เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เริ่มต้นเดินหน้ารับซีซั่น 2019 หลังตัดสินใจเลือก“โค้ชเบ๊” ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก เข้ามานำทัพลุยตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอน ตามความคาดหมายของผู้สันทัดกรณีหลายๆคน
“ขงเบ๊” เจนจัดอยู่ในแวดวงลูกหนังมานานกว่าครึ่งชีวิต แม้ผลงานคุมทีมส่วนใหญ่จะหนักและค่อนเอนเอียงไปทางทีมประเภทหนีตายประคับประคองเพื่อความอยู่รอดก็ตามดี
ถึงกระนั้นบุรุษวัย 51 ปี ถือเป็นโค้ชไทยชั้นนำในยุคปัจจุบัน ยืนยันอยู่ในไทยลีกแบบสง่างาม ทั้งที่เจ้าของทีมในบ้านเรานิยมชมชอบกุนซือตาน้ำข้าว
ด้วยอุปนิสัยพูดจาตรงๆแรงๆ ทั้งการให้สัมภาษณ์และฝึกสอนนักเตะ ทำให้ทุกทีมที่ “โค้ชเบ๊” ไปร่วมงานมักมีผลงานที่เป็นรูปธรรมจับต้องได้
ที่สำคัญจุดเด่นของกุนซือรายนี้อยู่ที่การเปิดโอกาสให้นักเตะไทยไร้ชื่อ ได้โชว์ฝีเท้าบนสมรภูมิไทยลีกมานับไม่ถ้วย
ขอบสนามคัดสรร 7 แข้งนอกสายตีที่ผ่านการพาสเจอร์ไรส์โดย “ขงเบ๊” ตลอดระยะเวลาการเป็นกุนซืออาชีพ
1.คลีตัน ซิลวา
ก่อนมาเมืองไทยเขาคือแข้งโลว์โปรไฟล์เล่นบอลระดับล่างในบ้านเกิดที่บราซิล กระทั่งฟาบิโอ บาร์โบซ่า (เอเยนต์ส่วนตัวและรุ่นพี่) ชวนมาเล่นบอลอาชีพในเมืองไทยปี 2010 จนได้ไปทดสอบฝีเท้ากับเมืองทอง แต่ไม่ได้รับสัญญา ก่อนจะเดินทางมาที่หมู่บ้านธนารมณ์ ย่านสายไหม สนามซ้อมของโอสถสภา เพียงแค่ครั้งแรก คลีตัน สร้างความประทับใจให้ “โค้ชเบ๊” เฮดโค้ชพลังเอ็มในเวลานั้น เกมอุ่นเครื่องกับสโมสรเพื่อนตำรวจ แข้งบราซิเลี่ยนยิง 1 ประตู และได้รับสัญญาเป็นนักเตะอาชีพในเมืองไทยอย่างที่หวัง
18 เดือนในการทำงานร่วมกับโค้ชเบ๊ ของ เกรโต้ (ชื่อเล่นของคลีตัน) ซัลโวไป 17 ประตูในไทยลีก จากแข้งนอกโนเนมไร้คนรู้จัก เขากลายเป็นซุปตาร์บอลไทยอย่างรวดเร็วและในเวลาต่อมาบีอีซี เทโรศาสน ขอซื้อตัวไปร่วมทีม ด้วยเงิน 2 ล้านบาท ในปี 2012
2.ฉัตรชัย บุตรพรม
ผู้รักษาประตูจอมเซฟจุดโทษ พาเชียงราย คว้า 4 แชมป์บอลถ้วยในเวลา 2 ปี แต่น้อยคนจะรู้ว่าโอกาสครั้งแรกในการเฝ้าเสาในไทยลีก มันเริ่มต้นในปี 2010 “โค้ชเบ็” เลือก แมนเทวา ล่ามสมบัติ เป็นมือกาวหมายเลข1 ทว่าความผิดพลาดในเกมพบแบงค็อก ยูไนเต็ด นั้นจึงทำให้ ฉัตรชัย บุตรพรม ได้โอกาสเฝ้าเสาในลีกสูงสุดแดนสยาม
