โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

Virus in Film:  5 หนังโรคระบาด เมื่อโลกถึงคราวหายนะเพราะไวรัส 

Mango Zero

เผยแพร่ 30 ม.ค. 2563 เวลา 05.29 น. • Mango Zero

 

โรคระบาดที่เกิดจากไวรัสคือศัตรูตัวร้ายของมนุษยชาติมาแต่ไหนแต่ไร คนไม่รู้กี่ล้านต้องเสียชีวิตเพราะมัน เมืองหลายเมืองต้องปิดตายจนร้างเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด นักปราชญ์หลายสำนักถึงกับบอกว่า โรคระบาดหนึ่งครั้งสร้างความเสียหายได้มากกว่าศึกสงครามเสียด้วยซ้ำ

 

แม้ผลลัพธ์ของมันจะยังไม่รุนแรงชนิดที่คร่าชีวิตคนเป็นแสนล้าน แต่บทเรียนจากอดีตก็บอกเราว่า อย่าชะล่าใจหรือประมาทให้กับเจ้าไวรัส ‘โคโรน่า’  (ซึ่งไม่น่าจะมีใครไม่รู้จักมันแล้วเนอะ) เพราะทุกหายนะของโรคระบาดก็เริ่มต้นจากการระบาดในวงแคบๆ และการเสียชีวิตของคนนับล้านก็เริ่มจากคนนับสิบนี่แหละ

 

และเพราะปัจจุบัน ยังไม่มีการคิดค้นยา เซรุ่ม หรือวิธีรักษาไวรัสโคโรน่านี้แบบหายขาด นอกจากเราจะต้องดูแลตัวเองด้วยทุกวิธีเท่าที่ทำได้ อีกสิ่งที่ควรทำก็คือตระหนักและเรียนรู้จากเคสที่เคยขึ้นจริงในอดีต ว่าโลกรอดพ้นวิกฤตต่างๆ มาได้ยังไง

 

หรือเรียนรู้จากเรื่องสมมติ เพราะก็มีหนังและซีรีส์หลายเรื่องที่ว่าด้วยความวอดวายจากโรคระบาด มีตั้งแต่ที่สมจริงสุดๆ ไปจนแฟนตาซีจ๋าๆ (เช่น คนกลายเป็นซอมบี้ หรือโลกแตกพินาศเป็นเสี่ยงๆ ไปเลย) Mango Zero เลยขอใช้โอกาสนี้ ชวนทุกคนชม 5 หนังโรคระบาด ที่ฉายภาพโลกเมื่อถึงคราวหายนะจากไวรัสได้สมจริงสุดๆ มารู้พร้อมกันดีกว่าว่าหนังแต่ละเรื่องเขามีวิธีรับมือกับไวรัสของตัววเองกันยังไง

 

ไม่ดูช่วงนี้ก็ไม่รู้จะดูช่วงไหนแล้ว

 

 

Pandemic: How to Prevent an Outbreak (2020) เรื่องจริงของโรคร้าย

 

 

ไม่ใช่หนังแอ็คชั่นไซ-ไฟชื่อใกล้กันเมื่อปี 2016 แต่คือสารคดีทาง Netflix ที่ตีแผ่เรื่องจริงของเจ้าไวรัสที่ติดต่อจากสัตว์สู่มนุษย์ จนก่อให้เกิดโรคระบาดใหญ่ วงการแพย์และสาธารณสุขจึงต้องมีมาตรการป้องกัน ภายใต้ความตระหนักว่ามันมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคร้ายได้ตลอดเวลา

 

ซีรีส์ชวนให้เราคิดถึงภัยใกล้ตัวนี้ ด้วยคำถามว่า ไม่ใช่โรคระบาดขนาดใหญ่จะเกิดขึ้นหรือไม่ แต่มันจะเกิดเมื่อไหร่มากกว่า ผ่านเนื้อหาขนาด 6 ตอนที่ดูง่าย ไม่ซับซ้อน ไม่น่าเบื่อ

 

