Mother Don’t Cry
ผมเคยเห็นแม่เสียน้ำตามาแล้ว 3 ครั้ง
ครั้งแรก คือ ตอนเด็กที่ผมเคยต้องแอดมิดเพราะเป็นไข้เลือดออก
ครั้งที่สอง คือ ตอนที่พี่ชายย้ายออกจากบ้าน
ครั้งที่สาม คือ ตอนที่พ่อเข้า CCU
แต่ผมไม่เคยเห็นแม่เสียน้ำตาให้กับเรื่องตัวเองเลยซักครั้ง
ผมคิดว่าแม่ผมเป็นคนที่เข้มแข็งที่สุดในบ้านก็ว่าได้
แม่ไม่เคยย่อท้อไม่เคยยอมแพ้กับทุกเรื่อง
และไม่เคยยอมอยู่เฉยๆ ทว่า 2-3 ปีหลังสุดมานี้
ผมรู้สึกได้ว่าร่างกายแม่เริ่มทรุดโทรมลง
หลังที่เคยยืนตรงก็งอค่อมลงมามากขึ้น
ขาโก่งออกพร้อมกับหัวเข่าที่เสื่อมทั้ง 2 ข้าง
แม่เคยกินกลูโคซามีน ทั้งฉีดยาแต่ก็เริ่มเอาไม่อยู่
กับอาการเจ็บเข่ารุนแรง
หมอลงความเห็นว่ายังไงก็ต้องผ่า
หลังจากที่พวกเราบ่ายเบี่ยงวิธีนี้กันมาตลอด
ก่อนที่แม่จะผ่าหัวเข่าผมอยากให้แม่สบายใจที่สุดจึงอยากพาแม่ไปเที่ยว ไปทำบุญ พักผ่อน
แล้วผมก็นึกได้ว่าแม่อยากไปสักการะพระธาตุอินทร์แขวน
ผมจึงตัดสินใจพาแม่ไปพระธาตุอินทร์แขวนที่เมียนมาร์
พระธาตุไจที่โย่ หรือ พระธาตุอินทร์แขวน
ชาวพุทธมีความเชื่อว่าพระธาตุไจที่โย่
เป็นที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า
ตั้งอยู่บริเวณหน้าผาสูงชันบนยอดเขาไจที่โย่
อย่างหมิ่นเหม่ เหมือนกำลังจะร่วงหล่นแต่ไม่หล่น
ท้าทายแรงดึงดูดของโลกเป็นอย่างมาก
ถือเป็นการวางน้ำหนักที่สมดุล
โดยมีธรรมชาติเป็นผู้สร้างสรรค์ออกมา
จึงเป็นที่มาของชื่อที่เราเรียกกันว่า พระธาตุอินทร์แขวน
ด้วยความอัศจรรย์และนับถือเป็นอย่างสูง
ชาวพม่าจึงยกพระธาตุอินทร์แขวนให้เป็น
1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของพม่า
ในการไปเที่ยวพม่าครั้งนี้
เนื่องจากแม่ผมเดินเหินไม่ค่อยสะดวก
ผมจึงติดต่อคนขับรถส่วนตัว
พร้อมไกด์นำทาง เพื่อให้แม่เดินทางได้สะดวก
แต่การจะขึ้นถึงบนยอดเขาไจที่โย่ได้นั้น
เป็นอะไรที่ต้องสมบุกสมบันพอสมควร
เพราะทางการไม่อนุญาติ
ให้รถส่วนตัวขับขึ้นเขาได้
เราจะต้องนั่งรถบรรทุกที่เค้าจัดเตรียมให้เท่านั้น
รถบรรทุกมีลักษณะคล้ายรถขนหมู
ผมเริ่มเป็นกังวลว่ามันจะทำให้แม่ลำบาก
เพราะต้องปีนขึ้นรถบรรทุกแล้วนั่งแออัดทั้งคนทั้งกระเป๋าเดินทาง
ผมนึกพร่ำบ่นกับตัวเองว่าน่าจะพาแม่มาให้เร็วกว่านี้
ในตอนที่แม่ยังเดินเหินได้สะดวก
รถบรรทุกใช้ทุกพื้นที่ได้คุ้มค่ามาก
มันสามารถอัดคนพร้อมสัมภาระเบียดเสียดเป็นปลากระป๋องได้
เมื่อได้เวลา สัญญาณนกหวีดถูกเป่าดัง
รถบรรทุกก็ขับซิ่งออกจากจุดสตาร์ท
คนขับซิ่งมาก ราวกับไม่ได้บรรทุกคนมาด้วย
อีกทั้งทางที่เวียนไปเวียนมาขึ้นๆ ลงๆ ไปตามเนินเขา
รถโยกขึ้นโยกลงไปตามเนินเขาและเส้นทาง
ด้วยความเร็วรถเหมือนรถแข่ง
ผมนึกว่ามานั่งรถไฟเหาะเล่นกันอยู่ เดี๋ยวโยกขึ้น เดี๋ยวโยกลง เดี๋ยวเบี่ยงซ้าย เดี๋ยวเบี่ยงขวา
ผมเห็นท่าทางแม่เริ่มตกใจกลัว
ผมจึงเริ่มชวนคุยไปเรื่อยเปื่อยพร้อมกับถ่ายรูปเล่น ทั้งๆที่มือสั่นเพื่อให้แม่หายกังวลและมันก็ได้ผล
ที่สุดเราก็มาถึงยอดเขาในช่วงเย็นก่อนพระอาทิตย์ตกพอดี
จากท่ารถบรรทุกที่ขับมาส่งถึงยอด
เรายังต้องเดินขึ้นเขาไปอีกเพื่อให้ถึงตัวพระธาตุ
แต่มีบริการแคร่หาม ผมจึงให้แคร่มาหามแม่
พาขึ้นยอดเขา ส่วนผมเดินอยู่ข้างๆตามไป
ที่ทางเข้าพระธาตุไจที่โย่
ผมมองเห็นซุ้มประตู
พร้อมรูปปั้นสิงห์ขนาดใหญ่
ชาวบ้านและนักท่องเที่ยว
ต่างเดินขึ้นมาเป็นจำนวนมาก
เสียงสวดมนต์ดังก้องอยู่บริเวณนั้น
ชาวพม่าจำนวนมากนั่งสวดมนต์
และมีอีกหลายคนที่มานั่งสมาธิต่อหน้าองค์พระธาตุ
ผมกับแม่เดินมาถึงหน้าองค์พระธาตุ
พระธาตุอินทร์แขวน มีลักษณะเป็นก้อนหินสีทองขนาดใหญ่
ตั้งอยู่หน้าผาแบบหมิ่นเหม่ บนยอดก้อนหิน
มีเจดีย์ครอบไว้อยู่ เป็นภาพอันน่าอัศจรรย์มาก
แสงอาทิตย์ยามตกดินสาดส่องมากับองค์พระธาตุ
นับเป็นวิวที่สวยยิ่งนัก ผมดีใจที่ได้พาแม่มา
และรู้สึกว่าโชคดีที่ได้มาจังหวะเวลานี้พอดี
ผมเห็นแม่ยกพนมมือไหว้องค์พระธาตุที่ด้านนอก
ผมเห็นน้ำใสๆ ที่ขอบตาแม่
แต่เที่ยวนี้ผมเห็นรอยยิ้มของแม่ด้วย…