โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

แฟชั่น บิวตี้

สายแฟควรรู้! เทรนด์ "Sustainable Fashion" สวยมีสไตล์อย่างเดียวไม่ได้ ต้องใส่ใจโลกด้วย

Dek-D.com

เผยแพร่ 14 มิ.ย. 2564 เวลา 04.12 น. • DEK-D.com
รู้ลึกถึงปัญหาของ Fast Fashion เตรียมพร้อมเข้าสู่ Sustainable Fashion เทรนด์ของสายแฟทั่วโลก เปลี่ยนความคิดใหม่ ให้การใส่เสื้อผ้าซ้ำไม่ใช่เรื่องแปลก

Spoil:

  • Fast Fashionคือการผลิตเสื้อผ้าจำนวนมาก ด้วยต้นทุนต่ำ ออกจำหน่ายถี่ๆ เพื่อความต้องการตามเทรนด์แฟชั่นของลูกค้า
  • อุตสาหกรรมที่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด ติดอันดับ 2 ของโลกยังไม่พอ! ยังอันตรายต่อลูกค้าอย่างเรา และแรงงานผู้ผลิตด้วย
  • การปรับตัวครั้งใหญ่ของแบรนด์แฟชั่นทั่วโลก เข้าสู่วงการSustainable Fashionแค่เริ่มที่ซื้อเสื้อผ้าอย่างมีสติก็ช่วยโลกได้แล้ว

“ ชุดนี้ใส่ถ่ายรูปลงไอจีไปแล้ว จะใส่อีกได้ไง ”

“ ทำไมใส่เสื้อตัวนี้อีกแล้ว ใส่ซ้ำทุกอาทิตย์เลย ”

และอีกหลายๆ คำพูดที่มีความหมายคล้ายๆ กันว่า ทำไมถึงใส่เสื้อผ้าซ้ำๆ ชุดแบบนี้มันเอ้าท์แล้ว ไปซื้อใหม่เถอะ ซึ่งคำพูดเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราเห็นข้อมูลที่หลายคนอาจคาดไม่ถึงว่า อุตสาหกรรมแฟชั่น สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากเป็นอันดับ 2 ของอุตสาหกรรมทั้งโลกบวกกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ภัยธรรมชาติต่างๆ ที่แสดงให้ทุกคนเห็นชัดขึ้นทุกวันแล้ว ว่าโลกใบนี้ได้รับผลกระทบจากมนุษย์มากแค่ไหน และเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาที่เราจะปล่อยผ่านไปได้อีกแล้ว

Fast Fashion คืออะไร ไม่ดีตรงไหน ทำไมเราถึงควรเปลี่ยน

Fast Fashionจึงเป็นสาเหตุสำคัญของปัญหานี้ ช่วง 20 ปีที่ผ่านมา เราคงเห็นได้ว่าเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่วางขายทั่วไปราคาถูกลง ทำให้เราซื้อเสื้อผ้าได้มากขึ้น แต่ใส่แค่ไม่นานก็หลุดเทรนด์ ไม่ก็ดูเก่าลงหรือหลุดรุ่ยไปถึงจะใส่ไปไม่กี่ครั้ง จนต้องซื้อใหม่ ซึ่งนี่เป็นผลมาจาก Fast Fashionซึ่งก็คือ การผลิตสินค้าจำนวนมาก โดยใช้ต้นทุนต่ำ มีคอลเลคชั่นใหม่ๆ ผลิตออกมาขายปีละนับไม่ถ้วน

ซึ่งความจริงแล้ว Fast Fashionก็เกิดจากผู้ซื้ออย่างเราๆ นี่แหละ ที่ต้องการตามเทรนด์แฟชั่นที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วตลอดเวลา ซื้อมาใส่ไม่กี่ครั้งก็ทิ้งเพราะเทรนด์แฟชั่นใหม่ก็เข้ามาอีก เมื่อความต้องการสินค้าสูง เป็นธรรมดาของเหล่าผู้ประกอบการที่จะคิดวิธีที่จะได้เงินของลูกค้า โดยผลิตสินค้าที่เน้นเร็ว ทันสมัย ราคาไม่สูง คุณภาพต่ำลงกว่าเดิมก็ได้ เพราะลูกค้าก็ใส่แค่ไม่กี่ครั้ง และจากการกระบวนการผลิตและพฤติกรรมของผู้บริโภคทั้งหมดนี้ ทำให้กระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบของ Fast Fashionส่งผลกระทบในหลายๆ ส่วน ไม่ใช่แค่สิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่มีแนวโน้มว่าผลกระทบจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามอุตสาหกรรมนี้ที่โตขึ้นทุกวันๆ