และอย่างที่บอก วิธีป้องกันตัวเองที่ดีที่สุดคือการตระหนักและเรียนรู้จากเคสที่เคยขึ้นจริง ซึ่งเรื่องราวในสารคดีชุดนี้นี่แหละ เรื่องจริง

 

The Flu (2013) 36 ชั่วโมงสุดท้าย ก่อนตายเพราะติดเชื้อ

 

 

หลายปีก่อนที่โลกจะรู้จักไวรัสโคโรน่า ยังไม่ลืมกันใช่มั้ยว่าเราเคยสูญเสียเพื่อนร่วมโลกไปหลายชีวิตจากเชื้อร้าย H5N1 หรือไข้หวัดนก – ถ้าลืม หนังเรื่องนี้จะช่วยย้ำเตือนความจำ

 

เพราะมันสร้างโดยมีเหตุการณ์ไวรัส H5N1 ระบาดเป็นแรงบันดาลใจ เล่าการตายอย่างปริศนาของแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายในตู้คอนเทนเนอร์ที่ขนขึ้นเรือข้ามประเทศ เดาไม่ยากว่าพวกเขาถูกไวรัสร้ายพรากลมหายใจไป และเดาไม่ยากอีกว่าโรคร้ายนี้แพร่กระจายอย่างรวดเร็วจนยากจะควบคุม ซึ่งอาการของคนที่ติดเชื้อก็เริ่มจากเป็นไข้ ตัวร้อน อ่อนแรง ก่อนระบบหายใจจะถูกทำลายจนสิ้นใจในที่สุด ภายในเวลาเพียง 36 ชั่วโมงนับตั้งแต่ติดเชื้อ

 

หนังยังแฝงประเด็นการเมืองไว้อย่างน่าสนใจ ถ่ายทอดผ่านท่าทีที่แฟนหนังเกาหลีคุ้นเคย คือดราม่ากินใจ จี้ถูกจุด และชวนให้ขบคิดต่อแม้หนังจบ

 

Contagion (2011) สัมผัส ดับชีวิต

 

 

เบ็ธ เอ็มฮอฟฟ์ กลับจากทำงานที่ฮ่องกงและเสียชีวิตกะทันหันจากการติดเชื้อ ไม่นานคนรอบข้างก็เริ่มไอรุนแรง มีไข้ เป็นลมชัก เลือดคั่งในสมอง และเสียชีวิตในที่สุด ก่อนเหตุสลดนี้จะแพร่กระจายจากวงแคบสู่วงกว้างในหลายประเทศทั่วโลกด้วยการสัมผัสและปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ในชีวิตประจำวัน

 

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดของสหรัฐฯ ระดมนักวิจัยหัวกะทิมาทำลายรหัสทางชีววิทยาของเชื้อโรคชนิดพิเศษที่ยังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งระหว่างแผนการยับยั้งเร่งด่วนนี้ รัฐบาลก็ปิดบังสาเหตุที่แท้จริงไม่ให้ประชาชนรู้ เพราะกลัวจะนำไปสู่การสูญเสียและวิกฤตความหวาดกลัวขั้นรุนแรงที่จะยิ่งทำให้เหตุการณ์ลุกลามยิ่งกว่าการแพร่ระบาดของไวรัส

 

ที่น่าสนใจคือ พาหะนำโรคในหนังเรื่องนี้เป็นสัตว์ตัวเดียวกับที่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนสันนิษฐานว่าเป็นพาหะของไวรัสโคโรน่า ใช่, ค้างคาวนั่นเอง

 

เราคงได้แต่ภาวนาให้มันเหมือนกันแค่เท่านี้ เพราะคงสยองเกินหากโลกแห่งความจริงเกิดคนไข้หมายเลขศูนย์ (Patient Zero) ที่เแพร่กระจายเชื้อไปทั่วโลกจนส่งมอบความตายแก่คนทั่วโลกกว่า 25 ล้านชีวิต

 

Outbreak (1995) ไวรัสที่แพร่พันธุ์และกัดกินทุกเซลล์ในร่างกาย

 

 

