรถยนต์แบบไหนบ้างนั้น TIPINSURE ก็มีคำตอบมาให้แล้ว ดังนี้

รถยนต์ที่ใช้ขับขี่ทั่วไป
ประกันรถยนต์ชั้น 2 พลัส เหมาะกับรถยนต์ที่ใช้ขับขี่ทั่วไปบนท้องถนน หรือเป็นรถที่ผ่านการใช้งานมาแล้วสักระยะหนึ่ง ประมาณ 2-5 ปี ที่ต้องการความคุ้มครองได้ใกล้เคียงกับประกันชั้น 1 ในราคาที่สบายกระเป๋า แต่ทั้งนี้ก็เหมาะกับผู้ที่มีประสบการณ์ขับรถมาบ้างพอสมควร หรือ ขับรถชำนาญแล้ว ไม่เหมาะกับมือใหม่หัดขับ เพราะหากเกิดไปเฉี่ยวชนขึ้นมาเอง ประกันชั้น 2+ จะไม่คุ้มครองค่าซ่อมรถกับอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี

รถเก่า รถมือสอง
นอกจากนี้สำหรับใครที่ใช้รถมานานหลายปี ตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป หรือเป็นรถมือสอง ก็สามารถทำประกันชั้น 2+ ได้ง่ายๆ เบี้ยประกันภัยราคาไม่แพง แต่ได้ความคุ้มครองเทียบเท่าประกันรถยนต์ชั้น 1 เลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล เงินชดเชยค่าเสียหายให้คู่กรณี รวมถึงค่าซ่อมรถคันที่ทำประกัน แต่มีข้อแม้ว่าต้องเกิดจากรถชนรถเท่านั้นนะ

ดังนั้น จึงสรุปคำถามที่ว่า ประกัน 2+ คุ้มครองอะไรบ้าง และเหมาะกับรถยนต์แบบไหนบ้างนั้น ก็คงได้คำตอบว่า ประกันรถยนต์ชั้น 2+ หรือ ประกันรถยนต์ชั้น 2 พลัส เป็นประกันรถยนต์ที่เหมาะกับรถยนต์ทุกประเภท แต่ทั้งนี้ผู้ขับขี่ก็ควรต้องมีประสบการณ์พอสมควร หรือมีความเสี่ยงน้อยที่จะเกิดอุบัติเหตุ เพราะความคุ้มครองของประกันชั้น 2+ จะมีข้อจำกัดตรงที่ จะคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อตัวรถยนต์คันทำประกันก็ต่อเมื่อรถชนกับรถด้วยกันเท่านั้น เช่น รถเก๋ง รถกระบะ รถมอเตอร์ไซค์ และยานพาหนะอื่นๆ หากรถชนไม่มีคู่กรณี หรือ ขับเฉี่ยวชนเอง ก็จะไม่สามารถเคลมค่าซ่อมรถได้ แต่ในส่วนความคุ้มครองอื่นๆ ของ ประกัน 2+ คุ้มครองอะไรบ้างนั้น ก็ยังคงได้รับความคุ้มครองเหมือนกันกับประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็คือ คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล เงินชดเชยอุบัติเหตุส่วนบุคคลทั้งของผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และคู่กรณี คุ้มครองค่าซ่อมรถของคู่กรณี คุ้มครองกรณีรถหาย ไฟไหม้รถ รวมถึงเงินประกันตัวผู้ขับขี่ในคดีอาญา

แม้ว่า ประกัน 2+ จะมีข้อแตกต่างจากประกันชั้น 1 เพียงเล็กน้อย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ยังคงเป็นประกันรถยนต์ที่อยู่อันดับหนึ่งในใจใครหลายๆ คน เพราะนอกจากจะให้ความคุ้มครองที่ตอบโจทย์แล้ว เบี้ยประกันยังคุ้มค่าสุดๆ ทั้งนี้หากใครที่สนใจ ประกันชั้น 2+ หรือ ประกันรถยนต์ชั้น 2 พลัส สามารถทำเช็กราคาประกันรถยนต์ที่ตอบโจทย์กับความต้องการของคุณได้ง่ายๆ ผ่าน

TIPINSURE.COM