โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

พระสนมเอกในสมัยอยุธยา สนมเอกสี่ทิศ จาก 4 ราชวงศ์

ศิลปวัฒนธรรม

อัพเดต 23 ต.ค. 2567 เวลา 05.41 น. • เผยแพร่ 23 ต.ค. 2567 เวลา 05.18 น.
ใหม่ ดาวิกา รับบท ท้าวศรีสุดาจันทร์ ในละครเรื่อง แม่หยัว (ภาพจาก เฟซบุ๊ก : ช่อง one31)

4 พระสนมเอกในสมัยอยุธยา ท้าวศรีสุดาจันทร์ อินทรสุเรนทร์ ท้าวอินทรเทวี และท้าวศรีจุฬาลักษณ์ จากเชื้อสายละโว้-อโยธยา สุพรรณภูมิ นครศรีธรรมราช และสุโขทัย

พระสนมเอกในสมัยอยุธยาที่คนไทยรู้จักกันดีคือ “ท้าวศรีสุดาจันทร์” ซึ่งชื่อนี้เป็นชื่อตำแหน่ง ไม่ใช่ชื่อตัวบุคคล ตำแหน่งท้าวศรีสุดาจันทร์เป็น 1 ใน 4 พระสนมเอกของราชสำนักอยุธยา อีก 3 ตำแหน่งที่เหลือคือ ท้าวอินทรสุเรนทร์ ท้าวอินทรเทวี และท้าวศรีจุฬาลักษณ์

พระไอยการตำแหน่งนาพลเรือน ในกฎหมายตราสามดวง ระบุว่า พระสนมเอกทั้ง 4 คนนี้มีศักดินาเพียง 1,000 ซึ่งเท่ากับท้าววรจันทร์พระพี่เลี้ยง นับว่าตำแหน่งพระสนมเอกมียศศักดิ์ไม่สูงเท่าใดนัก แม้ศักดินาจะน้อย แต่พระสนมเอกจะสูงศักดิ์ขึ้นก็ต่อเมื่อให้กำเนิดพระราชโอรสแก่กษัตริย์

สุจิตต์ วงษ์เทศ กล่าวถึงพระสนมเอกในสมัยอยุธยาทั้ง 4 ว่า นางเหล่านี้ไม่ใช่สามัญชนคนธรรมดา แต่เป็นสตรีที่มีเชื้อสายเจ้านายที่เคยเป็นผู้ปกครองบ้านเมืองอาณาจักรอิสระโดยรอบอยุธยา เมื่อบ้านเมืองเหล่านี้ถูกผนวกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรอยุธยาแล้ว สิ่งที่จะแสดงถึงพระราชอำนาจของกษัตริย์อยุธยาคือ บรรดาเจ้าเมืองเหล่านั้นต้องถวายสตรีเข้ามาเป็นพระสนมเอก

ขณะที่ พิเศษ เจียจันทร์พงษ์ กล่าวถึงพระสนมเอกทั้ง 4 ว่า นางเป็นตัวแทนของพลังอำนาจทั้ง 4 แห่งในราชสำนักอยุธยา ตั้งแต่เมื่อแรกเริ่มจนถึงสมัยสมเด็จพระไชยราชาธิราชเป็นอย่างน้อย ตำแหน่งพระสนมเอกทั้ง 4 มีอำนาจเท่า ๆ กัน เพราะยังไม่มีการสถาปนาตำแหน่งพระมเหสี ผู้ใดจะมีอำนาจก็ขึ้นอยู่กับการเมืองในราชสำนัก โดยเฉพาะการให้กำเนิดพระราชโอรส

ทั้งสุจิตต์และพิเศษมีความเห็นพ้องในลักษณะเดียวกันว่า การสถาปนาอาณาจักรอยุธยาขึ้นมาได้นั้นเกิดจากการรวมตัวของกลุ่มอำนาจ 4 กลุ่มใหญ่ นั่นคือ

1. กลุ่มละโว้-อโยธยา หรือราชวงศ์ของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ผู้สถาปนาอยุธยา มีศูนย์กลางอำนาจแถบตะวันออกของลุ่มน้ำเจ้าพระยา (ละโว้-ลพบุรี)

2. กลุ่มสุพรรณภูมิ หรือราชวงศ์ของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 1 (ขุนหลวงพะงั่ว) พระเชษฐา (พี่ชาย) ของพระมเหสีในพระเจ้าอู่ทอง มีศูนย์กลางอำนาจแถบตะวันตกของลุ่มน้ำเจ้าพระยา (สุพรรณบุรี)