ผลกระทบที่คาดไม่ถึงของแฟชั่นสุดอินเทรนด์

อย่างแรกคือ ผลกระทบต่อผู้ผลิตนั่นคือแรงงานผลิตเสื้อผ้าที่ทำงานในโรงงาน ซึ่งมักจะอยู่ในประเทศที่มีค่าแรงถูก ไม่ได้มีการบวนการจัดการของเสียและมลพิษที่ถูกต้องตามที่ควรเป็น ทำให้ผู้ใช้แรงงานจะมีอาการเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับ ปอด หรือโรคมะเร็งชนิดต่างๆที่เกิดจากการทำงานและสารพิษที่ได้รับ แรงงานเหล่านี้ยังต้องแบกรับความเสี่ยงจากการทำงานในแต่ละวัน ในโรงงานที่ไม่ได้มาตรฐานอย่างเหตุการณ์โรงงานผลิตเสื้อผ้าถล่มในบังกลาเทศ เมื่อปี 2013 ที่มีผู้เสียชีวิตกว่าพันคน ยิ่งกว่านั้นคือแรงงานบางส่วนถูกกดขี่ให้ทำงานอย่างหนักในโรงงานเสื้อผ้าที่ผลิตแบบ Fast Fashion บางประเทศถูกบังคับให้ทำงานเกินเวลางาน โดยไม่มีวันหยุด รวมไปถึงการบังคับใช้แรงงานผู้หญิงและเด็กด้วย

ผลกระทบต่อสุขภาพของลูกค้าอย่างเราทุกคน มีนักวิทยาศาตร์ได้ออกมาเตือนว่า สารเคมีที่มาจากกระบวนการผลิตสามารถอยู่บนเสื้อผ้าได้ ถึงเราจะซักแล้วก็ตามซึ่งสารเคมีเหล่านั้นมีอันตรายต่อสุขภาพ เช่น สารฟอร์มัลดีไฮด์ ที่ใช้ป้องกันเสื้อผ้าจากเชื้อรา และไม่ให้เสื้อผ้ายับระหว่าขนส่ง สารนี้ทำให้เกิดความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ได้ โดยจะเจาะเข้าตามผิวหนังของเรา และยังมีสารเคมีอื่นๆ อีกที่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกมากมาย

และผลกระทบที่ใหญ่ที่สุดของ Fast Fashion ก็คือ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ มลพิษทางน้ำตั้งแต่กระบวนการปลูกฝ้าย ซึ่งเป็นพืชที่ต้องใช้น้ำมากร่วมกับปุ๋ยเคมีเพื่อให้ได้ผลผลิตตามต้องการ ทำให้น้ำที่ไหลออกจากไร่ฝ้ายจะมีสารตกค้าจากปุ๋ยเคมีอยู่มากพอมาถึงการผลิตในโรงงาน ก็จะมีน้ำเสียจากการย้อมสีและการซักฟอกทำให้น้ำนั้นเต็มไปด้วยสารปรอท ตะกั่ว และสารหนู ถูกปล่อยลงไปสู่แหล่งน้ำ โดยไม่ผ่านการบำบัดตามมาตรฐาน เป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำ คนที่อาศัยอยู่ริมน้ำ และคนที่นำน้ำไปกินหรือใช้ต่อ มลพิษทางอากาศอุตสาหกรรมเสื้อผ้าปล่อยคาร์บอนที่ทำให้เกิดภาวะเรือนกระจกคิดเป็น 10% ของทั้งโลก ทั้งจากกระบวนการผลิตและการขนส่งและเส้นใยสังเคราะห์ที่ใช้ในการทำเสื้อผ้า Fast Fashion ส่วนมากใช้เชื้อเพลิงฟอสซิสในการผลิต ทำให้ต้องใช้เชื้อเพลิงและมีการเผาไหม้มากกว่าเส้นใยธรรมชาติ และโรงงานของเสื้อผ้าเหล่านี้ยังมักจะอยู่ในประเทศที่ใช้เชื้อเพลิงถ่านหินเป็นหลัก ทำให้มีการเผาไหม้สูงอีกด้วย