ทั้งที่ก่อนหน้านั้นปี 2009 เขากำลังจะขอย้ายออกจากโอสถสภา แต่ก็เพราะ”โค้ชเบ๊” ที่เลือกรั้งให้ “เดอะบอย” อยู่กับทีมต่อไป สิ่งที่ทำให้หมอนี่เหนือกว่าประตูคนอื่นในทีมคือความขยัน มุ่งมั่น ซ้อมมันอย่างเดียว นี่คือเหตุผลที่”โค้ชเบ๊” ชอบและเชื่อมั่นเปิดโอกาสให้เด็กหนุ่มจากกำแพงเพชรใช้ผลงานในสนามพิสูจน์ฝีมือ จนก้าวมาเป็นนักเตะทีมชาติไทยชุดใหญ่อย่างที่เขาใฝ่ฝันมาตลอดชีวิต
3.คัพฟ้า บุญมาตุ่น
เด็กหนุ่มจากมหาสารคาม ผู้มีช่วงเวลาดีๆกับทีม”พลังเอ็ม”และโค้ชที่ดึงศักยภาพที่แท้จริงออกมาคือ ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก ผู้ที่ปรับบทบาทให้ยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกวางบอลออกบอลให้เพื่อนร่วมทีม
ซีซั่น 2010 คัพฟ้า เฉิดฉายกับทีมนายห้างขายยาได้สวยหรู พาทีมจบอันดับ 7 ในลีกปีดังกล่าว ยิงไป 3 และ 3 แอสซิสต์ จนถูกเรียกติดทีมชาติไทยชุดใหญ่และทีมชุด 23 ปีในเวลานั้น และถูกเมืองทองจีบไปร่วมทีม
ทว่าเมื่อชีวิตพ้นจากทีมโอสถสภา ผลงานและความมั่นใจ คัพฟ้า ไม่เหมือนเดิมเก่าฟอร์มการเล่นดร็อปจากที่เคยเป็นมา ก่อนจะกลับมาเป็นผู้เป็นคน เมื่อ”โค้ชเบ๊” เข้ามารับงานคุมสุโขทัย เมื่อปี 2017 จนกลายเป็นมิดฟิลด์จอมส่องไกลให้ทัพค้างคาวไฟอยู่ในปัจจุบัน
4.ชนานันท์ ป้อมบุบผา
กองหน้าเทคนิคดีจากปทุมธานี ผู้มีดีกรีระดับเยาวชนมากมายจากโรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี จนโดนเมืองทอง จีบไปร่วมทีมตั้งแต่ยังไม่จบมัธยม ทว่าอุปสรรคเรื่องอายุที่น้อย จึงทำให้ “ทู” ถูกส่งไปอยู่เพื่อนตำรวจ แต่เหมือนจะไร้แสงสว่างในชีวิตการค้าแข้ง เขาไม่ได้พิสูจน์ตัวเองในเสื้อเลือดหมู
จนกระทั่ปี 2012 ชนานันท์ โทรสัพท์ติดต่อไปยัง”โค้ชเบ๊” เพื่อขอซ้อมกับโอสถสภา เพื่อเรียกความฟิต แต่ทว่า”ขงเบ๊” เลือกที่จะเซ็นสัญญาอยู่กับทีม เพราะเชื่อมั่นในฝีเท้าดีพอจะนำมาปลุกปั้นได้
”โค้ชเบ๊”ปลุกไฟในตัว”ทู” กลับมาอีกครั้ง 17 ประตูที่ซัลโวได้ จนโดนเรียกตัวไปติดทีมชาติ23 ปี ความดีความชอบตรงนี้กุนซือเมืองทองคนปัจจุบันสมควรได้รับเครดิต
5.ยุทธพงษ์ ศรีละคร
อดีตนักมวยเดินสายที่ขึ้นชกไปทั่วภาคอีสาน แต่มาร่วมต้นชีวิตนักบอลอาชีพในปี 2009 กับสโมสรอยุธยา เอฟซี ในดิวิชั่น 2 และย้ายมาเล่นให้สระบุรี เอฟซี ในซีซั่นต่อมา
