ปล่อยโคม! จุดพลุ! ยิงปืนขึ้นฟ้า! การ “เฉลิมฉลอง” หรือ “ฆาตกรรม” ทางอ้อม?

ปล่อยโคม! จุดพลุ! ยิงปืนขึ้นฟ้า! การ“เฉลิมฉลอง” หรือ“ฆาตกรรม” ทางอ้อม? 

ผ่านพ้นช่วงสิ้นปีมาแล้ว อาทิตย์แรกของปี 2019 น่าจะเป็นปีที่ได้เริ่มอะไรใหม่ ๆ สำหรับหลาย ๆ คน และในทุก ๆ ปี การเฉลิมฉลองตามเทศกาลในทุกโอกาสก็เป็นเรื่องปกติ หลาย ๆ คนเลือกที่จะสวดมนต์ข้ามปี อยู่บ้านกับครอบครัว หรือออกไปเฉลิมฉลองการเคาท์ดาวน์ตามที่ต่าง ๆ ที่มีการจัดงาน ซึ่งก็คงไม่ได้เดือดร้อนใคร…หากแต่ก็ยังคงมีประเพณีบางชนิดที่สร้างปัญหาและสร้างความวุ่นวายไม่เว้นแต่ละปี และไม่ต่างจากประเพณีลอยกระทงที่ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันว่าการลอยกระทงนั้นได้สร้างความสกปรกให้แม่น้ำและสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งน้ำ ประเพณีต่าง ๆ เหล่านี้ก็ยังคงเป็นที่ถกเถียงว่าเราควรจะแก้ไขปัญหาอย่างไร

 1.) ปล่อยโคมลอย  

ประเพณีปล่อยโคมเป็นที่นิยมมากในภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่และบริเวณใกล้เคียง ชาวเหนือมีความเชื่อว่าการปล่อยโคมคือการลอยทุกข์โศกและเคราะห์ภัยไปกับโคม ซึ่งในระยะหลัง นักท่องเที่ยวจากภาคอื่น ๆ ที่หลั่งไหลไปภาคเหนือต่างก็เข้าร่วมเทศกาลนี้ด้วยอย่างคับคั่ง ทำให้เป็นประเพณีที่เป็นที่นิยมมากแม้ไม่ใช่ในช่วงเทศกาลลอยกระทง แต่ใครจะรู้ว่าการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีด้วยโคมลอยที่สวยงามตระการตาเช่นนี้อาจต้องแลกมาด้วยความวุ่นวาย ไม่ว่าจะเป็นเหตุให้สายการบินต้องยกเลิกเที่ยวบินเพราะขัดขวางการจราจรบนท้องฟ้า และถ้าวัสดุที่ทำโคมลอยเข้าไปติดในใบพัดเครื่องบินก็อาจจะทำให้เครื่องยนต์ขัดข้องและเป็นอันตรายต่อผู้โดยสารได้ นอกจากนี้ หากโคมที่ยังไม่ดับดีไปตกลงที่หลังคาบ้านซึ่งทำด้วยวัสดุบางชนิดที่ไวไฟก็อาจะทำให้เกิดปัญหาไฟไหม้บ้านขึ้นมาได้อีก ซึ่งในทุก ๆ ปีก็มักจะมีรายงานความเสียหายชนิดนี้มาให้เห็นอยู่ประจำ  และเมื่อวันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมาก็มีข่าวโคมลอยลูกหนึ่งที่ลุกไหม้และตกลงภายในบริเวณปั้มน้ำมัน ที่จังหวัดนครนายกสร้างความตกใจแก่ผู้ที่อยู่ในบริเวณนั้น ยังโชคดีที่ไม่เหตุการณ์นี้ไม่เกิดความเสียหายอันใด