Sustainable Fashion สวยอย่างเดียวไม่พอ ต้องรักษ์โลกด้วย

เห็นผลกระทบขนาดนี้แล้ว หลายคนคงเริ่มอยากรู้แล้วว่า เราควรทำยังไงเพื่อให้ทั้งเราและโลกของเราปลอดภัยจากผลกระทบของ Fast Fashion เช่นเดียวกันกับหลายๆ แบรนด์แฟชั่นที่ให้ความสนใจกับปัญหานี้เช่นกัน เราจึงอยากแนะนำให้ทุกๆ คนรู้จักกับ Sustainable Fashionหรือแฟชั่นแบบยั่งยืน กระแสใหม่ของวงการแฟชั่น ที่หันมาเอาใจใส่กับโลกของเรามากขึ้น ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ การใช้เส้นใยธรรมชาติ การออกแบบให้เป็นไอเทมที่ Timeless ไม่จำกัดยุคและฤดูกาล เอาไป Mix&Match กับเสื้อผ้าได้หลายสไตล์ ผลิตในโรงงานที่ได้มาตรฐานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการปฏิบัติต่อแรงงานอย่างเป็นธรรม

อธิบายอย่างนี้คงดูเป็นเรื่องใหญ่เกินไปสำหรับวัยรุ่นอย่างเรา ดังนั้นจึงขอแนะนำ 3 ขั้นตอนง่ายๆ เพื่อให้วัยรุ่นก็เป็นส่วนหนึ่งของ Sustainable Fashion ได้

  • เลือกซื้อเสื้อผ้าอย่างมีสติง่ายที่สุดคือการคิดว่าเราจะได้ใส่บ่อยมั้ย เอาไปแมชกับเสื้อผ้าที่มีอยู่ได้รึเปล่า แต่ควรคิดไปมากกว่านั้นด้วย เช่น เลือกซื้อเสื้อผ้าที่ผลิตในท้องถิ่นหรือในประเทศของตนเอง เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากการขนส่ง เลือกแบรนด์ที่ใช้วัสดุหรือเส้นใยธรรมชาติ ที่ปลูกแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผลิตในโรงงานที่ใช้พลังงานหมุนเวียน ได้มาตรฐานทั้งการผลิตและการจัดการของเสีย
  • อุดหนุนเสื้อผ้าหรือสินค้าแฟชั่นมือสองหรือนำเสื้อผ้าของเราที่ไม่ใส่แล้วมาขายต่อเป็นมือสองก็ได้ เป็นการยืดวงจรชีวิตของเสื้อผ้าแต่ละชิ้น ซึ่งตอนนี้เป็นที่นิยมมาก จะเห็นได้ว่ามีเสื้อผ้ามือสองขายในช่องทางออนไลน์ หรือแหล่งเสื้อผ้ามือสองต่างๆ จนตอนนี้กลายเป็นกระแสความนิยมไปแล้ว ซึ่งความนิยมนี้อาจกลายเป็นข้อเสียได้ เพราะเสื้อผ้ามือสองทำให้เราคิดน้อยลงในการซื้อ พอใส่ไม่ได้หรือไม่ถูกใจก็ทิ้งเป็นขยะอยู่ดี และสิ่งสำคัญคือ การซื้อเสื้อผ้ามือสอง ต้องตรวจเช็คสภาพก่อนซื้อให้ดี ว่าตำหนิของเสื้อผ้านี้เรารับได้มั้ย และอย่าลืมนำมาซักทำความสะอาดให้ดีก่อนใส่ด้วยนะ
  • ดูแลเสื้อผ้าของเราอย่างดี ถ้าใส่ไปแล้วขาดหรือเสียหายในส่วนที่ซ่อมได้ ก็ลองซ่อมดูก่อน หรือลองนำเสื้อผ้าเก่าๆ มาปรับให้ทันสมัย หรือใส่ได้หลายแบบมากขึ้น ก็เป็นการยืดอายุของเสื้อผ้าได้ดีเช่นกัน

การปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับ Sustainable Fashionคงเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่สำหรับวัยรุ่นอย่างเรา เพราะสินค้าที่เป็นแฟชั่นแบบยั่งยืน ก็มักจะมีราคาสูง แต่ในวัยของเราแค่เริ่มต้นที่การเปลี่ยน Mindset ของตนเองเกี่ยวกับสินค้าแฟชั่นว่า เสื้อผ้าใส่ซ้ำไปซ้ำมาก็เป็นเรื่องปกติ และคิดเยอะๆ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อเสื้อผ้า ก็เป็นการเริ่มเปลี่ยนแปลงเข้ากับ Sustainable Fashion ได้แล้วหวังว่าชาว Dek-D ของเราจะได้ความรู้ที่เป็นประโชน์กันนะคะใครมีไอเดียเกี่ยวกับ Sustainable Fashion ในแบบของตนเอง หรือมีแบรนด์แฟชั่นแบบยั่งยืนที่อยากบอกต่อ มาแชร์กันในคอมเมนต์ได้เลย

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...