“กัปตันเจ๋ง” ปักหลักอยู่กับทีมขุนศึกตั้งแต่ดิวิชั่น2 จนไต่เต้าสู่ไทยลีกในปี2015 แม้ผลงาน8 เกมแรกจะไม่ดี ทว่าการเข้ามาของ “โค้ชเบ๊” ได้ทำให้ผู้เล่นสระบุรี มีชีวิตชีวาคึกคักมากขึ้น
แม้ยุทธพงษ์ รูปร่างเล็กแถมไร้ประสบการณ์ในไทยลีก แต่สิ่งที่”โค้ชเบ๊” ได้สอนและติวเกมรับ ส่งผลให้หลังบ้านสระบุรี มาความแข็งแกร่งขึ้นทันตา และสร้างปาฏิหาริย์รอดตกชั้นได้แบบเหลือเชื่อ ก่อนที่ทั้งคู่จะกลับมาเจอกันอีกครั้งที่สโมสรสุโขทัย เอฟซี ในปี 2017
6.ปฐมชัย เสือสกุล
ดาวเตะจากจังหวัดชัยนาท ผู้มีอาชีพเสริมเป็นพ่อขายขนม ทั้งชีวิตเขาไม่เคยได้โอกาสสัมผัสเวทีไทยลีกมาก่อน
กระทั่งในปี 2015 “ใหม่” ถูกดึงตัวไปร่วมทีมสระบุรี เอฟซี ทำให้เขาได้มีโอกาสร่วมงานกับ”โค้ชเบ๊” ผู้ที่ปรับตำแหน่งให้กลายเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางที่ยืนอยู่หน้าแนวรับ และใส่แท็คติกการเล่นเพิ่มเติมเข้าไปคือทีเด็ดในเรื่องวางบอลที่แม่นยำราวกับจับวาง และลูกยิงไกลจากแถมส่องที่มีประสิทธิภาพ
ผลงาน 24 เกม จากการยิง 3 ประตู เพียงพอจะทำให้ราชบุรี มิตรผล ซื้อตัวไปร่วมทีมเมื่อปี 2016 ด้วยวงเงิน1 ล้านบาท พร้อมเงินเดือนมหาศาล ซึ่งตัวปฐมชัย คงต้องมาขอบคุณ”โค้ชเบ๊” ที่ช่วยเปลี่ยนชีวิตในสนามและนอกสนามดีขึ้นภายในเวลา1ปี
7.ทินกร อสุรินทร์
แบ็คซ้ายจอมบุกที่ย้ายจากสโมสรตราด เอฟซี มาร่วมทีมสระบุรี พร้อมๆกับ ปฐมชัย เสือสกุล “กร” หวังที่จะเล่นบอลระดับสูงในประเทศสักครั้งหนึ่งในชีวิต แม้จะไร้ชื่อเสียงจากบอลนักเรียนรวมถึงดีกรีทีมชาติ แต่ผลงานจากลีกภูมิภาคและดิวิชั่น 1 ทำให้สระบุรี เชื่อว่าหมอนี่ต้องเล่นได้แน่
ทินกร ปักหลักเป็นแนวรับแต่ความขยันในการวิ่งไล่บอล ทำให้”โค้ชเบ๊” มองเห็นจุดเด่น และปรับมาเล่นเป็นกองกลางเพื่อตัดบอลจากคู่ต่อสู้ จนกลายเป็นนักเตะคนสำคัญที่ช่วยพาสระบุรี เอฟซี เอาตัวรอดในไทยลีกปีนั้นไปได้
ภายหลังจากการยุบทีมของสระบุรี เอฟซี ทินกร อสุรินทร์ ถูกขายไปยังสโมสรสุพรรณบุรี เอฟซี ในเวลาต่อมา ช่วงเลก2 ไทยลีก 2018 “โค้ชเบ๊” มารับงานคุมสุพรรณบุรี เขาจับ “กร”มาเล่นตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค แทนแบ็คซ้ายและกองกลางตัวรับ เพื่อใช้ประโยชน์ความสูงใหญ่ของนักเตะไว้ค่อยป้องกันบอลยาวกลางอากาศจากคู่ต่อสู้ ซึ่งก็ทำได้ดีเยี่ยมไร้ที่ติ
เอ็มเร่