3. กลุ่มนครศรีธรรมราช มีศูนย์กลางอำนาจที่นครศรีธรรมราช

4. กลุ่มสุโขทัย มีศูนย์กลางอำนาจที่อาณาจักรสุโขทัย

อย่างไรก็ตาม ในกฎหมายตราสามดวง ไม่ได้ระบุว่า พระสนมเอกทั้ง 4 สืบเชื้อสายมาจากเจ้านายหรือราชวงศ์ใด การนำเอาตำแหน่งพระสนมเอกทั้ง 4 คือ ท้าวศรีสุดาจันทร์ ท้าวอินทรสุเรนทร์ ท้าวอินทรเทวี และท้าวศรีจุฬาลักษณ์ มาเชื่อมโยงกับกลุ่มอำนาจ 4 กลุ่มใหญ่ข้างต้น ล้วนเป็นการวิเคราะห์ตีความของนักวิชาการยุคหลัง ซึ่งสุจิตต์และพิเศษมีความเห็นในเรื่องนี้ต่างกัน

ludea ยูเดีย

ท้าวศรีจุฬาลักษณ์

สุจิตต์อธิบายว่า ท้าวศรีจุฬาลักษณ์ สืบเชื้อสายราชวงศ์สุโขทัย เนื่องจากปรากฏตำแหน่งพระมเหสีของกษัตริย์สุโขทัยในจารึกวัดบูรพารามว่า “สมเด็จพระราชเทวี สรีจุฬาลักษณ์…” จนเมื่ออาณาจักสุโขทัยถูกผนวกเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรอยุธยา เชื้อสายราชวงศ์สุโขทัยจึงถูกลดฐานะลงเป็นเพียงพระสนมเอก

แต่พิเศษเห็นต่างออกไป โดยอธิบายว่า ท้าวศรีจุฬาลักษณ์สืบเชื้อสายราชวงศ์สุพรรณภูมิ ด้วยเหตุผล 2 ประการสำคัญคือ

1. พบพระพุทธรูปองค์หนึ่งเรียกขานว่า “เจ้าแม่วัดบูรพาราม” ที่วัดมหาธาตุ เมืองสุโขทัย เป็นศิลปะแบบอู่ทอง มีจารึกที่ฐานสรุปความได้ว่า พระมหาเทวีศรีจุฬาลักษณ์เป็นผู้สร้างพระพุทธรูปองค์นี้

พิเศษตั้งข้อสงสัยว่า พระพุทธรูปศิลปะแบบอู่ทองเป็นศิลปกรรมของอยุธยาตอนต้น พบมากในลุ่มแม่น้ำภาคกลาง แถบสุพรรณบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท ฯลฯ แต่เหตุใดพระพุทธรูปองค์นี้กลับไปปรากฏในสุโขทัย ทั้งที่อาณาจักรสุโขทัยก็มีรูปแบบศิลปกรรมของตนเอง การนำพระพุทธรูปจากต่างแดนเข้ามาจึงน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมืองแฝงอยู่

จากการค้นคว้าและตรวจสอบ พิเศษจึงได้ข้อสรุปว่า พระมหาเทวีศรีจุฬาลักษณ์ ผู้สร้างพระพุทธรูป “เจ้าแม่วัดบูรพาราม” สืบเชื้อสายราชวงศ์สุพรรณภูมิที่ได้เป็นพระมเหสีของกษัตริย์สุโขทัย

พระนางเสด็จจากบ้านเกิดเมืองนอนไปยังอาณาจักรสุโขทัยพร้อมด้วยข้าราชบริพารจำนวนมาก ทั้งพระญาติวงศ์ นักปราชญ์ ราชบัณฑิต ขุนนาง ข้าราชการ พระเถระทั้งหลาย รวมถึงไพร่บ้านพลเมือง

ดังนั้น พระพุทธรูป “เจ้าแม่วัดบูรพาราม” ก็สร้างด้วยฝีมือช่างจากสุพรรณภูมิที่เดินทางไปพร้อมกับพระนางนั่นเอง

2. ในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยากล่าวถึงสมเด็จพระเพทราชาทรงสถาปนาหม่อมแก้ว ซึ่งเป็นพระโอรสในท้าวศรีจุฬาลักษณ์ พระสนมเอกสมัยสมเด็จพระนารายณ์ ขึ้นเป็นกรมขุนเสนาบริรักษ์ ซึ่งท้าวศรีจุฬาลักษณ์ผู้นี้ยังเป็นพระขนิษฐา (น้องสาว) ของสมเด็จพระเพทราชา

แต่เดิมนั้นสมเด็จพระเพทราชาทรงมีพื้นเพอยู่ที่ “บ้านพลูหลวง” ซึ่งอยู่ในเขตสุพรรณบุรี พิเศษจึงวิเคราะห์ว่า ตำแหน่งท้าวศรีจุฬาลักษณ์ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ จึงต้องมีพื้นเพเดิมเป็นคนจากสุพรรณบุรีด้วย

พิเศษสรุปว่า เมื่ออาณาจักรอยุธยาได้ผนวกอาณาจักรสุโขทัยแล้ว ตำแหน่งท้าวศรีจุฬาลักษณ์ก็ถูกลดลงมาเป็นตำแหน่งพระสนมเอกของราชสำนักอยุธยา แต่ก็ยังรักษาธรรมเนียมเดิมอยู่ตลอดมา นั่นคือ ตำแหน่งท้าวศรีจุฬาลักษณ์ต้องเป็นสตรีที่สืบเชื้อสายราชวงศ์สุพรรณภูมิ

ท้าวอินทรสุเรนทร์ ท้าวอินทรเทวี

ตำแหน่งท้าวอินทรสุเรนทร์ สุจิตต์เชื่อว่า สืบเชื้อสายจากราชวงศ์สุพรรณภูมิ

ในกฎหมายตราสามดวง พบตำแหน่งเจ้าเมืองซึ่งอยู่ในเขตอาณาจักรสุพรรณภูมิ เช่น เจ้าเมืองเพชรบุรี ตำแหน่งเจ้าเมืองว่า “ออกพระศรีสุรินทฤๅไชย” เจ้าเมืองชัยนาท ตำแหน่งเจ้าเมืองว่า “ออกพระสุรบดินสุรินทฤๅไชย” ซึ่งล้วนมีคำว่า สุรินทร กำกับอยู่ คำนี้มีที่มาจากคำว่า สุร + อินทร ซึ่งสุรินทรก็สามารถแผลงเป็นสุเรนทรได้

จิตร ภูมิศักดิ์ ตั้งข้อสังเกตว่า เขตอาณาจักรสุพรรณภูมิมีความเกี่ยวข้องกับ “ตระกูลอินทร์” ซึ่งเชื่อมโยงไปถึง “ขุนงั่วอิน(ทร)” ลูกคนที่ 7 ของ “ขุนบรม” ซึ่งเป็นตำนานที่เกี่ยวข้องกับปฐมบรรพบุรุษของกลุ่มชาติพันธุ์ที่พูดภาษาตระกูลไท-ไต

นอกจากนี้ เขตอาณาจักรสุพรรณภูมิยังปรากฏชื่อเมือง “อินทรบุรี” และปรากฏนามกษัตริย์อยุธยาที่มาจากสุพรรณบุรีอย่าง “พระอินทราชา” (พระนครอินทร์)

ส่วนตำแหน่งท้าวอินทรเทวี สุจิตต์เชื่อว่า สืบเชื้อสายจากราชวงศ์นครศรีธรรมราช

ขณะที่พิเศษมีความเห็นว่า ท้าวอินทรสุเรนทร์มาจากสตรีสุโขทัย ส่วนท้าวอินทรเทวีมาจากสตรีนครศรีธรรมราช

ท้าวศรีสุดาจันทร์

เมื่อตำแหน่งพระสนมเอกในสมัยอยุธยาเรียงครบทั้ง 3 ทิศแล้ว คือ ท้าวอินทรสุเรนทร์ ทิศเหนือ-สุโขทัย ท้าวอินทรเทวี ทิศใต้-นครศรีธรรมราช และท้าวศรีจุฬาลักษณ์ ทิศตะวันตก-สุพรรณบุรี

สุจิตต์จึงวิเคราะห์ว่า ตำแหน่งท้าวศรีสุดาจันทร์ต้องสืบเชื้อสายจากราชวงศ์ละโว้-อโยธยา หรืออู่ทอง ที่มีศูนย์กลางอำนาจแถบตะวันออกของลุ่มน้ำเจ้าพระยา คือ ละโว้-ลพบุรี ซึ่งตั้งอยู่ทิศตะวันออกของอยุธยานั่นเอง

