เปิดภาพ "ชูวิทย์" ส่งความห่วงใย ถึงเอฟซี ขอบคุณทุกกำลังใจ อโหสิกรรม "สันธนะ" หลังศาลสั่งจำคุกคดีหมิ่นโรงแรม

วันที่ 10 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว โพสต์ภาพ พร้อมข้อความระบุว่า …ข้อความจาก "ชูวิทย์" ฝากถึง FC ครับ

"ด้วยความคิดถึง ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจ ในชีวิต เดินทางมาถึงจุดเปลี่ยน จึงทำให้คิดได้

มีอีกหลายเส้นทาง ที่ชีวิตไม่เคยไปสัมผัส

ฝรั่งเรียก " Bucket list " สิ่งที่ทำ ก่อนชีวิตสูญสลาย

สิ่งหนึ่งคือ ไม่มัวติดอยู่กับอดีต เพราะนับจากนี้ไป อีกไม่นาน เราก็จะตายไปกันหมด ไม่ช้า ก็เร็ว

สิ่งที่เราหามาทั้งชีวิต ก็จะไปตกในมือคนอื่นๆ

จะไม่มีใคร จำเราได้อีกต่อไป

แม้แต่คนในครอบครัว จะมีใคร ไปจำ พ่อ ของ ทวดได้ บ้าง ?

เราควรคิดถึงสิ่งที่เรามีความสุขในวันนี้

เลิก คิด แค้น เคือง พยาบาท ใครต่อใคร

เพราะทุกสิ่ง มันผ่านไปหมดแล้ว

ยิ้ม พอใจ กับที่เรามีอยู่วันนี้

ที่ทุกๆ เช้า เราตื่นมาได้ ด้วยร่างกายที่ไม่เจ็บปวด

แม้จิตใจจะยังสู้ แต่ร่างกายไม่ไหว ก็ต้องปล่อยไป

มีอีกหลายอย่างที่เราต้องทำก่อนตาย หาความสุข ในสิ่งที่ เราอยากทำ"

ส่วน ข้อความถึง "สันทนะ" หลังศาลอาญา มีคำพิพากษาในคดีหมิ่นประมาท โรงแรมของชูวิทย์ ระบุว่า

“ข้าพเจ้า ขอขมากรรมต่อท่าน ที่ได้ล่วงเกินประการใด ก็ตาม

ทั้ง กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ทั้งตั้งใจ และไม่ตั้งใจ

ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทั้งรู้ก็ดี ไม่รู้ก็ดี

นับแต่อดีตชาติเป็นต้นไป มาจวบจนปัจจุบันชาติ

ขอให้อโหสิกรรม ต่างคนต่างเดิน ไป ตามทางตัวเองด้วย เทอญ

อย่าได้พบเจอกันอีก ไม่ว่าชาตินี้ชาติไหน"

ขณะที่ เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดำ อ.2892/2565 ที่บริษัท ต้นตระกูล จำกัด โดยนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดังเป็นโจทก์ฟ้อง นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล เป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ, หมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาพร้อมเรียกค่าเสียหาย จำนวน 100 ล้านบาท โดยศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามมาตรา 328 ให้จำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสน แต่จำเลยไม่เคยต้องโทษมาก่อนเห็นควรให้โอกาสกลับตัวเป็นคนดี โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี ให้ชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่ง 1 แสนบาท และลงโฆษณาคำพิพากษาโดยย่อกับสื่อ 5 วัน ติดต่อกันนั้น

ภายหลังศาลอ่านคำพิพากษา นายสันธนะกล่าวว่า วันนี้ศาลยกฟ้องตนในความผิดฐานแจ้งความเท็จ แต่ให้ลงโทษในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา 1 ปี ซึ่งศาลก็เมตตารอลงอาญาไว้ 1 ปีเนื่องจากศาลเห็นว่าสิ่งที่ตนกระทำเพื่อประโยชน์สาธารณะไม่ใช่เพื่อส่วนตัว โดยตนก็เตรียมที่จะนำเหตุผลตรงนี้สู้คดีในชั้นศาลอุทธรณ์ต่อไป โดยส่วนตัวตนกับนายชูวิทย์มีคดีฟ้องร้องกันหลายคดี ที่ตนฟ้องนายชูวิทย์ก็เป็นสิบคดี แต่ที่ผ่านมานายชูวิทย์ขอเลื่อนคดีโดยอ้างเหตุว่าป่วย ก็ฝากถึงชูวิทย์ให้ดูแลสุขภาพให้ดีจะได้กลับมาสู้คดีกันในศาลอีก

ภาพจาก : กรรมกรข่าว