เคยเบื่อเคยเซ็งกับตัวเลขในบัญชีที่ยอดคงเหลือไม่เป็นใจกันใช่ไหม อยากเก็บเงินแทบแย่แต่ก็ไม่รู้ว่าเงินมันไปไหนหมด.. สัปดาห์นี้เรามีชาเลนจ์มาให้ลองทำกันเล่นๆ สัก 1เดือน เชื่อว่าหากทำได้ สิ้นเดือนต้องมีเงินเหลือให้ชื่นใจกันบ้างไม่มากก็น้อย
หยุดกินขนม-น้ำหวานให้ได้นาน 1เดือน
สารพัดความอร่อย ชานมไข่มุกหอมๆ กาแฟฟองโฟมนุ่มละมุน รวมไปถึงขนมเค้กเนื้อแน่น และอีกหลายเมนูที่ราคาไม่ใช่น้อยๆ บางทีอาจแพงกว่าอาหารมื้อธรรมดาเสียด้วยซ้ำ ลองงดให้ได้สักเดือนแล้วมาดูกันว่ามีเงินเหลือเท่าไหร่กัน
หยุดซื้อเสื้อผ้า/เครื่องสำอาง 1เดือน
CF no CC ของมันต้องมี ไม่งั้นเชยแย่.. ลองตั้งใจหยุดช็อปสักเดือนทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ซื้อแต่ของใช้ที่จำเป็นเท่านั้น หยุดวิ่งตามบรรดาแฟชั่นฉาบฉวยที่มาไวไปไว เชื่อสิว่าเหลือเงินในบัญชีจะอยู่แน่ ๆ
ทำอาหารกินเองให้บ่อยขึ้นแทนการซื้อ
ลองลดการซื้ออาหารในแต่ละมื้อแล้วหันมาเข้าครัวทำกินเองให้บ่อยขึ้น จะช่วยควบคุมต้นทุนค่าอาหารได้ไม่น้อยเลย แถมยังได้ควบคุมโภชนาการได้อีกต่างหาก แต่ถ้าใครที่ไม่เคยเข้าครัว ลองค้นหาวิธีทำเมนูจานง่ายได้จากคลิปหรือเว็ปไซต์สอนทำอาหารแล้วทำตามดูสิ
ลดการใช้ไฟในบ้าน
ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป การอยู่บ้านมากขึ้น กับอากาศบ้านเราที่ร้อนระอุ แลถายในบ้านก็ไม่ได้เย็นฉ่ำชื่นใจเหมือนอยู่ที่ออฟฟิศ จึงทำให้เราเปิดแอร์มากขึ้น ค่าไฟก็เพิ่มสูงขึ้นตามการใช้งาน ลองหันมาตั้งเวลาในการเปิด-ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าให้เป็นระเบียบ เช่นการเปิดหน้าต่าง เปิดพัดลม แทนการเปิดแอร์ ในช่วงกลางวันก็จะช่วยประหยัดค่าไฟลงได้
หยอดกระปุกให้ได้ทุกวัน
ลองตั้งเป้า ตั้งใจ สะสมเงินในกระปุกให้ได้วันละเล็กวันละน้อย ตั้งกฎการหยอดกระปุกว่าต้องมีเงินมาหยอด ‘ทุกวัน’ จะเท่าไหร่ก็ตาม เป็นการบังคับตัวเองให้เก็บเงินได้อีกทาง
จดลิสต์ของต้องใช้ก่อนออกไปซื้อ
เวลาจะออกไปซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น เช่นการจ่ายตลาด หรือแม้แต่ซื้อของทั่วไป การจดลิสต์รายการของที่ต้องการจะทำให้เราไม่หลงทางไปกับการซื้อของที่ยังไม่จำเป็นแต่เห็นแล้วชอบ เห็นแล้วอยากได้ อย่าให้กิเลสครอบงำจนทำให้งบบานปลาย
ขายของไม่ใช้แล้วให้ได้อย่างน้อยเดือนละ 1ชิ้น
เป็นวิธีการเคลียร์ของที่ไม่ได้ใช้ จับขึ้นมาแล้วไม่รู้สึกถึงแรงบันดาลใจ บางอย่างที่เราคิดว่าหลุดเทรนด์หรือใช้จนเบื่อแล้ว อาจจะเป็นสิ่งที่คนอื่นกำลงตามหา ลองถ่ายภาพแล้วโพสต์ขายส่งต่อให้คนที่ต้องการ อย่างน้อยเดือนละชิ้นสองชิ้น หากมีคนสนใจทักมก็ได้ถือโอกาสปล่อยของไม่ได้ใช้ และยังได้เงินเข้ากระเป๋าอีกด้วย ดีกว่าเก็บไว้ไม่ได้ใช้ประโยชน์น่าเสียดาย
ลดการใช้บัตรเครดิต
จริงอยู่ที่เราควรต้องก้าวสู่สังคมไร้เงินสด และการหยิบเงินส่งกันไปมาในยุคโควิดนั้นคงไม่สะดวกใจสักเท่าไหร่ ทว่าการใช้บัตรเครดิตก็มีการส่งต่อกันไปมาระหว่างผู้ถือบัตรกับผู้ให้บริการก็แทบไม่ต่างกับการจ่ายและการทอนเงินสดเช่นกัน ลองเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายมาเป็นการ โอนจ่าย หรือ แสกนจ่าย จะช่วยให้เห็นเลขเงินคงเหลือในบัญชีหลังจากที่ได้จ่ายเงินซื้อของไป ดีกว่าการใช้บัตรเครดิต และปลอดภัยกว่าการใช้เงินสด
ลองเลือกทำเป็นชาเลนจ์ด้านบนอย่างน้อยเป็นระยะเวลาสักเดือนหนึ่ง แล้วมาดูกันว่าได้ผลมากน้อยแค่ไหน มีเงินเก็บในบัญชีเพิ่มขึ้นขนาดไหน แล้วนำไปปรับใช้ให้เลขในบัญชีมีเพิ่มขึ้นกันนะ