2.) จุดพลุ-ดอกไม้ไฟ 

หากพูดถึงบรรยากาศการเฉลิมฉลองที่คุ้นเคย สำหรับช่วงสิ้นปี จะมีอะไรที่สวยงามไปกว่าการได้ดูดอกไม้ไฟสวย ๆ ที่แต่ละสถานที่สำคัญเช่นโรงแรม ห้างสรรพสินค้าที่จัดงานพากันประโคมจุดแข่งขันกัน โดยเฉพาะในช่วงระยะเวลาภายหลังการเคาท์ดาวน์เสร็จสิ้น…ภาพดอกไม้ไฟหลากสีที่สวยงามบนท้องฟ้ายามค่ำคืนนั้นคงจะเป็นภาพที่หลายคนรอคอย…แต่ทุก ๆ ครั้งที่มีการจุดพลุ-ดอกไม้ไฟเฉลิมฉลองนั้นหลาย ๆ บ้านที่เลี้ยงสัตว์ต้องประสบเหตุ สุนัขหาย หรือกระทั่งสัตว์เลี้ยงตกใจตายกันเกลื่อนเพราะเสียงพลุ ด้วยความที่สัตว์ โดยเฉพาะสุนัข มีความสามารถในการได้ยินเสียงมากกว่าคนเรา…สุนัขจะตกใจมากกว่าคนเป็นสองเท่า ยิ่งในกรณีที่มีการแสดงโชว์ดอกไม้ไฟหลายชุดเป็นระยะเวลานานก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงให้มีสัตว์ตกใจตายหรือวิ่งหนีหายออกไปจากบ้านด้วยความหวาดกลัวได้ และปัญหาเช่นนี้ก็ยังคงมีให้เห็นในทุก ๆ ปีเช่นกัน 

 3.) ยิงปืนขึ้นฟ้า  

การยิงปืนขึ้นฟ้าต้อนรับปีใหม่เป็นความเชื่อของคนบางกลุ่มที่เชื่อว่าเป็นการเฉลิมฉลอง บางคนก็มีความเชื่อว่าลูกกระสุนจะหายไปในอากาศ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ลูกกระสุนนั้นลอยไม่พ้นชั้นบรรยากาศและจะตกลงมาสู่พื้นโลกอีกครั้งในระยะเวลาอันสั้น ที่ผ่านมา มีรายงานการเสียชีวิตและการบาดเจ็บจากลูกกระสุนปริศนาที่ตกลงมาจากฟ้าในช่วงวันปีใหม่ค่อนข้างหนาตา และหลาย ๆ กรณีผู้เสียชีวิตก็เป็นผู้บริสุทธิ์ที่กำลังมีความสุขกับการเฉลิมฉลองปีใหม่อยู่ในที่ ๆ ห่างออกไปหลายเมตรแต่ก็กลับต้องมาเสียชีวิตเพราะอยู่ในระยะของกระสุนปืนที่ถูกยิงออกไปพอดี เมื่อคืนสิ้นปีของปี 2018 ที่ผ่านมานี้เองก็เพิ่งมีกรณีที่แพทย์เวรคนหนึ่งโพสข้อความลงทวิตเตอร์ว่ามีกระสุนปืนตกทะลุฝ้าหลังคาโรงพยาบาลลงมาบนเตียงคนไข้ ซึ่งนับว่าโชคดีที่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์นั้น ๆ แต่ก็สะท้อนให้เห็นอันตรายจากการยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อฉลองวันสิ้นปีได้ 

ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่และเทศกาลอื่น ๆ นั้นควรจะเป็นเทศกาลแห่งความแช่มชื่น ความสนุกสนาน และการเฉลิมฉลอง แต่เราจะมีวิธีใดได้บ้างไหมที่เราจะสามารถเฉลิมฉลองร่วมกันและไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่กันและกัน เป็นปัญหาที่คู่ควรได้รับการขบคิดและแก้ไขโดยไว

แล้วคุณผู้อ่านคิดเห็นว่าควรแก้ไขอย่างไร?