หนึ่งในหนังโรคระบาดที่ไม่ควรพลาดชม ขึ้นหิ้งจนติดแทบทุกลิสต์ของหนังแนวนี้ – เล่าย้อนไปในปี 1967 ในหมู่บ้านกลางป่าที่ประเทศซาอีร์ (สาธารณรัฐคองโก ในปัจจุบัน) เกิดการแพร่ของเชื้อโรคชื่อ โมทาบา ซึ่งทำให้คนตายได้ในเวลาเพียง 3 วัน กองทัพสหรัฐฯ เลยต้องกักกันไม่ให้เชื้อลุกลาม ด้วยการสั่งทำลายหมู่บ้านนั้นแล้วเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ

 

ทว่า 27 ปีผ่านไป โมทาบาก็กลับมาอีกครั้งเพราะลิงป่าแอฟริกาถูกจับมาทดลอง และมีคนแอบลักพาตัวลิงไปขายโดยไม่รู้ว่าเป็นพาหะนำโรค เชื้อโรคจึงค่อยๆ ลามจากลิงไปสู่คน ร้อนถึงผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรคระบาดต้องเร่งสอบสวนหาที่มาและช่วยเพื่อนร่วมโลกจากวิกฤตนี้ แต่กองทัพที่ตั้งใจปกปิดเรื่องของไวรัสก็เข้ามาห้ามไม่ให้สร้างยารักษาโรคสำเร็จ นั่นทำให้มนุษยชาติไม่ได้เผชิญหน้ากับภัยจากไวรัสร้ายเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงภัยจากคนกันเองด้วย

 

ไม่รู้ว่าไวรัสโคโรน่าที่กำลังเดินทางจากอู่ฮั่นไปทั่วโลกในตอนนี้ ถูกปกปิดข่าวและข้อเท็จจริงจากทางการจีนมากน้อยแค่ไหน แต่ก็ขอให้อย่ามากเลย ไม่อยากให้เหตุการณ์มันบานปลายเหมือนในเรื่องนี้

 

Quarantine (2008) ปิด-ตึก-ตาย

 

 

ดัดแปลงจากหนังสัญชาติสเปนเรื่อง  [●REC] (2007) ชวนเราตามติดชีวิต แองเจล่า เหยี่ยวข่าวสาว กับตากล้องคู่หู ที่กำลังถ่ายทำชีวิตนักผจญเพลิง ก่อนโชคชะตาจะพาพวกเขาและตำรวจเข้าไปที่อพาร์ตเมนต์ในกลางดึกคืนหนึ่ง แล้วพบหญิงแก่คุ้มคลั่ง น้ำลายฟูมปาก ทุกคนพยายามเกลี้ยกล่อมให้เธอสงบ แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิด เธอปรี่เข้ากัดนายตำรวจและนักดับเพลิง และทั้งหมดก็ถูกขังอยู่ในอพาร์ตเมนต์ พร้อมอาการที่เปลี่ยนไปของสองผู้เคราะห์ร้าย และตึกที่พวกเขาเข้าไปก็กลายสภาพเป็นนรก

 

นอกจากความน่ากลัวของพิษร้ายที่ออกฤทธิ์ฉับพลันเปลี่ยนคนให้กลายเป็นซอมบี้ผีบ้า เรายังเห็นมาตรการของรัฐที่บังคับใช้อย่างจริงจังต่อเหตุการณ์นี้  เมื่อศูนย์ควบคุมโรคระบาดประกาศให้อพาร์ทเมนต์หลังที่เกิดเหตุเป็นเขตกักกัน ทุกทางออกถูกปิดกั้นและคุ้มกันโดยทหารที่มีอาวุธครบมือ การสื่อสารทุกทางก็ถูกตัด หากมันก็ทำให้ผู้อยู่อาศัยตกอยู่ในความตื่นตระหนก และค่อยๆ ตกนรกทั้งเป็น

 

หวังเพียงอย่างเดียวว่าคงไม่มีเหตุการณ์ประมาณนี้เกิดขึ้นจริง ไม่ว่าจะเป็นตึกที่จีนหรือตึกที่ไหน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...