สุจิตต์อธิบายว่า หากวิเคราะห์จากข้อมูลของขุนวรวงศาธิราช ที่มีน้องชายชื่อ จัน (บ้างสะกดจันทร์) บ้านอยู่ที่มหาโลก แถบลำน้ำป่าสัก ซึ่งก็อยู่ด้านทิศตะวันออกของอยุธยา อันเป็นดินแดนของอาณาจักรละโว้มาแต่เก่าก่อน และเป็นแหล่งกำเนิดของบรรพบุรุษของราชวงศ์อู่ทองนั่นเอง ซึ่งสอดคล้องกับข้อสังเกตของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ที่ทรงคาดว่า ท้าวศรีสุดาจันทร์เป็นญาติกับขุนวรวงศาธิราช

ด้านพิเศษก็มีความเห็นว่า ท้าวศรีสุดาจันทร์สืบเชื้อสายจากราชวงศ์อู่ทองเช่นกัน โดยวิเคราะห์จากการเถลิงอำนาจของพระนาง สถาปนาขุนวรวงศาธิราชเป็นกษัตริย์ พร้อมกันนั้นก็กำจัดเชื้อสายของสมเด็จพระไชยราชาออกไป นั่นย่อมแสดงให้เห็นว่า กลุ่มของท้าวศรีสุดาจันทร์คือราชวงศ์ของพระเจ้าอู่ทองที่พยายามกลับเข้ามามีอำนาจในอยุธยาอีกครั้งหนึ่ง หลังเสียราชบัลลังก์ให้แก่ราชวงศ์สุพรรณภูมิไป

อนึ่ง การเรียกชื่อราชวงศ์ เช่น ราชวงศ์อู่ทอง ราชวงศ์สุพรรณภูมิ ราชวงศ์สุโขทัย ฯลฯ เป็นการกำหนดของนักประวัติศาสตร์ในสมัยหลัง ไม่ปรากฏว่าในสมัยอยุธยามีการกำหนดเรียกชื่อราชวงศ์ของตนเองแต่อย่างใด

บทบาทของ ท้าวศรีสุดาจันทร์ อินทรสุเรนทร์ ท้าวอินทรเทวี และท้าวศรีจุฬาลักษณ์ 4 พระสนมเอกในสมัยอยุธยา นอกจากจะเป็นบาทบริจาริกาในราชสำนักอยุธยาแล้ว พวกนางเหล่านี้ยังมีบทบาทเป็นตัวแสดงแทนสัญลักษณ์ของขุมอำนาจเก่าที่ร่วมก่อกำเนิดอาณาจักรอยุธยาอีกด้วย ดังที่สุจิตต์กล่าวว่า

“สนมเอกทั้งสี่ก็คือสัญลักษณ์ของอำนาจกษัตริย์กรุงศรีอยุธยาที่ปกแผ่ออกไปทั้ง 4 ทิศนั่นเอง”

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่

อ้างอิง :

มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง. (2529). ประมวลกฎหมาย รัชกาลที่ 1 จุลศักราช 1166 พิมพ์ตามฉะบับหลวง ตรา 3 ดวง เล่ม 1. กรุงเทพฯ : เรือนแก้วการพิมพ์.

สุจิตต์ วงษ์เทศ. (2544). ท้าวศรีสุดาจันทร์ “แม่หยัวเมือง” ใครว่าหล่อนชั่ว?. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : มติชน.

พิเศษ เจียจันทร์พงษ์. (ตุลาคม, 2532). เจ้าแม่สุโขทัย ใน, “ศิลปวัฒนธรรม”. ปีที่ 10 : ฉบับที่ 12.

พิเศษ เจียจันทร์พงษ์. (กรกฎาคม, 2544). เจ้าแม่ศรีจุฬาลักษณ์ มิใช่ชาวสุโขทัย ใน, “ศิลปวัฒนธรรม”. ปีที่ 22 : ฉบับที่ 9.

พิเศษ เจียจันทร์พงษ์. (2557). ความหมายของพระพุทธรูปศิลปะอู่ทองซึ่งพบที่สุโขทัย ใน, “ดำรงวิชาการ”. ปีที่ 13 : ฉบับที่ 1.

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 23 ตุลาคม 2567

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : พระสนมเอกในสมัยอยุธยา สนมเอกสี่ทิศ จาก 4 ราชวงศ์

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.silpa-mag.com

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...